ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
(เสือ)
วันรายงานตัวผมได้เจอกับน้องคนนึงที่ทำให้ผมตราตรึงในใจกลิ่นหอมมานอนลอยตัวมาปะทะเข้ากับจมูกของผมทำให้ตัวของผมรู้สึกซาบซ่านและกลิ่นหอมยวนนั้นเหมือนกับเรื่องเล่าที่คุณพ่อและคุณแม่และบรรพบุรุษของผมเคยเล่าให้ฟังว่าคนที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนทำให้ตัวเองรู้สึกซาบซ่านหัวใจคนนั้นคือคนรักคู่แห่งโชคชะตาของตนเองคำคำนี้อาจดูเหมือนฟังมาจากในนิยายแต่ว่าในความเป็นจริงในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปผู้ชายที่มีกลิ่นหอมเรานั้นจะเป็นคนที่พิเศษมาก
ผมได้กลิ่นนั้นลอยผ่านไปพร้อมกับร่างของเด็กผู้ชายคนนึงที่แต่งตัวใส่ชุดนักเรียนผมรองทรงถือเอกสารมากมายเดินผ่านหน้าผมไปผมจึงแอบเดินตามและพบว่าน้องเขาก็เรียนคณะเดียวกันกับผมผมก็เลยตามติดชีวิตเขา ไม่ว่าน้องเขาจะไปที่ไหนผมก็จะไปอยู่แถวๆนั้นเพื่อให้น้องรู้ว่ายังมีผมอยู่แต่ว่าดูเหมือนน้องจะไม่ได้กลิ่นเพราะผมไม่ได้เผยกลิ่นของตัวเองให้ใครได้รู้มันเป็นเรื่องที่ดีเพราะน้องเองจะไม่ได้คลั่งผมถึงขนาดนั้น ผมอยากพิสูจน์ว่าถ้าผมไม่ใช้ฟีโรโมนของตัวเองน้องเขายังจะชอบผมมั้ยถ้าผมไม่ใช้อำนาจของฟีโรโมน
ในทุกๆเช้าผมก็เฝ้าแวะเวียนว่าน้องจะใช้ชีวิตยังไงแล้วผมก็เริ่มรู้แล้วว่าน้องเป็นคนที่ชอบกินแล้วก็นอนแต่ก็ไม่อ้วนดูน่ารักดีเวลาน้องกินข้าว ผมตามติดชีวิตน้องจนเพื่อนผมที่เป็นเพื่อนสนิทและเป็นคนประเภทเดียวกันกับผมเขาก็ถามผมอย่างสงสัยขึ้นมาในขณะที่ผมนั่งอยู่ในโรงอาหารนะน้องเขาก็นั่งอยู่ไม่ไกลจากผมมากนักและผมก็จ้องมองน้องอยู่นานแต่น้องก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนจ้องมองแบบนั้นซื่อบื้อจริงๆ
“ไอ้เสือมึงมองเขาทำไมวะกูเห็นมึงมองน้องเขาอยู่นานแล้วทุกครั้งเลยด้วย”
เพื่อนผมมันชื่อไอ้ราเชนเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคมากหล่อเหลาเอาการเป็นจ่าฝูงเหมือนผมตระกูลมันกับตระกูลผมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่อยากทานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษกระทั่งตอนนี้เราสองคนก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมันไม่ได้กลิ่นของน้องเขาเพราะไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตาตัวเองอย่างที่บรรพบุรุษเคยพูดไว้
“กูอยากเป็นผัวน้องเขา”
“เหี้ยอะไรของมึงเนี่ย”
“กูจะเอาๆ”
“???!!!”
