บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 นรกไม่ต้องการตัว สวรรค์ไม่ต้องการจิต

แสงอาทิตย์จับตัวเป็นแท่งยาว ลอดต้นไม้ใหญ่จ่อลงตรงใบหน้าเกลี้ยงเกลา จนเริ่มแดงขึ้นเพราะไอร้อน เสิ่นหรงลี่สตรีผู้ไม่โปรดปรานความร้อนจิ๊ปากด้วยความขุ่นเคือง แต่ทันใดนั้นร่างบางก็เด้งตัวขึ้นมาในทันที

“เหตุใดยังไม่มีใครมาอีก” เสิ่นหรงลี่หันมองรอบตัวก็เจอชายที่พบเจอเมื่อคืนวาน เมื่อเห็นว่าปลายเท้าของชายผู้นี้อยู่ในน้ำ นางจึงฝืนความเจ็บปวดของตัวเองลากให้เขาขึ้นมาพ้นน้ำ

“ดีนักที่แผลมิได้อยู่ในน้ำ มิเช่นนั้นเลือดคงหมดตัวไปเสียแล้ว….เอ๊ะ! มิใช่ว่าเราทั้งคู่ตายแล้วหรือ” เสิ่นหรงลี่ยกมือตบหน้าตนเองไปเต็มแรงคราหนึ่ง

“โอ๊ย ตัวยังอุ่น ตียังเจ็บ แบบนี้เป็นคนแน่นอน” หรงลี่หันตัวไปยังทิศตะวันตกที่เชื่อกันว่าเป็นทิศของคนตายจากนั้นคุกเข่าเคารพเต็มพิธีการ

“ความผิดครั้งนี้ลูกยังมิอาจขออภัยต่อท่านแม่ได้ ลูกขอกล่าวผ่านทวยเทพไปยังปรโลกให้บอกกล่าวแก่ท่านแทน เมื่อนรกยังมิได้ต้องการตัวลูก สวรรค์มิต้องการดวงจิต ย่อมหมายความว่าลูกยังมีสิ่งที่สะสางไม่แล้วเสร็จ ท่านแม่โปรดรอหรงลี่ผู้นี้ด้วย”

สตรีผู้มีใบหน้าซีดขาวถอนหายใจออกมาไม่ต่างกับขุนนางวัยชราผู้คิดแก้ปัญหาไม่ตก เมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอันใดต่อ นางจึงเดินเสาะหาสมุนไพรรอบน้ำตกแห่งนี้ ก่อนจะนำมาบดพอกแผลให้ชายที่นอนเจ็บตัวข้ามคืนมาร่วมกัน

“คุณชายสิ่งที่ข้าทำก็รู้แค่ในตำราที่ผ่านตาเท่านั้น ไม่เคยออกรักษาผู้ใดมาก่อน ข้าจะทำให้สุดความสามารถ หากไถ่ได้ชีวิตหนึ่งบาปที่ตัวข้าทำไว้กับผู้อื่นอาจเบาบางลง” เสิ่นหรงลี่นึกถึงผู้คนที่ต้องตกตายเพราะฝีมือนางทั้งทางตรงและทางอ้อมแล้วก็รังเกียจตนเองนัก

นางสาบานกับตนเองว่าจะต้องรักษาและดูแลชายผู้นี้ให้ฟื้นคืนขึ้นมาให้ได้ เพราะนี่อาจเป็นสิ่งที่ทวยเทพต้องการให้นางทำ คุณหนูเสิ่นคิดเช่นนี้เพราะเชื่อว่าเหตุบังเอิญนั้นไม่มีจริง ในวันที่นางประกาศศึกกับมารร้ายตนนั้น ในยามที่ไม่แน่ว่าอาจตาย ชายผู้นี้กลับปรากฏตัวขึ้น เสิ่นหรงลี่ผู้นี้เชื่อจนหมดใจว่าเขาคือผู้ที่จะพานางไปพบคำตอบว่าเหตุใดมารผู้นั้นจึงได้ทำลายชีวิตนางเช่นนี้

เสิ่นหรงลี่ล้วงหายาเม็ดที่ได้มาจากพี่สาวต่างมารดา ระหว่างนั้นก็สังเกตแต่ละเม็ดว่าเสิ่นลี่อิงบอกสรรพคุณไว้อย่างไร

