ตอนที่ 5 ยายบ้า
“นาย มีอะไรกินมั้ย” ฉันเอ่ยถามอี้ซานก่อน เพราะถ้ารอให้นายนี่ถามฉันคงหิวตายก่อนแน่ๆ
“มี แต่เธอกินไม่ได้” เขาตอบฉันห้วนๆ
“อ้าว ทำไมอ่ะ ของกินอะไรฉันก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” ฉันลุกขึ้นยืนเพราะเริ่มโมโหหิว
“แต่ที่นี่ไม่ได้” อี้ซานหันมาจ้องฉัน ทำให้ฉันกับอี้ซานเริ่มมองหน้ากันอย่างไม่พอใจ แต่แล้วมือถือของอี้ซานก็ดังขึ้น เขาจึงหยิบขึ้นมาดูก่อนจะกดรับ
“ว่าไง อืม เดี๋ยวรีบไป” แค่นั้นอี้ซานก็ลงมาจากเตียงแล้วถอดเสื้อที่ใส่ออก พระเจ้า เขาลืมไปรึเปล่าว่าฉันยังยืนอยู่ตรงนี้อ่ะ ฉันกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่เลย เพราะความเขิน ผู้ชายมีซิกแพ็คมายืนถอดเสื้อตรงหน้าเป็นใครไม่เขินบ้างละถูกมั้ย แล้วอี้ซานก็หยิบเอาเสื้อตัวใหม่มาใส่ก่อนจะหันมามองฉัน
“ยืนทื่ออยู่ทำไม จะไปมั้ย” ฉันสะดุ้งนิดนึงกับน้ำเสียงที่ดุดันของเขา อะไรกันเนี้ย พูดดีๆบ้างไม่ได้รึไงกัน
“ไปดิ พูดดีๆก็ได้” ฉันส่ายหัวอย่างเซ็งๆแล้วก็เดินตามเขาออกจากห้อง
แล้วพอเขาเปิดประตูห้องออกมา ฉันก็เห็นว่ามีคนหลายคนมายืนรออยู่น่าจะเป็นลูกน้องเขาละมั้ง ทั้งผู้หญิงผู้ชายเยอะแยะเลย ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ฉัน ทำเอาฉันตกใจเลย เพราะสายตาทุกคนแม่งไม่เป็นมิตรเลยซักคน ฉันจึงเดินเข้าไปใกล้ๆอี้ซานก่อนจะกระซิบถามเขา แต่เขากลับขยับตัวออกห่างจากฉัน นี่ก็จะรังเกียจอะไรนักหนา
“มายืนทำอะไรกัน ออกไป!!!!”อี้ซานตะคอกใส่ทุกคนทำเอาทุกคนต่างก้มหน้าหลีกทางกันหมด โห แค่นายนี่พูดแค่นี้ก็กลัวกันแล้ว สุดยอดเลยนะ
“แล้วนี่นายจะพาฉันไปไหนอ่ะ”ฉันเอ่ยถามเขาอย่างตื่นเต้น เพราะนี่เป็นการมา วอชิงตัน ดีซีครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของฉัน และแน่นอนว่าฉันไม่ได้มากับพวกเฮีย
เขาพาฉันนั่งรถไปที่ไหนซักที่ ฉันมองออกไปที่นอกหน้าต่างอย่างตื่นเต้น บรรยากาศที่นี่ดีมากๆ ฉันจึงยิ้มออกมาและพอหันไปมอง นายอี้ซานก็ทำหน้าแบบว่าไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่ยินดียินร้าย คนอะไรจะเงียบจะเย็นชาได้แบบนี้ ซึ่งต่างจากการเจอกันครั้งแรกเลย ที่เขารีบเข้ามากระชากตัวฉันราวกับโกรธแค้น ท่าทางเขาในตอนนี้น่ารังเกียจมาก แต่ตอนนี้เขากลับเงียบขรึม เงียบจนน่าค้นหาว่าเขากำลังคิดอะไรกันแน่
แล้วรถเขาก็มาจอดอยู่ที่โรงพยาบาล เขามาทำอะไรที่นี่ ฉันมองหน้าเขาอย่างสงสัย แต่ เขากลับจ้องหน้าฉันแปบนึงแล้วเอื้อมไปหยิบอะไรด้านหลังก็ไม่รู้ แล้วฉันก็ได้เห็นสิ่งที่เขาหยิบมา มันคือเสื้อกราว หรือว่า เขาจะเป็นหมอ
