บทที่ 4
ปากหนาจู่โจมปากงามอย่างเร่าร้อน มู่หนานหนานไม่คิดว่าฮ่องเต้แคว้นหนานไร้ยางอายถึงเพียงนี้ สองมือหนาใหญ่ขยำทรวงอกงามอย่างเเรง จนทำให้หญิงสาวพลันหายใจไม่ออก
ลิ้นหนาเลียที่ยอดปทุมทันทั้งสองข้างสลับไปมา เทพธิดามู่ช่างงดงามนัก ยิ่งได้กินนาง ยิ่งทำให้เขามีความสุข ความอยาก ความหื่นกระหาย
ลิ้นหนาลากลงมาที่หน้าท้องอันงดงาม มู่หนานหนานพลันเสียวยิ่งนัก เรือนกายบิดไปมาภายใต้เเสงจันทร์
เจ้าคนบ้าทำตรงไหนไม่ทำ ทำในสวนหลังตำหนักเฟย
อวี้ฉี่รู้ว่าเกากงกงคงให้คนเฝ้าบริเวณรอบ ๆ ตำหนักไว้เเล้ว และไม่มีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้ามาในที่แห่งนี้เป็นแน่แท้
มู่หนานหนานขนลุกมากกับสัมผัสราคะที่อวี้ฉีมอบให้ ลิ้นหนาเลียมาที่โหนกนูนใหญ่ที่มีขนขึ้นมาเป็นหย่อม ๆ
ลิ้นหนาเลียเข้าไปที่ร่องรักสีแดงก่ำที่มีน้ำเมือกสีขาวขุ่นไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
"อ้า" มู่หนานหนานขนลุก ขนาดลิ้นของเจ้าคนเถื่อนยังทำให้นางเสียวได้
เสียงดูดกลืนน้ำรักดังขึ้นรสชาติหวานเหลือเกินมู่หนานหนานส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะราวกับเเมวน้อย
ยิ่งชายหนุ่มดูดเเรง ๆ นางยิ่งเสียว
มือหนาใหญ่สอดเข้าไปในร่องสีช้ำแล้ว แทงเข้า ๆ ออก ๆ อย่างเเรง
มีน้ำเมือกสีสดใสติดออกมากับนิ้วมือด้วย หญิงสาวเสียวจนหายใจอย่างติดขัด มันช่างเสียวเหลือเกิน มุมปากหนาพลันกระตุกยิ้ม เขาทำให้เทพธิดามู่ร้องครวญครางอย่างมีความสุขถือว่าดีเสียจริง ๆ
มือหนาใหญ่ยกขึ้นมาทาบที่ริมฝีปากงามดูดกินน้ำสีขาวอย่างไม่รังเกียจ
"จะเจอของใหญ่เเล้ว" อวี้ฉีเอ่ยอย่างหยาบโลน ลำดุ้นที่โผล่ขึ้นมาพร้อมผงาดเข้าไปหาความสุขในร่องงามเเล้ว
"กรี๊ด!!!" มู่หนานหนากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อได้รับรู้ว่าลำเอ็นที่ใหญ่ยาวมุดเข้าไปในร่องงามเรียบร้อย ผิดกับบุรุษที่คร่อมเรือนกายของนางไว้ อวี้ฉีมีความสุขมาก ร่องงามตอดรัดลำดุ้นของเขาอย่างดี
อวี้ฉีขยับเรือนกายอย่างเเรง
พับ พับ พับ พับ
พับ พับ พับ พับ
ใหญ่มาก ยาวมาก จนทำให้นางลูกตาแทบหลุดออกมา มันจุกจริง ๆ
"อ้า อ้า อ่า" นางเสียวจนไม่ไหวเเล้ว
อวี้ฉีชอบนักเรือนกายที่หอมหวานของนาง ไงเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ลำดุ้นได้ปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าไปอัดฉีดด้านในมดลูก จากนั้นดึงมันออกมา นอนข้างร่างงาม
"เจ้าคนราคะ"
"เจ้ามีแรงด่าเรางั้นรึ ถ้าอย่างนั้นเรียกหงเฟยมาดีกว่า"
"ไม่นะ"
ไม่ทันเสียเเล้ว เจ้าฮ่องเต้สมองสุนัขเรียกหงเฟย ชั่วพริบตาเดียวหงเฟยก็พลันปรากฏขึ้น ในสวนหลวงด้านหลังตำหนักเฟย