“ในยามที่ข้ายังมิทันได้ตาสว่าง ข้าหลงคิดไปว่าพี่สาวของข้าจะลอบทำร้ายข้า ยาที่แจกจ่ายให้ครอบครัวส่วนของข้านั้นคงเป็นพิษ ทั้งยังมิเคยป่วยไข้จึงไม่เคยใช้ของลี่อิง แต่กลับเอาไว้ใกล้ตัว หวังจะใช้มันกับนางหากสบโอกาส ข้าบ้าไปแล้วจริงๆ แต่ก็เป็นโชคดีของคุณชายแล้ว ยานี้ดีนักข้าเห็นมากับตา”

“เอาล่ะ ท่านตัวร้อน ต้องกินเม็ดกลมสีขาวนี้เพื่อลดไข้ก่อน แต่หรงลี่จะป้อนให้คุณชายอย่างไรดีเล่า ถ้วยก็ไม่มี ของจะบดยาก็ไม่มี”

คุณหนูรองสกุลเสิ่นเมื่อไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจเคี้ยวเม็ดยานั้น แล้วใช้มือตักน้ำใส่ปากตนเอง ก่อนจะจุมพิตชายแปลกหน้าเพื่อป้อนยาลดไข้

รสขมและความเขินอายต่อสู้กันจนใจของหรงลี่แทบจะทะลุออกมาด้านนอก แต่นางก็ไม่อาจเร่งทำให้เสร็จสิ้นโดยไวได้ เพราะนั่นอาจทำให้ยาหกออกมาโดยไม่จำเป็น กว่าจะให้ยาเสร็จสิ้นก็ต้องจุมพิตชายที่นางเพิ่งสังเกตว่าหล่อเหลาเพียงใดไปเกือบสิบรอบ และในรอบสุดท้ายด้วยความประหม่าทำให้นางกัดปากตนเองจนเลือดออก ส่งให้ชายผู้นี้นอกจากยาแล้วก็ยังได้รับเลือดของตัวนางไปด้วย

“ยานี้ต้องให้ทุกสองถึงสามชั่วยาม หากท่านไม่ยอมฟื้นมาเสียที ไม่แน่ว่าตัวข้าก็คงต้องล่วงเกินท่านอยู่อย่างนี้เสียแล้ว”

เสิ่นหรงลี่ที่เห็นว่าแสงแดดเริ่มมาจ่อที่กลางศีรษะแล้ว นางก็รีบเร่งมองหาที่หลบภัยสำหรับช่วงกลางวันที่อาจร้อนจัด และแน่นอนว่าจะต้องใช้เป็นจุดพักสำหรับค่ำคืนนี้ด้วย แม้เมื่อคืนก่อนนี้ทั้งสองจะไม่ถูกสัตว์ป่าทำร้าย แต่โชคคนเราคงไม่อาจดีเช่นนี้ได้ทุกคืนวัน

หรงลี่เดินอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่ามีถ้ำอยู่หลังม่านน้ำตก เมื่อเข้าไปสำรวจด้วยความกล้าๆ กลัวๆ แล้วก็พบว่าไม่มีสัตว์ร้ายอยู่ และพอมีแสงลอดเข้ามาให้มองเห็นจึงไปลากชายร่างใหญ่ผู้นั้นเข้ามาภายใน นางตัดสินใจนำเสื้อคลุมตัวนอกของเขาออก เพราะนางไม่อาจลากเข้ามาได้รวดเร็วนัก อาภรณ์ของเขาจึงเปียกจากน้ำที่กระเด็นใส่ โชคยังดีที่ภายในถ้ำมีลมโกรกเข้ามาจึงวางใจว่าไม่นานก็คงแห้งสนิท

เสิ่นหรงลี่เมื่อจัดแจงชายที่ยังไม่ฟื้นให้เข้าที่แล้ว ตัวนางก็ออกไปหาฟืนไฟ การเสาะหาของมิใช่เรื่องง่ายสำหรับสตรีในห้องหอเช่นนี้ นางปั่นหมุนกิ่งไม้ตามที่อ่านในบันทึกการเดินทางของบัณฑิตผู้หนึ่ง แต่พยายามจุดไฟอยู่เกือบสองชั่วยามก็ไม่สำเร็จ เมื่อเห็นว่าตัวนางทำเท่าใดก็มิอาจทำได้แล้ว จึงนั่งเช็ดน้ำตาของตนอย่างท้อแท้

