บทที่ 4 ไม่เข้าใจ
เมื่อเสี่ยวเอ๋อนางวิ่งกึ่งเดินรีบมาเพราะกลัวว่าคุณชายหลินเฟิ่งจะรอนาน ก็เป็นดั่งที่นางคิดไว้จริงๆเมื่อมาถึงเขาที่ยืนรอนางด้วยใบหน้าที่แสดงความไม่พึงพอใจที่นางทำให้เขาต้องรอนาน
“ข้าบอกให้เจ้าเดินเล่นรอข้าอยู่แถวนี้ เจ้าไปที่ใดมารู้หรือไม่ว่าเจ้าทำให้ข้าเสียเวลาขนาดไหน”
เสี่ยวเอ๋อที่ยังเดินมาไม่ถึงก็ต้องถูกคุณชายหลินเฟิ่งต่อว่า ต่อหน้าสาวใช้ตนเอง
“ข้าขอโทษที่ให้ท่านรอนาน ข้าเกิดเรื่องนิดหน่อยเลย.....” ไม่ทันที่เสี่ยวเอ๋อจะพูดจบหลินเฟิ่งก็ได้ก้าวเท้าขึ้นรถม้าโดยไม่สนใจนาง เสี่ยวเอ๋อเองนางก็ไม่เข้าใจเวลานางทำอะไรทำไมถึงไม่ถูกใจเขาสักที นางรีบขึ้นรถม้าตามคุณชายไป
เมื่อรถม้าเคลื่อนออกจากหน้าวังมุ่งตรงกลับจวนของหลินเฟิ่ง เขาไม่แม้แต่จะพูดกับนางสักคำแถมยังไม่มองนางด้วยซ้ำ เสี่ยวเอ๋ออึดอัดเมื่อต้องมานั่งอยู่กับเขาเพียงลำพัง นางจึงเปิดหน้าต่างดูวิวรอบๆเมือง เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้ามาในป่าที่เป็นทางผ่านไปยังจวนของหลินเฟิ่ง จู่ๆล้อของรถม้าก็สะดุดกับก้อนหินขนาดใหญ่เข้าอย่างจัง ทำให้เกี้ยวโยกไปมา เสี่ยวเอ๋อที่ไม่ทันระวังตัวเพราะมองดูวิวทำให้ตัวของนางเอนเอียงตามความเคลื่อนไหวของเกี้ยวนั้น นางจึงตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“อ๊ายยย!!!. “ นางหลับตาเพราะความกลัวแต่ทว่าเมื่อรถกลับเข้าสู่สภาวะปกติ นางไม่รู้สึกเจ็บตัวแม้แต่น้อย นางรู้สึกถึงกลิ่นกายและอกอันกำยำของคุณชายเหมือนนางตกอยู่ในพะวังจึงนิ่งอยู่อย่างนั้นเนินนาน มีเพียงเสียงใจของนางที่เต้นดังโคร่มครามราวกับว่ากำลังเต้นระบำกันอยู่อย่างสนุกสนาน
“เจ้าจะอยู่แบบนี้อีกนานมั้ย ข้าเมื่อยเอาหัวเหม็นๆของเจ้าออกไปไกลๆตัวของข้าเดี๋ยวนี้ ช่างน่ารังเกียจจริงๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟังของหลินเฟิ่ง นางรีบลุกขึ้นจากกายของเขาและกลับมานั่งที่เดิมของนางโดยไม่พูดอะไรออกมาสักอย่าง
“คุณชายท่านบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือไม่” คนงานที่ขับรถม้าตะโกนเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“ข้าไม่เป็นอันใดหรอก เจ้ารีบควบม้าให้ถึงจวนเร็วๆเข้าเถิดอย่าชัดช้า แค่นี้ข้าก็เสียเวลาไปมากแล้ว”
