บทที่ 10 ได้กำไร
“เฮ้ย เถ้าแก่ ไอ้หมอนี่บอกว่าก้อนหยกที่คุณขายเป็นของปลอม ส่วนก้อนหินที่เจาะนี้ไม่มีหยกเลย” จูเชี่ยนตัดสินใจพึ่งพาอำนาจจากคนอื่น
เดิมทีเจ้าของร้านที่อยู่ข้างในกำลังยุ่งอยู่กับบางอย่าง แต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้เขาก็ออกมาทันที มีสีหน้าท่าทางโกรธมาก “ใครกล้าพูดว่าก้อนหินที่ฉันขายเป็นของปลอม? ถ้าพนันหินไม่เป็นก็ไสหัวไปให้พ้น ตรงนี้ไม่ต้อนรับ!”
“เจ้าหนุ่มคนนี้ดูแล้วก็รู้ว่าเป็นมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ความเป็นไปได้ที่ก้อนหินนี้เวลาผ่าออกออกมาอย่างน้อย90%ขึ้นไปจะต้องเป็นหยก เขากล้าพูดได้อย่างไรว่าข้างในไม่มีหยกแม้แต่นิดเดียว เรื่องตลกสิ้นดี”
“คุณไม่ได้ฟังผู้หญิงคนนั้นพูดเหรอ ผู้ชายคนนี้เป็นแมงดา คนแบบนี้จะมีเงินเล่นพนันก้อนหินได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีปัญญาซื้อพนันก้อนหิน จึงต้องบอกว่าผ่าออกมาแล้วต้องไม่มีหยก”
“……”
ในฝูงชนมีเสียงพูดคุยเสียงดัง ทำให้หลี่ยั่วหยุนอารมณ์เสียมาก จูเชี่ยนคนนี้เป็นยัยจิ้งจอกเจ้าปัญหาจริงๆ
หลี่ยั่วหยุนดึงแขนเสื้อของเย่เฟิง ส่งสัญญาณให้เขาออกไปจากที่นี่
ในขณะนี้เย่เฟิงได้เลือกก้อนหินได้แล้ว และถามเจ้าของร้านว่า “หินก้อนนี้ราคาเท่าไร?”
“ห้าพัน!” เถ้าแก่เสนอราคาอย่างไม่เป็นทางการ ในความเห็นของเขาหินก้อนนี้ผ่าออกมาแล้วมีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะมีหยก แต่ถึงผ่าออกมาแล้วจะมี แต่ก็เป็นหยกเกรดต่ำที่สุด ราคาไม่กี่บาท
ถ้าเมื่อกี้เย่เฟิงไม่พูดเรื่องแย่ๆเกี่ยวกับก้อนหินที่เจาะแล้วและมีสภาพยอดเยี่ยมของเขา เขาคงขายหินนี้ให้เย่เฟิงในราคาสองพันเท่านั้น
เย่เฟิงไม่ต่อราคา เขาหยิบบัตรธนาคารออกมา และยื่นให้เถ้าแก่ “รูดบัตรสิ”
สิ่งสำคัญในการเดิมพันก้อนหินนั้นคือการจ่ายเงินและรับสินค้า ไม่ว่าการเดิมพันจะได้กำไรหรือขาดทุน ก็ไม่มีใครสามารถกลับคำได้
บัตรธนาคารที่เย่เฟิงมอบให้นั้นมีเงินหนึ่งหมื่น ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวที่เขาแอบเก็บไว้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เจ้าของร้านใช้เครื่องPOS รูดเงินห้าพัน จากนั้นคืนบัตรให้เย่เฟิง จากนั้นชี้ไปที่เครื่องผ่าหินที่อยู่ข้างๆ “คุณจะผ่ามันเองหรือให้ผมผ่าให้?”
“ผ่าไม่ได้ ผมต้องการเครื่องขัดหิน คุณคงมีเครื่องขัดหินใช่ไหม?” เย่เฟิงมองไปที่เจ้าของร้าน
เจ้าของร้านตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะ “พ่อหนุ่ม คุณแน่ใจหรือหินก้อนนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวได้เหรอ?”
