บทที่ 6 เจอกันสักที
“สวัสดีเฟื่อง”
“หึ!” ใบหน้าหล่อเหลายิ้มให้กับเฟื่องสาวสวยมากความสามารถอดีตแฟนเก่าสมัยเรียนอยู่รั้วมหาวิทยาลัยที่คบหากันได้ไม่กี่เดือน ทางด้านคนที่ถูกทักทายกับทำสีหน้าไม่พอใจและเมินเขา
“ไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงฉันไหมหืม….”
“เชอะ! ทำไมฉันต้องคิดถึงนายด้วยหลงตัวเอง”
“เหรอแต่ฉันได้ยินว่าคนบางคนยังไม่ลืมเรื่องราวเก่า ๆ นะ ถึงขั้นตรอมใจไม่ยอมคบใครอีกเลย” ร่างสูงมองใบหน้าสวยพร้อมกับทำสายตาเจ้าชู้ใส่
“เมื่อไหร่นายจะหายไปจากชีวิตฉันสักที เคนโซ่”
“จุ๊ๆ มื้อนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอมื้อหน้าเธอต้องเลี้ยงฉันคืนแล้วล่ะเธอติดค่าข้าวฉันหนึ่งมื้อ” เคนโซ่เจ้าเล่ห์อยากหาเรื่องเจอเธออีกโดยเอาเรื่องอาหารมาอ้าง
“ค่าอาหารเท่าไหร่ฉันจะจ่ายคืนนายสองเท่าฉันไม่เป็นหนี้บุญคุณนาย”
“ขอโทษนะฉันไม่รับเป็นเงินสดเธอติดค่าข้าวฉัน”
“ยี๋! ฉันเอียนรู้ไหมฉันเห็นหน้านายแล้วกินข้าวไม่ลงนายอย่ามายุ่งกับฉันเอาเงินนี่ไป”
“พรึบ!” มือบางหยิบเงินในกระเป๋าแบงค์สีเทานับสิบใบปาใส่หน้าหล่อของเคนโซ่ทุกคนที่มองดูต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เหอะ! เธอนิสัยเสียแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เฟื่อง” นอกจากเขาจะไม่โกรธที่ถูกเธอปาเงินใส่หน้ากลับยิ้มออกมาอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
“ท่านรองอย่ามีเรื่องกันเลยครับคุณเฟื่องเธอโกรธมากเลยเรากลับกันเถอะครับ” กวินรีบมาสะกิดเจ้านายที่ดูท่าทางเขาเองยังสนุกและไม่ยอมจะถอย
“ไอ้วินมึงอยู่เฉย ๆ”
“โซ่ขอบคุณนะสำหรับอาหารมื้อนี้แต่พวกเราคงไม่ไปเลี้ยงข้าวนายคืนหรอกนะ” แพมเธอพยายามจะเคลียร์ให้ทุกคนสงบและเย็นลงโดยเฉพาะเฟื่องที่โกรธเคนโซ่จนหูแดงไปหมด
“เหอะ! ทำไมรึว่าเพื่อนเธอกลัวผัวเก่าอย่างฉันแค่กินข้าวด้วยสักมื้อจะตายรึไง หรือว่ากลัวจะหวั่นไหวอยากได้ฉันอีกรอบ”
“กรี๊ดดด! ไอ้โซ่นายอย่ามาปากพร่อยแถวนี้นะใครผัวเก่า”
“ก็ฉันผัวเก่าเธอไงเฟื่อง…จะให้เป็นผัวปัจจุบันก็ได้นะฉันไม่ถือ” ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ตาสบตาประชันหน้าเขายั่วอารมณ์ของเธอให้เดือดขึ้นไปอีก
“เฟื่องๆ ใจเย็นพูดเบา ๆ โต๊ะข้าง ๆ มองพวกแกสองคนอยู่นะ” นุ๊กสะกิดเพื่อนสาวให้ใจเย็นและเก็บอาการเพราะเฟื่องถือเป็นคนสาธารณะไปแล้ว
“นี่ได้กับนายแค่สามเดือนเขาไม่เรียกว่าผัวหรอกจะบอกไว้ให้เอาบุญนะถ้าอย่างนายเรียกว่าผัว งั้นฉันก็คงมีผัวครึ่งพระนครแล้วย่ะ” ร่างบางเมินหน้าเชิดใส่เขาและพูดจาแดกดันจนเคนโซ่เองก็รู้สึกปวดใจ