“ได้ขอรับ” เสียงเท้าม้าที่วิ่งไปด้วยความเร็วขึ้นจนฝุ่นฟุ้งจนแทบมองไม่เห็นหนทางเสี่ยวเอ๋อพยายามจับที่นั่งไว้อย่างแน่นนางกลัวเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อครู่อีก นางไม่เข้าใจเลยเหตุใดหลินเฟิ่งต้องพูดไม่ถนอมน้ำใจนางสักนิด เพียงเพราะนางมาแทนพี่หญิงนั้นหรือ นางพยายามกลั่นน้ำตาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจไม่ให้ไหลออกมา จนรถม้าเคลื่อนตัวมาถึงจวนของหลินเฟิ่ง เสี่ยวเอ๋อรีบเดินลงจากรถม้า ก็รู้สึกเจ็บที่ขาขึ้นมาตอนแรกนางไม่รู้สึกอะไร นางพึ่งนึกได้เมื่อครู่นางล้มหัวเข่านางไปโดนเบาะนั่งของฝั่งหลินเฟิ่งก่อนที่ตัวของนางจะอยู่บนกายของเขา แต่ความที่เสียใจในน้ำคำที่ออกมาจากปากเขามันเจ็บเสียกว่าบาดแผลจนทำให้นางลืมความเจ็บไป จนเมื่อเดินลงจากรถม้า นางก็แทบจะล้มลงกับพื้นโชคดีที่หยางหยางมาประคองนางไว้ทัน
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ ทำไมคุณหนูถึงได้เจ็บขาแบบนี้” หยางหยางงรีบมาประคองคุณหนูของนางด้วยความเป็นห่วง
“ระหว่างเดินทางเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย เจ้ารีบประคองข้าไปที่ห้องเถอะ ข้าเหนื่อยอยากพักผ่อน” เมื่อหยางหยางได้ยินดังนั้นจึงรีบพาเสี่ยวเอ๋อเดินกลับจวน หลินเฟิ่งที่เดินตามลงมาก็สังเกตเห็นเสี่ยวเอ๋อที่เดินแปลกๆ เขาก็นึกได้ว่านางน่าจะได้รับบาดจ็บจากเหตุการณ์เมื่อครู่ หลินเฟิ่งเองก็ไม่เข้าใจตนเองทำไมเวลาอยู่ใกล้ๆนางเขาต้องไม่สบอารมณ์ตลอดเวลา เขาเองก็อยากเข้าไปดูนางแต่ทว่าเขากลัวเสียหน้าจึงปล่อยให้นางกลับจวนไปพักดีกว่า
“คุณหนูนั่งลงก่อนเจ้าค่ะ หยางหยางขอดูหน่อยเจ้าค่ะว่าคุณหนูมีแผลหรือไม่” เมื่อมาถึงห้องพักหยางหยางก็ให้เสี่ยวเอ๋อนั่งลง เมื่อนางดึงชุดของเสี่ยวเอ๋อขึ้นจนเห็นหัวเข่าก็พบว่าที่หัวเข่าของนางมีแผลที่เลือดไหลออกมาไม่หยุด หยางหยางมีใบหน้าที่ซีดเผือกทันที
“คุณหนูต้องเจ็บมากๆใช่ไหมเจ้าค่ะ เดี๋ยวหยางหยางจะไปต้มยามาให้คุณหนูแล้วจะไปหายาทากับท่านหมอคุณหนูนอนพักรอหยางหยางอยู่ที่นี่ก่อนนะเจ้าคะ”
“ข้าไม่ได้เจ็บขนาดนั้นสักหน่อยใยเจ้าต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วยเล่า”
“โธ่คุณหนูของหยางหยางเลือดไหลขนาดนี้ท่านจะไม่เจ็บได้อยางไร เชื่อหยางหยางนะเจ้าคะ” หยางหยางนางจับคุณหนูของนางไปนอนลงบนที่นอน นางจึงรีบไปที่ห้องครัวไปต้มยามาให้คุณหนูของนางระหว่างที่นางกำลังไปที่ห้องครัวนั้นก็เดินชนเข้ากับท่านอ๋องเพราะความรีบของนาง
“โอ๊ย!! “ หยางหยางล้มลงอย่างจัง
“เจ้านี่เหมือนนายเจ้าเสียจริง ซุมซ่ามทั้งนายทั้งสาวใช้”
“หยางหยางขอโทษคุณชายด้วยเจ้าค่ะ “
นางลุกขึ้นก้มหัวลงสำนึกผิด
“แล้วเจ้าจะไปที่ใดกันถึงรีบร้อนขนาดนี้.”
