ความคุ้นเคย
ฝูจื่อหรงมองลึกเข้าไปในดวงตากลม ใบหน้าเล็กนวลเนียนเบื้องหน้าบัดนี้กลายเป็นสีแดงไม่เว้นแม้แต่ใบหู มุมปากกระตุกขึ้นด้วยความเอ็นดู
“เรารู้ว่าสตรีทั่วแคว้นต่างหลงใหลในใบหน้าของเรา ไม่เว้นแม้แต่เจ้า คืนนี้เราจะให้เจ้าในสิ่งที่ต้องการ” เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาจนเกือบจะชิดริมฝีปากบาง กล่าวเบาๆออกไปเพื่อให้ได้ยินกันสองคน
เจ้าเว่ยใจเต้นโครมคราม กัดปากแน่น
ไอ้เต้นี่หลงตัวเองเกินไปแล้วใครเขาหลงเสน่ห์นายกัน แค่เป่าแผลให้เล็กน้อยใครๆเขาก็ทำกัน
แต่เธอเลือกที่จะด่าในใจมากกว่าพูดออกไปเพราะเธอรู้ดีว่าร้อยไม่ชนะพันไม่ชนะ แถมกลายเป็นเสียเปรียบเขาอีกจนได้
“ทูลฝ่าบาท ร่างกายของคุณหนูบอบช้ำมากเอ่อไม่สามารถใช้แรงมากนัก ขอฝ่าบาทปล่อยให้นางพักฟื้นสักสามวันเพคะ” หมอหญิงกลั้นใจกล่าวออกไปแม้จะกลัวการลงโทษแต่ปกติฝ่าบาททรงมีเหตุผลเสมอคิดว่าพระองค์คงเข้าใจในสิ่งที่นางกำลังพยายามบอก
“เราเข้าใจ” สุรเสียงเรียบเรียบที่เปล่งออกมาแทนอาการเกรี้ยวกราดทำให้หมอหญิงแอบถอนหายใจ
แต่ผู้ที่ดีใจเป็นที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าเว่ย ใบหน้างามยิ้มแป้นออกมาโดยไม่รู้ตัว นางยังมีเวลาเป็นของตัวเองอีกสามวัน
เต้ตรัสออกมาแล้วย่อมไม่คืนคำใช่มั๊ย
อาการแสบเริ่มทุเลาลงจนหายไปดั่งเช่นหมอหญิงบอก หมอหญิงใช้ผ้าขาวพันแผลให้นางอย่างชำนาญ
ไม่นานผู้ช่วยหมอหญิงก็นำยาต้มเข้ามา
“ไม่กินได้มั๊ยเพคะ” เจ้าเว่ยต่อรองเมื่อเห็นสีดำๆที่แค่ดมก็รู้ว่ามีรสขมขนาดไหน
“คุณหนูต้องดื่มยาให้หมดเจ้าค่ะ” หมอหญิงส่งสายตาอ้อนวอน หากรักษาสตรีที่ฝ่าบาททรงโปรดหาย ตำแหน่งหมอหลวงหญิงของนางคงมั่นคงและได้รับการนับถือยิ่งขึ้น
เจ้าเว่ยเงยหน้ามองฝูจื่อหรง แล้วดิ้นขลุกขลักบนตักเขา คราวนี้นางใช้วิธีซบหน้าลงบนอกแกร่งไม่ยอมกินยา
ฝูจื่อหลงงัดใบหน้าเล็กที่มุดอยู่ในอกของเขาออกมา บีบปากนางให้เผยออก เจ้าเว่ยรู้สึกเจ็บจนต้องอ้าปากกว้าง
เขาได้โอกาสกรอกยาลงไปในปากนางทันที
เจ้าเว่ยกลืนยาไม่ทันพลางสำลักจนน้ำสีดำเปรอะเปื้อนผ้าห่มและชุดมังกรที่คลุมร่างของฝูจื่อหรง
“นำยามาใหม่” ฝูจื่อหรงไม่ปล่อยให้เจ้าเว่ยตั้งตัว เขากรอกยาถ้วยใหม่ที่หมอหญิงให้ลงปากบางอย่างรวดเร็ว คราวนี้หญิงสาวกลืนลงไปจนหมด
เมื่อเห็นว่าเจ้าเว่ยกลืนยาหมดถ้วยเขาจึงคลายมือที่บีบออก
เกิดรอยแดงตามรูปฝ่ามือบริเวณที่เขาบีบอย่างชัดเจนรอบๆปากของเจ้าเว่ย
“ท่านทำเกินไปแล้วนะฝ่าบาท” เจ้าเว่ยไอแค่กแค่กมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังยิ้มคล้ายพึงใจอย่างโมโห
มือของนางโดนห่อไว้ด้วยผ้าห่มจนขยับไม่ได้ไม่เช่นนั้นเขาได้เห็นดีแน่
เจ้าบ้านี่จับนางกรอกยาราวกับนักโทษ ตอนนี้เจ็บกรามไม่หาย ความอ่อนโยนเมื่อสักครู่เป็นภาพลวงตา นายมันเป็นปีศาจร้ายที่โผล่ออกมาจากอเวจี
“คนดื้อเช่นเจ้า พูดดีด้วยเห็นจะไม่ได้”
เขายกร่างบางขึ้น แล้วลุกยืนเต็มความสูง หมอหญิงหมดหน้าที่จึงรีบทูลลา เห็นชัดว่าในเวลานี้ฝ่าบาทคงไม่อยากให้ผู้ใดรบกวน
ตงกงกงสั่งให้คนเข้ามาเปลี่ยนผ้าปูเตียงมังกรที่เปรอะเปื้อนด้วยเลือดของเจ้าเว่ยและยาที่นางสำลักออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“นำอาภรณ์มาให้นาง”
เจ้าเว่ยมองเสื้อชั้นในสีขาวผืนบางที่วางอยู่บนเตียงแล้วกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
“ฝ่าบาทมันบางเกินไปนะเพคะ” เธอแย้งพลางทำหน้าย่น
“เจ้าจะใส่หรือจะเปลือย” เขากล่าวเสียงต่ำ ให้ทางเลือกแค่สองทาง
เจ้าเว่ยเบิกตาพ่นลมออกมาจากปากอย่างแรง มองชุดบางสีขาวอย่างชั่งใจ
แม้ตาเต้นี่จะเห็นร่างกายเธอจนทะลุไปถึงกระดูกแล้วก็ยังรู้สึกอายมากอยู่ดี แต่มีอะไรบังแม้จะบางก็ยังดีกว่าเปลือยกายล่อนจ้อนล่ะกัน
“ใส่ก็ได้เพคะ”
รอยยิ้มบางๆปรากฏบนหน้าอย่างผู้มีชัยเขาดึงผ้าห่มที่เธอใช้คลุมร่างออก และเป็นฝ่ายแต่งกายให้เธอด้วยตัวเอง
สัมผัสของเขาต่อร่างกายของเธอช่างดูคุ้นเคยยิ่งกว่าสามีภรรยาเสียอย่างนั้น