“เอามือถือเธอมานี่” มือหนาคว้าโทรศัพท์ของเธอและบังคับให้เธอบอกรหัส
“เอาคืนมานะโซ่”
“ไม่คืนถ้าเธอไม่บอกรหัสฉันมาก่อน ก็ตามไปเอาที่คอนโดฉันนะ”
เพราะความสูงเขาจึงยืดแขนขึ้นจนสุดทำให้ร่างบางที่เตี้ยกว่าเอื้อมไม่ถึงเธอพยายามกระโดดยืดตัวแต่ก็ไม่สามารถคว้ามือถือได้ คนที่ตัวสูงใหญ่กว่าเขาสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งเธอให้โกรธเมื่อร่างบางขยับเข้ามาใกล้เขาได้กลิ่นกายสาวหอมหวานที่เขานั้นจดจำมันได้ดี กลิ่นนี้เป็นกลิ่นตัวของเฟื่องนิมมานที่เขานั้นชอบมาก
“ไม่เอา คืนของฉันมานะโซ่”
“งั้นบอกรหัสมาสิ”
“ก็ได้”
“14042020”
“หึ! ไหนบอกว่าลืมผัวเก่าอย่างฉันนี่มันวันครบรอบที่ฉันเป็นแฟนกับเธอ” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มเขาจำได้ดีวันนี้เป็นวันที่เขาจีบและขอเธอเป็นแฟน เมื่อใส่รหัสก็กดเข้าไปในมือถือของเธอและพิมพ์อะไรบางอย่างยุกยิ๊ก
“พูดมาก” ใบหน้าสวยถึงกับกัดปากเธอรู้สึกเสียหน้าไม่คิดว่าเขาจะจดจำวันสำคัญนี้ได้เช่นกัน
“เอาของเธอคืนไปแล้วเจอกันนะครับ” เคนโซ่ยื่นมือถือคืนให้กับเฟื่องและยิ้มเจ้าเล่ห์เดินนำหน้ากวินออกไปฮัมเพลงไปด้วยแบบอารมณ์ดี ทิ้งให้เฟื่องนิมมานยืนทำตาปริบ ๆ อารมณ์เสียอยู่แบบนั้น
ในรถ
“ท่านรองครับ ผมนี่ใจหายหมดสรุปคุณเฟื่องคือแฟนเก่าของท่านรองจริง ๆ เหรอครับ”
“อื้อ”
“ว๊าว! เสียดายที่เลิกกัน”
“ไอ้วินมึงหุบปาก”
“แฮร่ ๆ ๆ แล้วเราจะไปไหนกันต่อครับ”
“ไปร้านหนังสือ”
“ได้ครับผม”
หลังจากที่กวินขับรถพาเจ้านายหนุ่มมาส่งที่ร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุดในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เขาเองก็เดินตามและไปเลือกซื้อหนังสือเช่นกัน
“ไอ้วินมึงเอาเล่มไหนจะเอากี่เล่มตามสบายนะวันนี้กูจ่ายเพราะมึงทำดีมากวันนี้ รูปของเฟื่องในมือถือส่งมาให้กูด้วยส่งเสร็จมึงก็ลบด้วยนะอย่าให้เห็นว่าเก็บเอาไว้”
“อ้าว ผมก็ปลื้มพี่เฟื่องนะท่านรอง”
“กูไม่อนุญาต” เคนโซ่หันมาทำตาเขียวใส่กวินเขาหวงแม้แต่รูปถ่ายของอดีตแฟนที่เขาบอกว่าไม่ได้รัก
“เหอะ! มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ”
“มึงบ่นอะไร…”
“ปะ..เปล่าครับ” หลังจากเลือกหนังสือเคนโซ่หยิบหนังสือที่เป็นของเฟื่องทุกเล่ม เขาอยากจะเห็นและสัมผัสถึงผลงานลีลาการเขียนของเธอจึงเหมาหมดทุกเล่ม
“โห! ท่านรองจะอ่านหมดเหรอครับนี่มันของ ‘นิมมาน’ ทุกเล่มนี่นาท่านรองอ่านนิยายด้วยเหรอเนี่ย?”