“กูจะจับคู่กับน้องเขาเพราะเขาเป็นคู่แห่งโชคชะตาของกู แล้วกูก็จะเอาเขาเป็นเมียกูให้ได้”
“ทำไมมึงถึงอยากจับคู่กับน้องเขาถึงขนาดนั้นวะ”
“กูชอบเขาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกกับกลิ่นที่หอมหวานนั้นทำให้กูรู้สึกว่าเขาจะเป็นเมียที่ดีของกู”
“แต่น้องเขาเป็นผู้ชายนะเว้ย”
“ผู้ชายแล้วยังไงน้องเขาท้องได้นะมึงแล้วกูแน่ใจด้วยว่าน้องเขาคือคู่แห่งโชคชะตาของกู”
“น้องเขาจะยอมเป็นเมียมึงหรอ”
“ไม่ยอมก็ต้องยอมเพราะสุดท้ายแล้วคนเป็นคู่กันยังไงมันก็จะคู่กันตลอดไป กูจะไม่ใช้ฟีโรโมนในการดึงดูดน้องเขาเด็ดขาดหรือบังคับน้องเขาแต่กูจะใช้ความรักที่กูจะค่อยๆเรียนรู้และตามจีบน้องเขาไปเรื่อยๆให้เขารักกูที่ตัวของกู ไม่ใช่เพราะอำนาจที่กูทำเขา”
“ฝืนใจคนอื่นไม่ใช่นิสัยของมึงนะ”
“นั่นแหละพอกูไม่อยากฝืนใจเขากูถึงอยากที่จะทำให้เขารักกูโดยไม่หวังพึ่งฟีโรโมนอำนาจนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจมึงกูไม่ขัดขวางอยู่แล้วความสุขของมึงคือความสุขของมึงกูจะมาแย่งความสุขของมึงก็ไม่ได้มันไม่ใช่แนวของกูถ้าเขาไม่รักมึงก็ถอยกลับมาเท่านั้นเองไม่มีปัญหาหรอก”
“กูตามหาเขามาตั้งนานเขาอยู่ตรงหน้าของกูแล้ว กูจะไม่ปล่อยเขาไปเด็ดขาด”
“เสือร้ายอย่างมึงอยากจะกินเนื้อกวางอย่างนั้นสิ”
“หมายถึงยังไง”
“น้องมันชื่อกวางเป็นหลานรหัสกูเองยินดีด้วยนะครับที่มึงจะได้มากินเด็กในสายรหัสกู”
“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็นสายรหัสมึงก็ยังไม่ได้จับสายรหัสเลยนี่”
“ไอ้เสือไอ้โง่ไอ้ควายมึงอยู่ไหนมาเขาจับแล้วเหอะแต่ตอนนี้เขากำลังตามหาสายรหัสของตัวเองอยู่แต่น้องรหัสกูไอ้มิ้นมันเป็นพี่แฝงไปอยู่เป็นเด็กปี 1 ยังไงก็จับไม่ได้อยู่แล้วน้องกวางก็คงจะตามหาพี่รหัสไม่เจอแน่นอน”
“พวกมึงวางแผนจะแกล้งว่าที่เมียกูหรือไงเนี่ย”
“ชิบหายมึงนั่นแหละเป็นเฮดว๊ากไม่รู้เหี้ยอะไรเลยไปซ้อมกับเขาบ้างนะ”
“แล้วถ้ากูเป็นน้องเขาจะเข้ารับน้องหรือเปล่าล่ะ”
“ก็ต้องเข้าอยู่แล้วป่ะอย่าโง่”
“แล้วมึงกับไอ้มิ้นยังไงกันหรอ แอบคบกันหรือว่าแอบกินกันอยู่โดยไม่บอกคนอื่น”
“เสือกเก่งชิบหาย กูไม่บอกมึงหรอกวันนี้ก็ไปซ้อมกับคนอื่นเขาด้วยเป็นเฮดว๊ากต้องซ้อมนะครับไอ้เพื่อน”
“อันนี้กูก็ไม่เข้าใจนะเว้ยทำไมทุกคนต้องกลัวกูด้วยวะกูไม่เคยทำร้ายใครเลยก่อนสักหน่อย คิดไปเองว่ากูเป็นอันธพาล”