เย่เฟิงพยักหน้า ดูมีความมั่นใจ
“ในเมื่อคุณมีความมั่นใจขนาดนั้น ก็ได้” เจ้าของร้านตะโกนให้กับคนข้างใน “ เหล่าหวัง ออกมาช่วยลูกค้าขัดหิน”
คนงานที่ชื่อเหล่าหวังรีบเดินออกมาจากร้านพร้อมกับเครื่องขัดหิน จากนั้นจึงรับก้อนหินจากมือของเย่เฟิง และเริ่มขัดมัน
สายตาของผู้ชมจับจ้องไปที่ก้อนหินนั้นทันที หลายคนเป็นนักพนันหินที่มีประสบการณ์ ในความเห็นของพวกเขา มองดูหินก้อนนี้แล้วรู้สึกแย่มาก และโอกาสที่มันจะเขียวก็มีน้อยมากจริงๆ
จูเชี่ยนก็แสดงสีหน้าเหมือนคนที่กำลังรอดูฉากมันๆ หวังเพียงผลของการขัดหินออกมา จากนั้นก็จะรอเยาะเย้ยสามีผู้ไร้ค่าของหลี่ยั่วหยุนอย่างสะใจ
สิบนาทีต่อมา เหล่าหวังเทชามน้ำลงบนก้อนหิน
“ทุกคนดูสิ มันเขียวแล้ว!” คนที่มีดวงตาแหลมคมสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของก้อนหินแล้ว
“โอ้พระเจ้า ดูเหมือนจะเป็นหยกแอปเปิ้ลเขียว นี่มัน……” อีกคนมีสีหน้าเหลือเชื่อ
นักเดิมพันเหล่านี้รู้ดีว่า หากเป็นหยกแอปเปิ้ลเขียว มูลค่า……คงไม่หยุดอยู่ที่พันเท่าแน่นอน
ในขณะที่การขัดเงาดำเนินต่อไป ก้อนหินก็มีสีเขียวปรากฏบนมากขึ้นเรื่อยๆ และพื้นผิวก็สม่ำเสมอมาก และสีก็ค่อนข้างดี
เจ้าของร้านอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาคิดไม่ออกจริงๆว่า เศษหินบนชั้นวางของเขาที่ดูเหมือนเศษขยะจะกลายเป็นสีเขียวได้
นี่มันหยกแอปเปิ้ลเขียวนี่!
ดวงของชายหนุ่มคนนี้มันดีเกินไปแล้วมั้ง
จูเชี่ยนก็ได้ยินการสนทนาที่น่าตกใจของฝูงชน ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็ดูแย่มาก
เดิมทีเธอวางแผนที่จะโจมตีหลี่ยั่วหยุน แต่ไม่คาดคิดว่าสามีที่ไร้ค่าของเธอจะได้กำไรจากการพนัน และก็ได้กำไรสูงมาก
“ไม่ต้องขัดต่อแล้ว ความเสี่ยงต่อจากนี้ไปฉันจะแบกรับไว้เอง หินก้อนนี้ผมขอซื้อไว้ สามล้าน!” มีคนตะโกน
“ฉันเสนอสี่ล้าน!” อีกคนรีบทำตาม
“ฉันจะจ่ายสี่ล้านห้าแสน……”
เจ้าของตัวจริงยังไม่ทันได้พูด ผู้ชมก็เริ่มประมูลอย่างกระตือรือร้น
เย่เฟิงยิ้ม และโค้งคำนับให้กับฝูงชน “ขอโทษครับ ผมไม่ขาย”
หลังจากผ่านไปอีกสิบกว่านาที หินก้อนนี้ก็ได้รับการขัดเงาจนเสร็จ และมันก็เป็นหยกแอปเปิ้ลเขียวที่สภาพยอดเยี่ยมมาก
เย่เฟิงหยิบหินมาจากเหล่าหวัง และในขณะที่มือของเขาสัมผัสหินนั้น หัวใจของเย่เฟิงก็สั่นสะท้าน
เพราะเขารู้สึกถึงกลิ่นอายพิเศษจากก้อนหยกนี้ กลิ่นอายนี้ค่อนข้างคล้ายกับปราณทิพย์ในร่างกายของเขา
ข้างในมีพลังทิพย์!