"เจ้ามาทันใจดีนี่"
แน่นอนเพราะเขาคือองครักษ์เงาของฝ่าบาท ย่อมต้องเร้นกายอยู่แถวนี้เป็นธรรมดา
"พวกท่านจะทำข้าอีกรึ" มู่หนานหนานเอ่ยขึ้นอย่างหวาดกลัว
"คนงามนอนนิ่ง ๆ เสียเถอะ"
อวี้ฉีผู้หื่นราคะเอ่ยขึ้น
ภายใต้เเสงจันทร์ที่ใสกระจ่าง ทำให้หงเฟยเห็นเรือนร่างงดงามอย่างชัดเจน
ชั่วพริบตาเดียวสองบุรุษรุมฉีกกินเนื้อหงส์งามอย่างเร่าร้อน
เรียวปากงามคาบเกี่ยวลำดุ้นของหงเฟย ลำดุ้นขนาดใหญ่เเละยาวอัดกระแทกปากงามอย่างคับเเน่น นางได้แต่ส่งเสียงในลำคอ
พับ พับ พับ พับ
พับ พับ พับ พับ
"อ้า เสียวเหลือเกิน อ้า" หงเฟยผู้หื่นราคะมีความสุขมาก
อวี้ฉีนั้นไม่น้อยหน้าหงเฟยเช่นกัน ลำดุ้นใหญ่วนรอบกลีบงามอย่างช้า ๆ จากนั้นสอดใส่เข้าไปในร่องงาม กลีบกุหลาบงามกลืนกินดุ้นจนมิดด้าม
"อ้า อ้า" อวี้ฉีมีสีหน้าที่ผ่อนคลายยิ่งนัก ร่างหนากระแทกร่องงามครั้งเเล้วครั้งเล่าจนมีน้ำรักสีขาวขุ่นไหลออกมาอย่างมาก แสดงว่าเทพธิดาคนงามน้ำแตกกระจายเเล้ว
ลำดุ้นอัดแน่นกระแทกรูสวาทครั้งเเล้วครั้งเล่า ปากงามกลืนน้ำรักสีขาวขุ่นที่หงเฟยปลดปล่อยออกมา มู่หนานหนานยอมรับว่ามีทั้งความสุขเเละความเสียวในเวลาเดียวกัน
นางกลายเป็นพวกโรคจิตไปแล้ว
ไม่นานนักสองบุรุษพลันเปลี่ยนท่วงท่า พวกเขาจับนางยืนขึ้น หงเฟยยกขางามขึ้นข้างหนึ่งเเล้วสอดท่อนเอ็นที่ชุ่มไปด้วยน้ำเมือกที่ขาวขุ่นเข้าไปอย่างช้า ๆ
หงเฟยกระแทกเข้าไปอย่างแรง จนนางใบหน้าเหยเกเเล้ว ใหญ่จริงของสองบุรุษนี้
ปากงามอมดุ้นของอวี้ฉี ทั้งเลียจนเหนื่อยบุรุษทั้งสองคนพลันมีความสุขมาก แต่คนกลางอย่างมู่หนานหนานจะตายเเล้ว
พับ พับ พับ พับ
พับ พับ พับ พับ
สองบุรุษสองเสียงตงครวญครางออกมาพร้อมกัน มันสุดยอดจริง ๆ
น้ำเมือกสีขาวขุ่นไหลออกมาจากร่องงามมาถึงโคลนขางามแสดงว่าหงเฟยแตกไปแล้วหนึ่งน้ำ มู่หนานหนานรับรู้ได้ว่าน้ำอุ่น ๆ ไหลเข้ามาในรูสวาทอย่างมาก กลิ่นอบอวลไปด้วยความราคะเต็มสวนด้านหลังตำหนักเฟย ทั้งสามคนครวญครางกันอย่างมีความสุข
ไม่นานนักบทสวาทตัณหาราคะก็ได้จบลงไป ร่างบางกำลังจะล่วงลงสู่กองหญ้าแต่ทว่ามือหนาใหญ่ของหงเฟยรับนางได้ทัน
ในใจหงเฟยรู้สึกผิดที่ให้นางต้องมารับชะตากรรมที่เลวร้ายเยี่ยงนี้
ตอนที่มู่หนานหนานลืมตาขึ้นมาอีกทีก็รุ่งเช้าของอีกวันหนึ่งเเล้ว ดวงหน้างามมองดูอาภรณ์สีชมพูเรียบง่าย สงสัยเสี่ยวไหนจะเปลี่ยนอาภรณ์ให้นาง
"เทพธิดาท่านตื่นแล้ว" เสี่ยวไหนยกสำรับจากห้องเครื่องเข้ามาพอดี
"อือ ว่าแต่มีอันใดกินบ้าง"
"แพะย่างเจ้าค่ะ กับขนมหวานอย่างบัวลอย เทพธิดามู่ ประเดี๋ยวพวกเราต้องเก็บของนะเจ้าคะ เพราะจะได้ไปงานเทศกาลล่าสัตว์"
"เทศกาลล่าสัตว์อย่างนั้นรึ"
"เจ้าค่ะ จัดขึ้นทุกปีในยามแร้ง"