“จะไม่ให้คิดได้ยังไงก็ในเมื่อมึงกระทืบไอ้รุ่นน้องที่เดิมมาจับจู๋มึงจนเข้าโรงพยาบาลพอมันไปฟ้องพี่มึงก็กระทืบพี่มาดิกระทืบเพื่อนพี่มันอีกเป็นไงล่ะมึงสุดท้ายกลายเป็นอันธพาลประจำมหาลัยไปเลยอยู่ดีไม่ว่าดีเป็นราชาก็ไม่ชอบเสือกอยากเป็นอันธพาลกูล่ะงงมึงจริงๆ”
“กูไม่ฆ่ามันทิ้งก็บุญแล้วอยู่ๆก็เดินมาจับน้องกูคนที่จะเป็นเมียกูเท่านั้นที่กูให้จับได้ อยากจะมาจับของกูเหอะกูก็กระทืบแถมมันไปด้วยเป็นไงล่ะ”
“มึงไม่ชอบผู้ชายแต่มึงชอบน้องเขาเนี่ยนะ”
“น้องเขาแตกต่างจากไอ้เด็กนรกนั่น”
“เออๆ กูเชื่อมึงก็ได้โอเคไหมแล้วตอนนี้มึงก็ไปซ้อมที่จะรับน้องตอนเปิดเทอมได้แล้ว”
ตอนเย็นผมก็ไปซ้อมรับน้องกับเพื่อนคนอื่นๆคนที่สนิทกันกับผมมันก็รู้ดีนะครับว่าผมเป็นคนยังไงผมไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครอยู่แล้วที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ก็เพราะถูกบังคับล้วนๆ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนที่อยากจะตีใครอยากจะฆ่าใครก็ทำได้ผมเป็นคนอารมณ์ร้อนก็จริงแต่ผมก็ไม่ได้เป็นอันธพาลอย่างที่ใครเขาคิดกันพวกนั้นก็คิดไปเองเห็นว่าผมกระทืบคนก็โมเมว่าผมเป็นคนชั่วคนชั่วอะไรจะหน้าตาดีขนาดนี้พวกมันต่างหากที่โง่เห็นภาพตรงหน้าว่ามันเป็นยังไงก็คิดเป็นอย่างนั้นทั้งที่ไม่ได้สืบสาวราวเรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้นน่าจะกระทืบไอ้พวกปากหอยปากปูพวกนั้นด้วยเหมือนกันน่ารำคาญจริงๆ
ในช่วงเย็นก็ไม่ถึงเย็นหรอกครับดึกมากแล้วผมกลับจากซ้อมว๊ากน้องรับน้องผ่านไปแถวปากซอยผมแวะเซเว่นก็เห็นน้องคนนั้นที่เพื่อนผมบอกว่าชื่อกวางกำลังเดินออกจากเซเว่นเพื่อที่จะกลับเข้าไปหอพักแต่ตรงนั้นมันเป็นตรงที่คนชอบมาดักปล้นกันตรงนั้นอยู่บ่อยๆผมเลยเดินตามไปในปากก็สูบบุหรี่แล้วก็เดินไปตามน้องเขาแล้วก็เป็นอย่างที่คิดครับน้องเขาถูกดักปล้นจริงๆ
“ว่าไงคนสวยซื้อของเยอะแยะเลยนะครับ”
“พวกพี่เป็นใครวะอยู่ๆก็มาดักรอต้องการอะไรกันแน่”
“จะให้พูดยังไงดีล่ะก็คงจะบอกว่ามาดักปล้นละมั้ง”
“เหี้ย!!!”
“ไอ้เด็กเวรนี่!! แม่ง!! น้ำลายเต็มหน้ากูเลยพวกมึงจับมันดิ๊!!!”
“ช่วยด้วยยยยยยยยยยย!!!!”
เสียงร้องนั้นทำให้ผมรีบเดินจ้ำเอาทำท่าเหมือนเดินผ่านแต่ก็พยายามที่จะให้พวกมันรู้ว่าผมบังเอิญมาเจอจริงๆหันหลังอยู่ก็เลยไม่เห็นผม แต่น้องหันหย้ามาทางที่ผมยืนเลยเห็นผมก็เลยเรียกผมเอาไว้ ภาพที่ผู้ชายพวกนั้นมันรุมล้อมว่าที่เมียผมทำเอาผมโมโหอยากที่จะกระทืบพวกมันจริงๆสายตาก็เลยกลายเป็นแข็งกร้าวไปในทันที
“รุ่นพี่ครับช่วยผมด้วยผมกำลังจะโดนโจรปล้นช่วยผมด้วยนะครับ”
“เรียกกูงั้นหรอ?”
“พี่ช่วยผมด้วย!!”
น้องมันเริ่มแหกปากตะโกนอีกครั้งเมื่อผมทำท่าทีเมินเฉยต่อน้องกวาง บุหรี่ที่ผมกำลังสูบอยู่นั้นก็ถูกโยนลงพื้นและใช้เท้าขยี้บุหรี่อย่างหัวเสีย น้องกวางจ้องเข้าไปในดวงตาที่ดุดันและคมกริบของผมรอยยิ้มที่แสนน่ากลัวค่อยๆโผล่ขึ้นมาโจรสารเลวพวกนั้นก็ทำท่าทางหวาดกลัวผมเอาดื้อๆ เหอะๆใจกากเสือกอยากเป็นโจรไอ้พวกเวร
“พวกมึงแม่ง กวนอารมณ์กูสูบบุหรี่ชิบหายมึงจะปล่อยมันไม่ปล่อย”
“นั้นมันไอ้เสือวิศวะนี้น่า หนีเร็ว!!!!”
ไอ้ตัวหัวหน้าเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปใกล้มันก็รีบแหกปากแล้วก็รีบวิ่งหนีไปส่วนน้องกวางมันหน้าเหวอดูตลกมากครับกลัวจนตัวสั่นขาสั่นพรึบๆ แม้แต่แรงวิ่งก็ไม่มีผมกระชากน้องเขาให้ลุกขึ้นมาอย่างน่าขบขัน แต่ก็เข้าใจที่น้องกลัวนะครับแต่ไม่นานน้องก็เก็บของที่หล่นลงพื้นน่าจะทำตกเอาไว้ตอนไอ้โจรกากพวกนั้นมาดักนั้นแหละ
“มึงชื่ออะไร”
“ผมชื่อกวางครับขอบคุณนะครับที่ช่วยเหลือ...”
“กูชื่อเสืออยู่คณะวิศวะ กูหล่อที่สุดในมหาลัยแล้วตอนนี้กูอายุ 21 ปีแล้วมึงก็คงเป็นเด็กปี 1 ใช่ไหมถึงกล้ามาเดินอะไรแถวนี้ตอนดึกๆไม่รู้หรอว่าที่นี่เขาดักปล้นกันบ่อยๆ”
“ผมไม่รู้ครับผมเลยมาก็เพราะผมหิวผมเลยออกมาหาอะไรกินไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้”
“ช่างมันเถอะมึงไม่รู้ก็ไม่เป็นไรแต่กูมีคำถามอีกเรื่อง”
“เรื่องอะไรครับถ้าผมตอบได้ผมก็จะตอบ”
“มึงมีผัวยัง”
“ห๊ะ!!! ผมเนี่ยนะมีผัวผมต้องมีเมียสิครับ”
“มึงมาเป็นเมียกูสิกูจะซื้อมาม่าให้กินทุกวันเลย กูโสดกูไม่มีเมียมีเงินกูให้เวลามึงได้มึงอยากกินอะไรกูจะซื้อให้มึงกินแต่กูชอบกินมาม่ามึงเลิกเป็นเพื่อนกูกูมีเพื่อนแค่ไม่กี่คนแต่กูไม่รับมึงว่าเป็นรุ่นน้องแต่มึงกูอยากได้เป็นเมียมากกว่า”
“แล้วใครอยากเป็นเมียของพี่กันวะชิบหายไม่ได้อยากเป็นเมียผู้ชายนะเว้ย”
“เดี๋ยวกูไปส่งมึงไปเองมึงโดนมันดักปล้นอีกแน่”
ผมพูดขู่น้องไปแบบนั้น เพราะกลัวว่าน้องจะไม่ให้ผมไปส่งน้องผมก็เลยพูดไปให้น้องกลัวจะได้ให้ผมไปส่งจะได้ให้น้องเขากอดเอวผมขึ้นจักรยานคู่ใจที่ผมจอดไว้ที่นี่หลายวันแล้วตอนที่มากินเหล้าแถวๆนี้ก็ลืมเอาไว้วันนี้ตั้งใจว่าจะมาเอาด้วยแหละ แถมยังได้จักรยานคู่นี้กลับไปบ้านด้วย
ผมพูดจบก็คว้าจักรยานที่จอดเอาไว้แล้วลากน้องเขาให้ซ้อนรถจักรยานแล้วก็พาน้องปันไปยังซอยที่ตั้งของหอพักดูท่าทางว่าน้องจะกลัวมากนะครับน้องก็เลยกอดเอวของผมเอาไว้ผมรู้สึกดีจริงๆมือน้องนุ่มนิ่มจนผมอยากที่จะกัดดูว่างจะนิ่มขนาดไหน สุดท้ายผมก็มาปล่อยน้องเอาไว้ที่หอยืนรอจนกว่าน้องจะขึ้นห่อไปจากนั้นผมก็กลับไอ้โจรพวกนั้นมันก็ยังกวนส้นตีนครับพอมันจะดับมาทำร้ายผมผมจะรออะไรล่ะครับกระทืบมันสิสุดท้ายแล้วเป็นไอ้ราเชนเองครับที่มันต้องมาประกันตัวของผมเพราะผมไปกระทืบไอ้พวกนั้น
แล้วป้าที่ดูแลหอเป็นคนแจ้งตำรวจแค่มาจัดการผมดูที่ป้าแกไม่รู้เลยว่าผมเป็นคนถูกกระทำแต่ก็เลยโทษป้าแกไม่ได้หรอกครับก็คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดแต่มันจะผิดมากเลยถ้ารู้แล้วยังเสือกช่วยคนที่ชั่วแบบนั้นโดนตรวจสอบไปมาก็ได้รู้ความจริงว่าคนที่เป็นโจรแท้ๆก็คือไอ้พวกนั้นสุดท้ายคดีมันพริกผมก็เลยชนะคดีเรื่องนี้ป้าแกที่เป็นเจ้าของหอก็รีบขอโทษขอโพยผมยกใหญ่ผมเองก็ไม่ได้ถือสาอะไรแกเลยเพราะผมรู้ดีว่าหน้าตาผมมันดูน่ากลัวจนไม่น่าไวว้วางใจแต่ก็เอาเถอะถือว่าเรื่องราวมันก็จบได้ด้วยดีในช่วงเช้าวันเสาร์ผมรีบแต่งเนื้อแต่งตัวและซื้ออาหารเช้าไปให้น้องกวางกลัวว่าน้องจะรู้สึกไม่ดีแล้วไม่กล้าที่จะออกไปไหนมาไหนเพราะกลัวโดนปล้นอีก
ก๊อกๆๆๆ
ก๊อกๆๆๆ
ปังๆๆๆๆๆ
“เออๆ มาแล้วๆ”
เสียงของผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องดังออกมาทำสีหน้าไม่พอใจขึ้นมากะทันหันไอ้เด็กผู้ชายคนนี้มันเป็นใครวะถึงได้มาอยู่ในห้องกับน้องกวางได้แต่ผมก็ลืมคิดไปว่าอ๋อน้องคนนี้เป็นรูมเมทของน้องกวางเองเกือบได้กระทืบคนแต่เช้าแล้วไม่ล่ะ
“พี่เป็นใครครับมาหาใคร”
“ชื่อเสือมาหากวาง”
“พะ พี่เสือ...”
“จะปากสั่นทำไมขอเข้าไปหน่อยดิจะเอาอาหารเช้าไปให้น้องกวาง”
“พี่ตามจีบเพื่อนผมจริงดิไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ยแต่มันกลัวพี่มากเลยนะครับ”
“กูก็ไม่ได้จะทำร้ายน้องมันสักหน่อยคิดไปเองหรือเปล่าแต่พี่มีชื่อเสียงในด้านที่ไม่ดีไงครับเพื่อนผมก็เลยกลัวพี่จะจีบมันผมไม่ว่าหรอกนะครับแต่ผมไม่อยากให้เพื่อนผมเสียใจแล้วไม่อยากให้เพื่อนผมโดนทำร้ายก่อนที่พี่จะทำอะไรพี่ก็คิดถึงใจมันหน่อยนะครับ”
“อืม”
“งั้นผมจะลองเชื่อใจพี่ดูที่เข้ามานะครับเดี๋ยวผมไปปลุกมันมาให้”
น้องที่เป็นรูมเมทก็หายเข้าไปในห้องอยู่นานจนในที่สุดก็กลับมาพร้อมกับน้องกวางที่ทำหน้าเหวอเมื่อเจอหน้าผมแบบไม่ทันตั้งตัว จะเอาอะไรมาตั้งตัวตื่นขึ้นมาก็ถูกพามาที่นี่เจอหน้าผมก็กลัวผมเป็นธรรมดานั่นแหละบางทีผมเองก็รู้สึกแย่นะครับกับการถูกคนที่ตัวเองชอบทำท่าทางหวาดกลัวแบบนี้ แต่จะทำยังไงได้ก็คนมันหวาดกลัวไปแล้วจะให้ไปบังคับให้ไม่ให้กลัวก็เป็นไปไม่ได้สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือทำให้น้องเชื่อใจนั่นแหละครับคือทางที่ดีที่สุด
“พี่เขามาเคาะประตูแต่เช้ากูก็เลยเปิดให้เขาเข้ามา”
“มึงก็ให้พี่เขาเข้ามาเนี่ยนะ”
“ไม่งั้นประตูห้องเราก็พังสิวะมึงโง่ป่ะเนี่ย”
“มึงนี่มันเหี้ยจริงๆเลย ปล่อยให้เขาเข้ามาก่อกวนเพื่อนมึงได้ยังไงเนี่ย”
“กูไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละอยากจะคุยก็คุยกันเองอย่ามาทำประตูห้องพัง และอย่ามาโวยวายรำคาญ”
“ไอ้มิ่งจะไปไหน!!!”
“ไปหาเมียกู”
พวกเราสองคนจะคุยกันเด็กที่เป็นรูมเมทชื่อมิ่งก็ขอตัวไปหาแฟนตัวเองปล่อยให้น้องกวางอยู่กับผมสองต่อสองผมนิ่งอยู่นานไม่รู้จะคุยอะไรแต่ใจก็อยากมาหาเราร้องจะมาให้ได้จึงได้เอ่ยปากขึ้น เพื่อทำลายความเงียบที่หน้ากดดันนั้นทิ้งไป
“ซื้อมาฝาก”
“อ๋อ...”
“ชอบกินอะไรไม่รู้แต่กูชอบกินอันนี้ก็เลยซื้อให้”
“แล้วทำไมพี่ต้องซื้อให้ผมนะครับ”
“กูจะซื้อให้เมียไม่ได้หรือไง”
“ใครเป็นเมียพี่กันผมไม่ได้เป็นเมียพี่สักหน่อยอย่ามาโมเมนะ”
“ปากดีจริงมึงอ่ะ ถ้าเป็นคนอื่นกูเตะปากแตกแล้วนะเนี่ยไปดีที่มึงเป็นว่าที่เมียกูแล้วกูจะไม่ทำอะไรเมียกูแบบนี้ด้วยจงดีใจไปซะ”
“พี่เมากาวป่ะเนี่ยถ้าเมาก็กลับบ้านไปซะไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้วผมก็ไม่อยากเป็นเมียของผู้ชายคนไหนด้วย”
“นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่าตัวเองมีกลิ่นที่หอมมากกว่าคนอื่น”
“ผมไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นนะที่ต้องรวมเนื้อรวมตัวของตัวเอง”
“แสดงว่ายังไม่รู้จริงๆสินะว่าตัวเองพิเศษยังไง”
“ความพิเศษยังไงพี่ช่วยบอกผมหน่อยสิพี่ถึงตามติดผมขนาดนี้”
“นายคือผู้ชายท้องได้ใช่ไหม”
“จะบ้าหรอผมเป็นผู้ชายนะจะท้องได้ยังไง พี่เป็นโรคประสาทป่ะเนี่ย”
“ถ้ากูไม่ชอบมึงสักหน่อยนะกูจะเตะมึงคว่ำแล้วมาด่ากูแบบนี้”
“เหอะ! พี่ก็ดีแต่เก่งกับคนที่อ่อนแอกว่านั่นแหละ”
“งอนหรอเมีย”
“อย่ามาเรียกแบบนั้นนะ”
“ทำไมจะเรียกไม่ได้สุดท้ายแล้วมึงก็ต้องเป็นเมียกูเหมือนเดิมทำไมทำใจยอมรับเรื่องจริงไม่ได้หรือไง”
“เงียบทำไมยอมรับความจริงได้แล้วหรอหืม...”
“ตกลงพี่จะคุยเรื่องอะไรกับผมกันแน่รีบพูดมาเถอะ”
“มึงเป็นคนแรกเลยนะที่ทำตัวไม่กลัวกูจริงๆก็กลัวมากใช่ไหมถึงได้สั่นแบบนั้น”
“ใช่ครับทำไมผมจะไม่กลัวเพราะพี่เป็นอันตพาลของมหาลัยก่อกวนคนอื่นทำร้ายคนอื่นไปทั่วทำไมผมจะไม่กลัวล่ะผมก็รักตัวกลัวตายที่ผมกลัวพี่ก็ต้องเข้าใจนะครับเพราะผมไม่อยากยุ่งกับคนที่เป็นอันธพาล”
“ปากดีสมกับเป็นว่าที่เมียกูจริงๆ”
“พี่มีเรื่องอะไรก็ได้พูดมาเถอะครับผมจะได้กลับไปนอนต่อ”
“มึงเคยอ่านนิยายอัลฟ่าโอเมก้าไหม มึงก็เป็นผู้ชายท้องได้เหมือนโอเมก้าในนิยาย แล้วกูก็คืออัลฟ่าของมึง...”
“อย่าเยอะเกินไปป่ะหมกมุ่นหรือเปล่าเนี่ยพี่”
“มันคือเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องโกหก”
“แล้วทำไมผมไม่เคยได้กลิ่นของพี่เลยโกหกป่ะเนี่ย”
“ถ้ามึงได้กลิ่นของกูมึงต้องยอมอ้าขาเป็นเมียกูง่ายดายแน่นอนถ้ากูไม่ทำแบบนั้นเพราะกูตั้งใจที่จะจีบมึงให้มึงตกลงเป็นเมียกูได้คือความรู้สึกของมึงเองไม่ใช่ความที่ถูกบังคับจากคนที่อยู่เหนือกว่ามึง”
“มึงเองก็เพิ่งอายุได้ 18 ปีพ่อกับแม่ไม่เคยที่จะบอกเรื่องนี้กับมึงเลยหรอ”
“ผมไม่มีพ่อแม่หรอกนะวันนี้ผมถือว่าพี่ไม่ได้มาพูดอะไรกับผมก็แล้วกันเลิกอ่านนิยายบ้างนะครับจะได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง เชิญครับ”
“ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรแต่ที่แน่ๆก็คือมึงสามารถท้องได้จริงๆแต่ว่าวันนี้กูจะกลับไปก่อนหาที่กูซื้อมาให้ก็กินซะแล้วก็ไปนอนจะได้มีเนื้อมีหนังมากกว่านี้กูไปล่ะ”
ผมตั้งใจที่จะบอกความจริงกับน้องเพราะผมพึ่งรู้ว่าน้องไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ไม่ล่ะครับน้องก็เพิ่งรู้ตัวเองว่าพิเศษกว่าคนอื่นๆทำไมคนเป็นพ่อเป็นแม่คนถึงไม่ได้บอกลูกเรื่องคอขาดบาดตายเรื่องนี้แต่เท่าที่ฟังมาน้องก็คงจะไม่ได้มีพ่อแม่คอยดูแลไม่ล่ะครับความรู้สึกสงสารและเสียใจก็ประดังประเดเข้ามา ผมมาส่งอาหารเช้าให้กับน้องทุกวันแต่ว่าวันนี้ผมกลับไม่มีเวลาว่างเลยเพราะต้องไปซ้อมบาสกับเพื่อนๆจะได้มีเวลามาหาน้องสักทีเบื่อที่จะเป็นเฮดว๊ากแล้วหรอครับน้องคงจะคิดถึงผมมากแน่เลยที่ผมหายไปแบบนี้แต่ก็ต้องอดทนไว้ครับเพื่อหน้าที่ผมต้องทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้แล้วผมค่อยไปตามหานะของกินอร่อยๆไปฝากน้องตอนเย็น