“หึ! เห็นว่าเก่งนักอยากจะรู้ว่าจะเจ๋งจริงรึเปล่า…”
“ไม่เจ๋งไม่ขายนิยายได้เป็นล้าน ๆ หรอกครับระวังติดงอมแงมเหมือนแฟนผมนะ”
“แล้วเรื่องไหนที่เธอบอกว่าแต่งมาจากเค้าโครงชีวิตจริงล่ะ”
“เรื่องนี้ครับเป็นเรื่องแรกตอนนี้กำลังจะเป็นซีรี่ย์แล้วกำลังคัดตัวนักแสดงอยู่”
“อื้ม! น่าสน”
วันต่อมาที่บริษัท KC แลนด์
“กาแฟค่ะท่านรอง”
“ขอบคุณครับ”
“อุ๊ย! ท่านรองอ่านนิยายของ ‘นิมมาน’ ด้วยเหรอคะเก๋เองก็ชอบมาก” เลขาสาวเห็นหนังสือนิยายของเฟื่องนิมมานวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเจ้านายและมีที่คั่นหนังสือคั่นเอาไว้
“ก็ลองอ่านดูว่าง”
“เรื่องนี้ดังมากค่ะเป็นเรื่องแรกเก๋อ่านจบกำลังจะรอดูซีรี่ย์ เห็นว่านางเอกเป็นคุณพิมพ์มาดาด้วยค่ะ”
“หืม พิมพ์เป็นนางเอก”
“ค่า! คุณเฟื่องนิมมานนักเขียนเธอกับผู้กำกับเป็นคนคัดเลือกตัวนักแสดง”
“เหอะ! แสบมาก ๆ เฟื่องคิดจะให้พิมพ์มาเล่นเป็นตัวเองร้ายไม่เบา” ใบหน้าหล่อหัวเราะร่าออกมาจนเลขาสาวสงสัยว่าเขาขำอะไร
“คุณโซ่ตลกอะไรหรือว่าหน้าเก๋มีอะไรติดคะ”
“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร ผมแค่นึกอะไรบางอย่างออก”
หลังจากที่เลขาสาวจอมยั่วเดินจากไปเขาก็หยิบหนังสือนิยายของเฟื่องขึ้นมาอ่าน ในนิยายของเธอนั้นบรรยายถึงเขาว่าเป็นผู้ชายที่เธอนั้นรักมากเธอเสียใจและผิดหวังในตัวเขามากมายที่หลอกให้เธอรักและให้เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงอีกคนที่สวยกว่าและเด่นกว่าเธอ เคนโซ่เองอ่านไปก็รู้สึกผิดไปเขาคิดไม่ถึงว่าเฟื่องนั้นจะเจ็บปวดมากมายขนาดนี้
เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงค่ำทุกคนกลับบ้านหมดแต่เขายังนั่งอ่านนิยายของเฟื่องจนจบ บทสรุปนั้นไม่เป็นไปอย่างที่เขาคิดเพราะนางเอกไม่ได้เลือกพระเอกเธอเลือกพระรองที่ทั้งหล่อรวยนิสัยดีรักเดียวใจเดียว จากเริ่มแรกเขาคือพระเอกสุดท้ายหักมุมเขากลับกลายเป็นตัวร้ายในบทที่แสนจะร้ายมันทำให้เขาโกรธมากและหัวเสียที่สุดจึงกดมือถือโทรหาใครบางคนเพื่อจะระบายอารมณ์
เคนโซ่ : ไอ้ภูริมึงว่างรึเปล่าคืนนี้
ภูริ : ว่าง
เคนโซ่ : อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่คลับแถวคอนโดกูอย่าลืมชวนไอ้ป้องมาด้วย
ภูริ : เออ กูนัดสาวไว้จะพาไปด้วย
เคนโซ่ : รีบๆนะกูจะไปรอพวกมึง