“นายเป็นหมอเหรอ”ฉันถามเขาอย่างตื่นเต้น แต่เขากลับไม่ตอบอะไรฉันเลย แถมยังลงจากรถไปเฉยๆซะงั้น ฉันจึงเปิดประตูรถลงตามเขาไป ฉันเดินตามเขาไปเรื่องๆจนไปถึง ห้องของเขา ห้องที่เขียนติดไว้ว่า “Doctor Wang Yi San” สุดยอดเหมือนกันนะ นายบ้าขี้เก็กเนี้ย
“จะไปไหนก็ไป ฉันจะไปทำงาน”เขาหันมาพูดกับฉัน แล้วเขาก็หันหลังเดินออกจากห้อง ฉันจึงพยายามจะรั้งเขาแต่กลัวว่าจะทำให้เขาเกิดอาการอีก ฉันจึงจับที่เสื้อของเขาแทน
“เดี๋ยวดิ ฉันหิวอ่ะ”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร คือมันต้องทำตัวน่าสงสารไว้ก่อนไงซึ่งเขาก็หันมามองนะ แต่ก็มองตรงจุดที่ฉันรั้งเสื้อเขาด้วย
“ปล่อย” น้ำเสียงดุดันถูกเปล่งออกมาจากปากของเขา
“ปล่อยก็ได้”ฉันค่อยๆปล่อยมือก่อนที่ฉันจะมองเขา
“หิวก็ไปกินดิ มายืนพูดมากอยู่ทำไม”
“ก็ไม่มีเงินอะ จะไปได้ไง”
“อะไรนะ”
“ไม่มีตัง ได้ยินปะว่าไม่มีตังอะ”
อี้ซานถอนหายใจออกมา ฉันรู้ว่าเขาคงจะเบื่อฉันแหละ แต่ทำไงได้ ก็ฉันไม่มีตังจริงๆอ่ะ เขาจึงหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วยื่นเงินให้ฉัน 200 ดอลลาร์
“แล้วเอามาคืนด้วยละ” เขาบอกฉันแล้วเดินออกไปจากห้องทิ้งฉันให้ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น อะไร แค่ 200 ดอลลาร์ต้องให้ฉันมาคืนด้วยเหรอ อีตาบ้าขี้งกเอ้ย
ฉันเดินออกมา หาอะไรกินข้างนอก ผู้คนที่นี่ดูเป็นมิตรมากๆที่นี่ซินะ ที่เฮียขุนอยู่มา 10 ปี เคยมาเที่ยวเวลาเฮียอยากเจอ แต่ก็นานมากแล้ว พอฉันหาอะไรกินเสร็จฉันก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ มันทำให้ฉันคิดเรื่องหายตัวมาอยู่ที่นี่ คิดไปคิดมา ฉันก็สงสัยว่าทำไมฉันถึงต้องหายมาอยู่กับอี้ซาน แล้วในระหว่าง 4 ชั่วโมงฉันสามารถหายไปไหนได้อีกรึเปล่า หรือว่ามันหายไปได้ครั้งเดียว ฉันเลยนึกสนุก เพราะในเมื่อครั้งแรกฉันหายไปหาอี้ซานได้ ครั้ง นีั้ฉันก็จะลองหายไปหาเขาอีกครั้ง
ฉันเลยเผลอยิ้มออกมาแล้วนึกถึงหน้าของอี้ซานทันที ความรู้สึกฉันเหมือนคนกำลังใจหายอ่ะ มันแว้บแปลกๆแล้วเหมือนแผ่นดินจะไหวฉันก็รีบหลับตาลงเลย พอฉันรู้สึกว่าเริ่มยืนติดพื้นฉันจึงลืมตา แต่ก็ต้องตกใจ เพราะตอนนี้ฉันกำลังมายืนอยู่ที่ห้องผ่าตัดซึ่งแน่นอนว่าพวกเขากำลังผ่าตัดกันด้วย
“นี่ ยายบ้า เธอมาทำอะไรที่นี่” เสียงอี้ซานดังออกมาจากกลุ่มของหมอที่ใส่ชุดสีฟ้าและกำลังตกใจที่ฉันโผล่มาแบบนี้ โดยมีคนไข้ที่ถูกเจาะกระโหลกนอนอยู่ บ้าไปแล้ว โคตรช็อคเลยอ่ะ