กล่าวคือ ถ้าเขาสามารถดูดซับปราณทิพย์ที่อยู่ในหยกนี้ได้ เขาก็สามารถเพิ่มพลังทิพย์ในร่างกายของตัวเอง
“เย่เฟิง คุณเป็นอะไรไป” หลี่ยั่วหยุนคิดว่าเย่เฟิงมีความสุขจากการได้กำไรจนเหม่อลอย และเรียกเขา
“โอ้ ไม่มีอะไร" เย่เฟิงเพิ่งตั้งสติได้ และยื่นหินหยกไปที่มือหลี่ยั่วหยุน “มอบให้คุณ”
ฉากนี้ทำให้ผู้หญิงบางคนในฝูงชนคลั่งไคล้ทันที
เมื่อหลี่ยั่วหยุนรับหินมาและยิ้ม “คุณนี่โชคดีมากจริงๆ พวกเราไปกันเถอะ”
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของทั้งสองที่จากไป เจ้าของร้านรู้สึกหดหู่ใจ ทำธุรกิจการพนันหินก็เป็นเช่นนี้ เป็นไปได้ที่จะจ่ายไปหลายล้านแต่ผ่าออกมาไม่เป็นสีเขียว หรือเป็นไปได้ที่จะใช้เงินสองสามพันผ่าออกมาก็ได้หลายล้าน
เนื่องจากเย่เฟิงเป็นผู้นำในการที่ได้กำไร ผู้ชมเหล่านั้นก็เริ่มเลือกหินที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่งขับเคลื่อนธุรกิจการพนันหินของเจ้าของร้านไปโดยไม่รู้ตัว
สำหรับผู้หญิงที่ชื่อจูเชี่ยน เธอได้จากไปอย่างเงียบๆตั้งนานแล้ว
ทั้งสองไปได้ไม่ไกล จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง “พ่อหนุ่ม รอเดี๋ยวก่อน”
เย่เฟิงหันกลับมา และชายชราในชุดราชวงศ์ถังกำลังเดินมาหาเขา
“ท่านผู้เฒ่า มีธุระอะไรไหม?” เย่เฟิงถาม
ชายชราเดินไปหาเย่เฟิง และถามด้วยรอยยิ้ม “เรื่องที่คุณพนันก้อนหินเมื่อกี้ทำให้ฉันได้เปิดหูเปิดตา ฉันอยากจะถามว่าคุณทำงานที่ไหน?”
“มันก็แค่โชคดี” เย่เฟิงยิ้มอย่างสุภาพ “ตอนนี้ผมไม่มีงานทำ”
เมื่อได้ยินเย่เฟิงบอกว่าไม่ได้ทำงาน ดวงตาของชายชราก็เปล่งประกาย “คุณชื่ออะไร?”
“ผมชื่อเย่เฟิง”
“เย่เฟิง……” ชายชราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา “บอกข้อมูลการติดต่อให้ฉันหน่อย”
เย่เฟิงไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร แต่ก็บอกหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเอง
“เย่เฟิง คุณสนใจที่จะไปทำงานในเสิ่นซื่ออัญมณีกรุ๊ปหรือไม่?” ชายชราส่งคำเชิญ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองมากที่สุดคือหลี่ยั่วหยุน
เสิ่นซื่ออัญมณีกรุ๊ปเป็นบริษัทขายอัญมณีและหยกที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูน และยังเป็นหนึ่งในสิบของเครื่องประดับชั้นนำของประเทศอีกด้วย มีทรัพยากรทางการเงินที่สูงมาก และไม่รู้ว่าชายชราคนนี้เป็นใคร เพียงเพราะการเดิมพันหินครั้งเดียวเขาก็ส่งคำเชิญให้เย่เฟิง
เดิมทีหลี่ยั่วหยุนคิดว่าเย่เฟิงจะตอบตกลงทันที ใครจะไปคิดว่าหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตอบกลับไปว่า “ผมขอคิดดูก่อน”