หลังจากวางสายเคนโซ่ก็รีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดหรูและขับรถไปคลับใกล้คอนโดของตัวเองวันนี้เขาอยากจะมีเพื่อนนั่งดื่มเพราะรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เนื่องจากอ่านนิยายแล้วอินและไม่พอใจที่ตัวเอกอย่างเขากลายเป็นตัวร้ายในเรื่อง
คลับหรู
“ไงไอ้เสือมาก่อนแต่นั่งแดกเหล้าอย่างกับคนอกหัก”
“ไอ้เชี่ยป้องปากปีจอมึงมาคนเดียวไอ้ภูล่ะ”
“มากับสาวนั่นไงมานู้นแล้ว”
“ไม่เบื่อกันบ้างรึไงผู้หญิง”
“เดี๋ยว ๆ นี่กูหูแว่วไปรึเปล่า….อย่างมึงนี่นะบอกว่าเบื่อผู้หญิง” ปกป้องงงที่เคนโซ่พูดจาอะไรแปลกๆ เพราะทั้งสามคนเพื่อนซี้นั้นชอบสาวสวยและควงสาวไม่ซ้ำหน้าเหมือนกัน
“ขอโทษทีว่ะ พอดีน้องน้ำตาลอยากทานชาบูกูก็เลยพาน้องไปทานมาก่อน” ภูริที่ควงสาวสวยหน้าอกอึ๋มเธอเป็นพริตตี้สาวที่ภูรินั้นชอบ
“ชิ! มาสายเพราะผู้หญิงทั้งปีล่ะมึง”
“แล้วไอ้โซ่มึงเป็นอะไรหน้าตาบอกบุญไม่รับ”
“กูบังเอิญเจอเฟื่องที่ร้านอาหาร”
“จริงดิ! ถ้าให้กูเดานะเฟื่องต้องด่านายจนกลับบ้านไม่ถูกหรือไม่ก็ควงผัวใหม่มาเย้ยแน่ ๆ ฮ่า ๆ ๆ” ภูริพออกพอใจที่เห็นเคนโซ่ทำหน้าหงอย
“หึ! ไม่มีทางกูได้เบอร์ยัยเฟื่องมาแล้ว โว้ย!”
“อ้าว ทำไมมึงได้เบอร์มาง่ายจังวะกูต้องไม่แพ้พนันสิเดิมพันไว้ตั้งสองล้าน”
“บอกแล้วไงว่ายัยนั่นยังรักกูอยู่ ขนาดรหัสมือถือยังเป็นวันครบรอบของกูกับเธอเลย”
“เฮ้ย! บังเอิญเปล่า”
“ไม่มีทางกูยังมีลุ้น”
“แล้วทำไมมึงถึงอารมณ์ไม่ดีมาชวนพวกกูมานั่งแดกเหล้าเป็นเพื่อนอีก”
“ก็กูอ่านนิยายของเฟื่องในเรื่องตอนแรกกูเป็นพระเอกสุดท้ายเฟื่องไปเลือกพระรอง แล้วให้กูเป็นตัวร้ายในเรื่องแทนเซ็งฉิบหาย” เคนโซ่เล่าไปยกเหล้าไปเขาหงุดหงิดจนเพื่อนๆต่างหัวเราะออกมา เพียงแค่เหตุผลแค่นี้ก็ทำเขาหัวร้อนได้
“ฮ่า ๆ ๆ ไอ้โซ่มึงคลั่งเมียเก่าขนาดไปอ่านนิยายของเธอพอรู้ว่าเรื่องที่แต่งมาจากเรื่องของตัวเอง แล้วมึงไม่ใช่พระเอกตอนจบไม่ได้นางเอกนี่หัวร้อน?”
“ก็มันหน้าโมโหไหมล่ะ”
“แต่ชีวิตจริงมึงก็ทำแบบนั้นนะโซ่ มึงไม่ได้เลือกเฟื่องมึงไม่ได้รักเธอมันก็สมเหตุผลแล้วไหมวะ” ภูริพูดตามความจริงที่เขานั้นมองเห็น
“ก็ตอนนั้นกูยังไม่รู้ไงว่ากูรู้สึกยังไงกันแน่ พวกมึงก็รู้ว่ากูไม่เคยมีแฟน สำหรับเฟื่องกูก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจิตใจเธอแบบนั้น”
“เหอะ! เสียดาย…”
“หุบปากไปเลยไอ้ป้อง”