รักษานาง
“อาการของนางเป็นเช่นใด”
“ทูลฝ่าบาท ภายในร่างกายบอบช้ำหลายส่วน คล้ายคนเพิ่งตกจากที่สูงและโดนกระแทกอย่างแรงบาดแผลที่เท้าไม่ลึกมาก หลังจากใส่ยาพรุ่งนี้แผลน่าจะแห้งดี แต่เพราะร่างกายบอบบางและบอบช้ำภายใน คืนนี้อาจทำให้คุณหนูมีไข้เพคะ” หมอหญิงกล่าวพลางเขียนเทียบยาก่อนยื่นส่งให้กงกงตรวจสอบ
“เจ้าไปต้มยาให้คุณหนู” กงกงผู้ชำนาญเรื่องยาพยักหน้าให้ผู้ช่วยหญิงนำยาไปต้มเมื่อไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติในเทียบยาที่เขียน
เจ้าเว่ยงอปลายเท้าเมื่อรู้สึกแสบร้อนราวกับโดนน้ำร้อนลวก นี่มันยาชนิดไหนกันถึงได้ทำเอาคนบาดเจ็บเกือบตายเช่นนี้
“ฝ่าบาทถ้าหม่อมชั้นทนพิษบาดแผลไม่ไหว ขอฝากถ้อยคำถึงคนที่หม่อมชั้นรักได้หรือไม่เพคะ” เจ้าเว่ยห่อปากเปล่งเสียงออกมาราวกับกำลังจะตายจริงๆ
ฝูจื่อหรงจ้องใบหน้าขาวซีดของสตรีร่างบางในอ้อมแขนด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“เจ้าอย่าใจเสาะนักเลยแค่ยาเท่านี้ไม่ทำให้ถึงตายหรอก หรือหากเจ้าตายเราก็จะโยนร่างเจ้าลงน้ำให้ฝูงปลากินเป็นอาหาร และจงรู้ไว้ว่าเราไม่รับฝากถ้อยคำรักไร้สาระของเจ้าเพื่อส่งให้แก่ผู้ใด” ฝูจื่อหรงรัดร่างบางแน่นเพราะรู้สึกโมโหจนเจ้าเว่ยรู้สึกเจ็บและอึดอัด
“ฝ่าบาทท่านนี่ใจร้ายเกินไปแล้ว แม้ข้าตายไปเป็นผีข้าจะมาหลอกท่านคอยดู” เจ้าเว่ยกัดฟัน จ้องใบหน้าของคนไร้น้ำใจอย่างไม่ลดละ
“ขนาดเป็นคนยังทำสิ่งใดเราไม่ได้ แล้วผีนุ่มนิ่มเช่นเจ้าคิดเหรอว่าเราจะกลัว” เขาบีบปากนางจนปากจู๋ดูน่าเกลียด
“ปล่อยหม่อมชั้นนะเพคะ” เสียงเล็กอู้อี้สั่งการ
“เจ้าจะบังอาจมากไปแล้ว”เขาไม่พูดเปล่าก้มลงดูริมฝีปากเล็กแรงๆรวดเร็วแล้วปล่อยปากนางให้เป็นอิสระใบหน้าเฉยเมยคล้ายไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เจ้าเว่ยสบัดใบหน้าหนีคนตัวโตที่คอยแต่จะจ้องฉวยโอกาสแล้วหันมาถามหมอหญิงแทน
“ข้าจะตายมั๊ยท่านหมอทำไมมันแสบจนทรมานเช่นนี้”
“ยานี่ถึงจะทำให้เจ็บปวดบ้างแต่เพียงข้ามคืนแผลของท่านจะแห้งและหายจากบาดเจ็บอย่างรวดเร็วเจ้าค่ะ ถือเป็นยาวิเศษของแคว้นเรา เมื่อหมดเวลาหนึ่งก้านธูปอาการแสบร้อนจะหายไปและสามารถพันแผลได้เจ้าค่ะ”
“มียาวิเศษแบบนี้ในยุคนี้ด้วยเหรอ” เจ้าเว่ยพึมพำกับตนเองเบาๆ พลางพยายามก้มตัวลงมาเป่าแผลที่เหมือนว่าความปวดแสบบรรเทาลงเล็กน้อย
กิริยาตัวงอเป็นกุ้งพยายามที่จะยื่นปากน้อยเข้าใกล้แผลของเจ้าเว่ย ทำให้ฝูจื่อหรงขมวดคิ้วหนาอีกครั้ง
“เจ้าทำอะไรของเจ้า”
“เป่าแผลเพคะมันแสบอ่ะ” เจ้าเว่ยตอบเรียบเรียบ ปากน้อยพยายามเป่าลมออกไป
ฝูจื่อหรงกระแอมแล้วดึงเท้าเล็กขาวเนียนเข้ามาแล้วก้มลงเป่าลมลงไปที่บาดแผลแผ่วเบา
“ฝ่าบาท” เจ้าเว่ยตะลึงใบหน้าแดงไปจนถึงใบหู เมื่อไม่นึกฝันมาก่อนว่าฮ่องเต้มักมากป่าเถื่อนจะแสดงกิริยาไม่ถือตัวอ่อนโยนเช่นนี้
บรรดาหมอหญิงรีบก้มหน้าต่ำ สิ่งที่ฝ่าบาทกระทำต่อแม่นางผู้นี้ แม้แต่สามีภรรยาก็หาได้ยากยิ่ง พวกนางใบหน้าแดงราวสีชาด
“ดีขึ้นมั๊ย” ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นถาม เจ้าเว่ยเผลอสบสายตาล้ำลึกโดยไม่รู้ตัว จิตใจอ่อนยวบลงหลายส่วน เพ่งมองใบหน้าคมอย่างเผลอไผล ราวกับเวลากำลังหยุดอยู่ตรงนี้
เหตุใดเขาจึงเป่าแผลให้เธอด้วยความอ่อนโยนเช่นนี้