“คุณหนูเสี่ยวเอ๋อ...มิใช่เจ้าค่ะ คุณหนูเสี่ยวหลินนางบาดเจ็บที่หัวเข่าตอนนี้เลือดไหลไม่หยุดข้าเลยรีบมาต้มยาไปให้นางกินเจ้าค่ะ ข้อน้อยขอตัวนะเจ้าคะ” หยางหยางนางรีบขอตัวไปที่ห้องครัว เมื่อหลินเฟิ่งได้ยินเขาก็ไม่คิดว่านางจะบาดเจ็บได้ถึงเพียงนี้ เขาเลยเดินไปที่ห้องพักของเขาก่อนจะเดินไปที่ห้องของเสี่ยวเอ๋อ
เสี่ยวเอ๋อที่นอนอยู่นางก็คิดว่าหยางหยางกลับมาแล้ว และนางก็ไม่ได้หันมาดูตอนนี้นางกำลังนอนตะแคงหันหลังให้คนที่เข้ามาเยือน
“หยางหยางเจ้ากลับมาแล้วหรือ ข้าปวดเข่ามากเลยเจ้าเอายาต้มวางไว้ก่อนเมื่อข้ารู้สึกดีขึ้นแล้วข้าจะลุกขึ้นมากินเอง” เสี่ยวเอ๋อพูดจบก็หลับตานอนต่อ ทว่าหยางหยางเหตุใดนางถึงไม่ตอบ ทำให้เสี่ยวเอ๋อแปลกใจจึงหันมามองก็พบกับคุณชายที่นั่งอยู่ปลายเตียงของนางแล้ว
“คุณชายท่านมาตั้งแต่เมื่อใดกัน อุ้ย!!!” เสี่ยวเอ๋อรีบลุกขึ้นจนนางรู้สึกเจ็บแผลอีกครั้ง
“เจ้าไม่ต้องลุกนอนอยู่แบบนั้นแหละ ข้าแค่จะเอายามาให้เจ้าทา เจ้าไม่เห็นบอกข้าเลยว่าเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้”
หลินเฟิ่งล่วงเอาตลับยามาวางไว้ใกล้ๆเสี่ยวเอ๋อ
“ก็ท่านไม่ได้ถามนี่เจ้าคะ แถมยังบอกเหม็นหัวข้าไหนจะรังเกียจข้าอีก” เสี่ยวเอ๋อพูดออกมาด้วยความคับแค้นใจ เมื่อครู่เขายังต่อว่านางอยู่เลย ทำไมตอนนี้เขาถึงมาทำตัวดีกับนางแบบนี้
“เอามานี่ “
“เอาอะไรหรือเจ้าคะ”
"_"
“ขาของเจ้า ข้าจะใส่ยาให้”
"-0-"
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะให้หยางหยางใส่ให้เอง” หลินเฟิ่งไม่ฟังคำพูดของนางเขาจับขาของนางพร้อมม้วนกระโปร่งของนางขึ้นถึงหัวเข่าก็พบบาดแผลของนาง
“คุณชายทำไมท่านทำตามใจตนเองเช่นนี้ “
“เจ้าอยู่เฉยๆเถอะน่ะ ตอนนี้เจ้าอยู่ในจวนของข้าเป็นฟูเหรินของข้า ร่างกายของเจ้าก็ต้องเป็นของข้า ข้ามีสิทธิ์ที่จะทำทุกอย่าง”
“โอ๊ยๆ!แสบเจ้าค่ะ” เมื่อนิ้วขอเขาสัมผัสโดนบาดแผลฤทธิ์ของยาก็ทำให้เสี่ยวเอ๋อแสบมากๆจนนางอดที่จะไม่ร้องออกมาไม่ได้
“ใจเสาะเสียจริง ยานี่ข้าได้มาจากต่างเมืองเป็นยาดี แสบหน่อยแต่แผลจะหายไวเจ้าให้สาวใช้ของเจ้าทาให้เช้าเย็นไม่นานเดี๋ยวแผลเจ้าก็หายดี” เมื่อพูดจบคุณชายก็เดินออกไปปล่อยให้เสี่ยวเอ๋อนั่งคิดถึงการกระทำของเขาอยู่เพียงผู้เดียว นางไม่เข้าใจคุณชายท่านนี้จริงๆ