“นี่ท่านต้องฟื้นนะ ต่อให้มียาวิเศษแต่หากไม่มีความอบอุ่น ไม่มีไฟไว้ไล่สัตว์ร้าย ไม่มีไฟไว้ย่างปลา ไม่อาจหาผลไม้ได้เพียงพอ ท่านก็ไม่อาจรอดตาย ข้ามันโง่เอง คิดทำสิ่งเกินความสามารถ หากคุณชายฟื้นก็คงช่วยบอกกล่าวข้าให้ทำอย่างถูกต้องได้”

“…” มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอตอบกลับมา

เสิ่นหรงลี่จึงหยิบท้อที่พบเจอระหว่างหาสมุนไพรพอกแผลขึ้นมากัดกินแก้เครียด แต่ทว่าผลท้อรสชาติฝาดคอจนนางเกือบที่จะคายทิ้งออกมา “มิน่าเล่า ผลท้อนี้จึงเหลือเต็มต้น รสชาติเลวร้ายยิ่ง”

โกรก กราก…

ปากเล็กๆ นั้นมิได้มีทางเลือกมากนัก ต่อให้รสชาติเลวร้ายกว่านี้ นางก็ต้องกลั้นใจกินให้อยู่ท้อง มิเช่นนั้นคงไม่อาจมีแรงกายไปดูแลผู้ใด และคำตอบที่หวังจะได้ก็คงไร้ทางที่จะได้มา

เสิ่นหรงลี่หลับตานึกถึงผิงกั่วรสชาติหอมหวานในความทรงจำ จินตนาการว่านางกำลังกัดผ่านเปลือกสีแดงสด ฟันขบลงบนผลไม้เนื้อกรอบฉ่ำ หรงลี่หลอกตนเองจนรู้สึกสบายท้องแล้วจึงได้หยุดกิน

“เอาละ ได้เวลาที่ข้าต้องให้ยาท่านแล้ว” หรงลี่กล่าวพลางหยิบยาเม็ดกลมออกมาเขี้ยว และออกจากถ้ำไปตักน้ำเข้าปาก

จุมพิตรสขมปร่างระหว่างคนแปลกหน้าบังเกิดขึ้นอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ในครั้งที่เจ็ดกลับมีสัมผัสของจูบตอบกลับมา และมีมือใหญ่จับท้ายทอยของนางไว้ จากนั้นก็รู้สึกเจ็บจี๊ดเพราะนางโดนคนเบื้องล่างกัดปากจนเลือดออก หรงลี่ตกใจเปิดปากอ้า จนยาหกออกไปเล็กน้อย และนางต้องถอยร่นตัวออกมาทันที

“ยาหกหมดแล้ว! ท่านกัดปากข้าทำไม ยานี้มิใช่ว่าจะหาเพิ่มได้อีกแล้ว” คุณหนูรองเสิ่นร้องลั่นออกมา ก่อนจะกุมปากของตนไว้

“เจ้า…อาจเป็นศัตรู..ปะ ป้อนพิษ” เสียงแหบพร่าตอบออกมา

“เลอะเทอะยิ่ง! ข้าสูญเสียจูบแรกไปเป็นสิบครั้ง กลับกล่าววาจาว่าข้าป้อนพิษ ฮึก ฮืออ ฮือๆ” น้ำตาแห่งความกดดันหลั่งรินออกมาในทันใด อารมณ์เชิงลบที่นางกดข่มไว้ปะทุขึ้นจนมิอาจต้านทานได้อีกแล้ว เสิ่นหรงลี่ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย นางเหนื่อยแสนเหนื่อยกลับถูกกล่าวหา

“อย่า..ร้อง” เขาพยายามขยับร่างกาย แต่ก็มิอาจทำได้

“อย่ามาสั่งข้า ฮือออ เดี๋ยวข้ารู้สึกดีขึ้น ฮึก ก็จะหยุดร้องเอง”

“หึ” ชายที่นอนป่วยอยู่แค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลง นึกขบขันที่คนเหล่านั้นคิดว่าเขาอ่อนแอจนส่งนักฆ่าที่เต็มไปด้วยอารมณ์มาจัดการเขา

“น่าขัน”

________________
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel