บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 โผล่ตอนไหนก็ได้

ฉันถูกลากขึ้นไปบนเวทีที่มีเค้กก้อนใหญ่และสูงมากตั้งอยู่ ส่วนข้างล่างก็มีแขกเต็มไปหมด แค่ตระกูล ขจรไพศาล ก็ปาเข้าไปครึ่งงานละมั้ง เพราะมี ทั้ง เจ้ๆเฮียๆ ไหนจะอาๆทั้งหลายอีก นี่ยังไม่รวมการ์ดนะ ฉันนี่ไม่ชอบบรรยากาศลูกคุณหนูแบบนี้จริงๆเลย

“ขอเรียนเชิญ น้องแพรว ขึ้นมาอธิษฐานและเป่าเค้กได้เลยครับ” ฉันจึงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเค้กก้อนโต แต่ในขณะที่ฉันกำลังจะอธิษฐาน ก็เกิดดาวตกขึ้นมาเยอะแยะเลย คงจะเป็นวันดีแน่ๆ

“ขอให้ฉัน เจอกับคนที่เข้าใจฉัน และขอให้ฉันได้เจอที่ที่ทำให้ฉันไม่ต้องคิดเรื่องวุ่นวายด้วยเถอะ เพี้ยง!!!!!!” สิ้นสุดคำอธิษฐานฉันก็เป่าเทียนทั้ง 20 เล่มดับลงสนิทมีเพียงควันสีขาวเท่านั้นที่ลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ด้านบน

งานถูกดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้ฉันอายุครบ 20 ปีแล้ว ม๊าเลยอนุญาติให้ฉันกินเหล้าได้ แต่ม๊าหาได้รู้อะไรไม่ว่า เฮียขุนพาฉันไปกินเหล้าตั้งแต่อายุ 18 แล้ว บอกเลยคนอื่นเมาหลับ มีเพียง 2 พี่น้องอย่างฉันกับเฮียขุนเท่านั้นที่คอแข็งนั่งกินได้จนถึงเช้าอ่ะ

“ไอ้แพรว กูมาววว ไม่ไหวล้าววววว”ไอ้เหมยมันเดินโซซัดโซเซเดินมาที่ฉัน อีบ้า กินไม่ดูสภาพตัวเองเลยว่ารับได้แค่ไหน หมดสภาพชะมัดเลยเนี่ย

“มึงจะนอนนี่หรือว่าให้การ์ดกูไปส่งที่คอนโดวะ”ฉันพยายามเรียกสติไอ้เหมย เพราะดูแล้วสภาพแม่งแย่มาก สติกระเจิงไปหมดละตอนนี้

“กูจะไปนอนกับผัวกู” มันตีแขนฉันไม่บันยะบันยังเลยอะไรของมึงเมาแล้วชอบใช้กำลัง

“เออๆ มึงก็บอกการ์ดกูแล้วกันว่าให้ไปส่งที่ไหนอ่ะ” ฉันลากมันมาที่รถ บอกเลย หนักโคตรเห็นตัวผอมๆแบบนี้ทำไมมันหนักจังวะ

“พวกพี่ พามันไปส่งที่คอนโดผัวมันทีนะ ตามที่มันบอกเลย”ฉันพูดกับพวกการ์ดอย่างคนกันเอง

“ครับคุณหนู” ฉันพยักหน้าให้การ์ดเบาๆ แล้วฉันก็เดินกลับเข้ามาในงาน ฉันมองไปรอบๆ ตอนนี้มันไม่เหมือนงานวันเกิดฉันเลยนะ มันเหมือนงานชุมนุมพวกพ่อค้ารายใหญ่มากกว่า เขาคงอาศัยงานนี้มาคุยธุรกิจกับที่บ้านฉันแน่ๆ ฉันก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วค่อยๆกลับเดินขึ้นมาบนห้อง ฉันพยายามเข้าใจในความเป็นขจรไพศาลนะ แต่ฉัน ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ฉันเดินเข้าห้องอย่างเซ็งๆแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง

“สุขสันต์วันเกิดนะ พิรากา ขจรไพศาล ใช่ เธอคือขจรไพศาลจำไว้ ” ฉันบนพึมพำเบาๆแล้วก็หลับตาลงเพื่อพักผ่อนทั้งๆที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย

“ฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอะไรหอมๆ มันไม่ใช่น้ำหอมฉันแน่ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่กลิ่นห้องของฉัน ฉันจึงเริ่มขยับตัวตัวเบาๆเพื่อดึงน้องเป็ด หมอนข้างสุดรักที่ฉันต้องนอนกอดทุกคืน แต่ควานหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฉันจึงมาหาอีกข้าง แต่กลับเจอสิ่งผิดปกติ มันไม่ใช่หมอนข้าง แต่มันคือคน ฉันรีบลืมตาโผลงขึ้นมาด้วยความตกใจ ใครวะ เมื่อคืนไอ้เหมยมันนอนนี่เหรอ แต่ฉันมั่นใจว่ามันไปหาผัวมันแล้วนะ อะไรกันวะเนี้ย แล้วพอฉันเริ่มตั้งสติ ฉันก็มองซ้ายมองขวา ห้องใครวะ ทำไมวอลเปเปอร์มันมืดดำแบบนี้ ผ้าม่าน ผ้าห่ม ของใช้ในห้อง แม่งสีดำหมดเลย

ฉันจึงรีบหันไปมอง คนข้างกายที่ฉันจับเมื่อกี้ ก็เจอเข้ากับผู้ชาย ที่ฉันรู้ว่าเป็นผู้ชายเพราะผมสั้น แต่ฉันไม่เห็นหน้าเพราะมีผ้าห่มปิดอยู่

“อ๊ากกกก ไอ้บ้า “ ฉันร้องออกมาอย่างดัง ก่อนจะถีบไอ้บ้านี่ตกเตียงไปเลย เสียงโครมคราม ทำให้คนข้างนอกมาเคาะประตูกันใหญ่ อะไรอะ ดังไม่เยอะเลยนะ รู้ได้ไงว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง ฉันสงสัยมาก แต่ที่สงสัยกว่าคือกูมาอยู่นี่ได้ไง คือตอนนี้มันตันไปหมดเลยมาได้ไงวะเนี่ย แล้วคนที่ถูกถีบ ก็ค่อยๆขยับตัวและลุกขึ้นยืน แล้วปล่อยผ้าห่มให้หลุดลงมา พระเจ้า!!!!!!!!!

“อี้ซาน ไอ้บ้าอี้ซาน”ฉันร้องเรียกชื่ออี้ซานออกมา บ้าจริง ทำไมฉันถึงมาอยู่กับไอ้บ้านี่ได้นะ เพราะตลอด 2 ปีฉันไม่เคยเจออี้ซานเลย แล้วพอมาเจอกัน เขาไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆซึ่งต่างจากฉันที่ดูโตเป็นสาวมากขึ้น แต่อี้ซานกลับไม่แก่ลงเลย

“ไม่มีอะไร กลับไปกันได้แล้ว”อี้ซานตะโกนบอกพวกข้างนอกแล้ว หันกลับมาจ้องมองฉัน เกลียดสายตาแบบนี้ชะมัดเลย

“เธอมาอยู่นี่ได้ไง ยัยเด็กบ้า”อี้ซาน ชี้หน้าฉันพร้อมกับกัดฟันอย่างโมโห เออ นั่นดิ มาอยู่นี่ได้ไง ฉันยังหาคำตอบไม่ได้เลย แล้วจะไปตอบไอ้บ้านี่ยังไง

“จะไปรู้ได้ไงเล่า หลับอยู่ที่บ้านดีๆ จู่ๆก็มาโผล่ที่นี่แหละ”ฉันตะคอกใส่อี้ซานที่มองฉันอย่างไม่ชอบใจนัก แถมยังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่อีก ทำอย่างกับจะกินฉันอย่างงั้นแหละ

“ออกไปจากห้องฉันซะ เดี๋ยวนี้”ไอ้บ้าอี้ซานขึ้นเสียงใส่แถมยังไล่ฉันอย่างกับหมูกับหมาอีก นี่ฉันเป็นขจรไพศาลนะ เป็นลูกหลานมาเฟียจะมาไล่กันแบบนี้ได้ยังไง

“แล้วจะไปยังไงเล่า ตอนมายังไม่รู้เลยว่ามาไง แล้วจะกลับไง พูดอะไรอ่ะคิดนิดนึงนะ ใช้สมองคิดบ้าง” ฉันใช้สายตามองไอ้บ้าอี้ซานอย่างไม่พอใจ

“เธอก็คิดดิ เมื่อคืนมาไงอ่ะ จะได้รีบไป”

“คือกูไม่รู้ไงวะ บอกไม่รู้ๆอยู่เนี้ย”

“เธอก็คิดดิ ที่นี่มันเมกานะ ไม่ใช่เชียงใหม่เชียงราย ที่จู่ๆจะมาโผล่ตอนไหนก็ได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel