บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ปีที่สาม

วันนี้หัวใจของเย่เฟิงรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาเฝ้ารอช่วงเวลานั้นมาถึง

รถแล่นเข้ามาในเขตวิลล่า และหยุดอยู่หน้าประตูวิลล่าหมายเลขสาม

หลี่ยั่วเสวี่ยรีบลงจากรถ เธอไม่อยากอยู่กับพี่เขยที่ทั้งขี้ขลาดและทั้งใบ้คนนี้แม้แต่วินาทีเดียว

ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่ม หลังจากที่เย่เฟิงจอดรถเรียบร้อย ก็เข้าไปในวิลล่ากลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็ปิดประตู

เย่เฟิงกับหลี่ยั่วหยุนอยู่กันคนละห้อง แม้ว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกันมาแล้วสี่ปี แต่พวกเขาก็อยู่กันเพียงในนาม แม้แต่จับมือก็ไม่เคยมี

เย่เฟิงในตอนนี้มีลางสังหรณ์ที่รุนแรง ความเจ็บปวดเช่นนั้นจะปรากฏขึ้นในไม่ช้า และรุนแรงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้

เย่เฟิงหยิบปฏิทินที่ตั้งอยู่บนดต๊ะ ใช้ปากกาขีดฆ่าเลขตัวอักษรถึงสามสิบทิ้ง

ชีวิตแห่งความอัปยศอดสูจะสิ้นสุดลงในวันนี้ ถึงแม้ว่าชายชราคนนั้นจะหลอกตัวเอง แต่ตัวเองก็จะจากตระกูลหลี่ไปตลอดกาล!

มีอาการปวดเสียดที่ศีรษะ เย่เฟิงรีบถอดเสื้อออก แล้วนั่งไขว่ห้างบนเตียง อย่างสงบจิต เพื่อรอให้ช่วงเวลานั้นมาถึง

ในเวลาเดียวกัน ในห้องโถงชั้นล่าง แม่ยายเดินเข้ามาพร้อมกับชายคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกับเย่เฟิงพูดคุยกันพร้อมกับเสียงหัวเราะ

“เสี่ยวเหอ คุณนี่จริงๆเลย กลับมาเมืองเยียนจิงทำไมถึงไม่บอกฉันล่วงหน้าล่ะ?” ฟางฮุ่ยฉงพาชายคนนั้นไปนั่งที่โซฟา “คุณนั่งก่อน ฉันจะรินน้ำชาให้คุณ”

ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเหอมีชื่อว่าเหอซิง เป็นลูกชายเพื่อนสนิทของฟางฮุ่ยฉง เขาสวมสูทลำลองพอดีตัว ขายาว และมีหน้าตาหล่อเหลา เหมือนโอปป้าเกาหลีขายาวได้มาตรฐานเหมือนในละครเกาหลี

“น้าฟาง ท่านไม่ต้องเกรงใจ วันนี้ผมเพิ่งเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ ตั้งใจมาเยี่ยมท่านกับยั่วหยุนเป็นพิเศษ” ในขณะที่เหอซิงพูดก็หยิบกล่องที่สวยงามหรูหราออกมาจากตัว จากนั้นใช้สองมือยื่นไปตรงหน้าฟางฮุ่ยฉง “กลับมาอย่างรีบร้อน ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไร หวังว่าสิ่งขิงนี้น้าฟางคงจะชอบ”

“สี่ยวเหอเอ้ย แม่ของเธอกัฉันเป็นเพื่อนสนิทกัน เห็นฉันเป็นคนอื่นคนไกลไปได้” ฟางฮุ่ยฉงแสร้งทำเป็นโกรธ

เหอซิงยิ้มและพูดว่า “ดังนั้นผมจึงซื้อให้คุณแม่และน้าคนละหนึ่งชุด”

“เด็กคนนี้นี่!” ฟางฮุ่ยฉงยิ้มและรับกล่องของขวัญเล็กๆในมือของเหอซิง ข้างในเป็นกำไลหยกที่สวยงามมาก ซึ่งดูก็รู้ว่าราคาสูงมาก

เมื่อวางกล่องของขวัญเรียบร้อยแล้ว ฟางฮุ่ยฉงก็ไปเอาน้ำมาให้เหอซิง ในขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เหอซิงเป็นคนที่เธอเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่เด็กเหอซิงเป็นเด็กดีและฉลาด เดิมทีตอนที่ยั่วหยุนกับเหอซิงจบปริญญาตรีนั้น ฟางฮุ่ยฉงก็คิดจะจับคู่ทั้งสองคน แต่เป็นเพราะเหอซิงไปศึกษาต่อต่างประเทศเลยทำให้หยุดชะงัก

หลังจากเหอซิงไปต่างประเทศได้ไม่นาน ยั่วเสวี่ยก็ป่วยด้วยโรคประหลาดที่หาสาเหตุไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์ที่โรงพยาบาลในประเทศและต่างประเทศต่างหมดหนทาง ฟางฮุ่ยฉงผู้ที่เชื่อโชคลางมาตลอดต้องไปหาหมอดูเพื่อขอความช่วยเหลือ

หมอดูบอกให้เธอแต่งลูกเขยเข้าบ้านให้แต่งกับหลี่ยั่วหยุนเพื่อขจัดเสนียดจัญไร ก็จะรักษาโรคประหลาดนี้ให้หายได้

ว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ตั้งแต่แต่งงานแล้ว จู่ๆอาการป่วยแปลกๆของหลี่ยั่วหยุนก็หายเป็นปกติ

ในมุมมองของฟางฮุ่ยฉง ไม่ใช่เย่เฟิงที่ช่วยชีวิตลูกสาวของเธอ เย่เฟิงที่เป็นเด็กกำพร้าคนนั้นเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะการหย่าร้างมันจะเกี่ยวข้องกับการแบ่งทรัพย์สินแล้วละก็ ฟางฮุ่ยฉงคงไล่เขาออกไปจากบ้านนานแล้ว

เมื่อนึกถึงลูกเขยใบ้คนนั้น และเปรียบเทียบกับเหอซิง ฟางฮุ่ยฉงก็รู้สึกกลุ้มใจขึ้นมา

“จริงสิ น้าฟาง ยั่วหยุนยังไม่กลับมาเหรอครับ?” เหอซิงมองไปรอบๆ แล้วถาม

ฟางฮุ่ยฉงวางแก้วชาไว้ตรงหน้าเหอซิงและตอบว่า “ที่บริษัทมีงานเยอะ เธอเป็นคนยุ่งมาก คิดว่าน่าจะประมาณสี่ทุ่มถึงจะกลับบ้าน”

“แบบนี้เอง ตอนผมอยู่ต่างประเทศได้ยินว่ายั่วหยุนแต่งงานแล้ว คู่ของเธอ คนนั้นไม่อยู่บ้านเหรอครับ?” เหอซิงถามอีกครั้ง

ฟางฮุ่ยฉงแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย และชี้ไปที่ชั้นสอง “คนที่เอาแต่กินๆนอนคนนั้นน่าจะอยู่ชั้นบนมั้ง ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่”

เหอซิงแสดงสีหน้าเยาะเย้ยที่สังเกตไม่ได้ง่ายๆ “คุณน้า แฟนของยั่วหยุนทำงานอยู่ที่ไหนครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางฮุ่ยฉงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น อีกทั้งเธอก็ยังอยู่ในช่วงวัยทอง เธอจึงเงยหน้าขึ้นและตะโกน เย่เฟิง มีแขกมาที่บ้าน นายยังไม่รีบลงมา อับอายจนไม่กล้าเจอคนหรือไง?!”

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะตรงกับที่ตัวเองได้สืบถามมาทุกประการ” เหอซิงแอบคิดในใจเอง

อันที่จริง ก่อนเขาจะมาก็ได้สืบถามมาแล้ว หลี่ยั่วหยุนได้แต่งงานกับไอ้เศษสวะคนหนึ่ง เป็นลูกผู้ชายแท้ๆวันๆอยู่แต่ในบ้าน วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่กินๆนอนๆ และไม่ยอมออกไปทำงาน และให้ผู้หญิงหาเลี้ยง

โอ้ จริงสิ คนใบ้ออกไปหางาน คงไม่มีบริษัทไหนรับแน่

ชีวิตที่เป็นอยู่สู้สุนัขตัวหนึ่งไม่ได้จริงๆ

เวลาใกล้ถึงสามทุ่มแล้ว และอาการทางร่างกายของเย่เฟิงก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะได้ยินเสียงร้องของฟางฮุ่ยฉง ก็ไม่สามารถที่จะออกไปได้

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบเธอ ฟางฮุ่ยฉงจึงตะโกนอีกครั้ง “หนูเสวี่ย พี่เหอซิงของเธอมา ยังไม่รีบลงมาอีก!”

ประตูห้องของหลี่ยั่วเสวี่ยเปิดออก จากนั้นเธอมองลงมาข้างล่าง และพูดอย่างไม่พอใจ “แม่ แม่ตะโกนเสียงดังทำไม เหอซิงมาก็มาสิ มันพิเศษตรงไหนล่ะ!”

หลี่ยั่วเสวี่ยไม่ชอบเย่เฟิง และไม่ชอบเหอซิ่งมากกว่า สัมผัสที่หกของผู้หญิงบอกเธอว่า เหอซิงคนนี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ไม่ใช่คนดีอะไร

“ยั่วเสวี่ย ทำไมพูดกับแม่แบบนี้!” ฟางฮุ่ยฉงรีบขึ้นมาชั้นบนอย่างโกรธจัด

เหอซิงที่อยู่ข้างๆรีบเกลี้ยกล่อม “คุณน้าอย่าโกรธเลย โกรธจนเสียสุขภาพมันไม่คุ้ม คู่ของยั่วหยุนคงยังไม่กลับมามั้ง”

เหอซิงใช้วิธีการที่ยั่วยุเล็กน้อย และตอนนี้เขาต้องการดูว่าลูกเขยในตำนานที่แต่งงานเข้ามาอยู่บ้านภรรยาหน้าตาเป็นอย่างไร

แน่นอน พอได้ยินเช่นนี้ ฟางฮุ่ยฉงจะระงับความโกรธของเธอไว้ได้ไง “หนูเสวี่ย เย่เฟิงกลับมาแล้วหรือยัง?”

“กลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับฉัน!”

“ไปเรียกเขาลงมา!” ฟางฮุ่ยฉงสั่ง

“รอสักครู่” หลี่ยั่วเสวี่ยตอบอย่างรำคาญใจ จากนั้นเดินไปที่ห้องนอนของเย่เฟิง

หลี่ยั่วเสวี่ยรู้สึกว่าพี่เขยไอ้เศษวะคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไปกันใหญ่แล้ว พอกลับถึงบ้านก็ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง คิดว่าตัวเองเป็นนายใหญ่จริงๆสินะ?

ในขณะที่หลี่ยั่วเสวี่ยเอื้อมมือกำลังจะเคาะประตู จู่จู่ประตูห้องนอนของเย่เฟิงก็มีเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดดังขึ้น เป็นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดสุดขีด

เสียงกรีดร้องที่น่าเวทนานี้ไม่ได้ทำให้หลี่ยั่วเสวี่ยตกใจ เธอแค่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และส่ายหัว “โอ้ อาการกำเริบอีกแล้ว”

สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลหลี่เคยชินจนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้ว เพราะเหตุการณ์แบบนี้เมื่อปีที่แล้วและปีก่อนก็เคยเกิดขึ้นแล้ว ตระกูลหลี่ไม่เคยคิดที่จะให้เย่เฟิงไปตรวจและรักษาที่โรงพยาบาล สำหรับคนของตระกูลหลี่แล้ว หากเย่เฟิงตายกลับเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ

หลี่ยั่วเสวี่ยเปิดประตูห้อง จากนั้นได้เห็นฉากที่เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต

“อ๊ะ!!” หลังจากหลี่ยั่วเสวี่ยเหม่อลอยไปชั่วขณะ หลี่ยั่วเสวี่ยก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสยดสยอง

จากนั้นก็วิ่งหนีทันที

“ยั่วเสวี่ย เธอเป็นอะไรไป?” ฟางฮุ่ยฉงที่อยู่ชั้นล่างได้ยินเสียงร้องของหลี่ยั่วเสวี่ย คิดว่าถูกเย่เฟิงรังแก จึงรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน

เย่เฟิงในขณะนี้ บิดตัวไปมาบนเตียง ราวกับว่าเพิ่งถูกล้วงออกจากยางมะตอย พื้นผิวของร่างกายปกคลุมด้วยชั้นของสารสีดำ มีเพียงดวงตาสีดำคู่หนึ่งเท่านั้นที่พิสูจน์ได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ไม่น่าแปลกใจที่หลี่ยั่วเสวี่ยตกใจกลัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel