วิวาห์อ้อนรัก || CHAPTER 4
ภาคีนัยจูงมือแฟนสาวของเขาไปยังห้องตรวจของตนเองทันที
โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีนัดกับผู้ป่วยแล้ว ทำให้เขามีเวลาส่วนตัวให้คนตรงหน้า
ที่ไม่ลืมจะล็อกประตูห้องให้กับคุณหมอ
“พี่บี อืม!”
ไม่ทันที่ภาคีนัยจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น ริมฝีปากอวบอิ่มทาบทับลงมาบนส่วนเดียวกันของเขา จุมพิตแสนหวานทำให้คนถูกจู่โจมเกือบหยุดหายใจ… หัวใจของเขาเต้นรัวเร็วเมื่อสัมผัสความอ่อนนุ่มของเรียวปากสีหวานจากริมฝีปากหยักของตน มธุรดาหลับตาพริ้มตักตวงเอาความรักความคิดถึงจากเขาอย่างโหยหา
“ชื่นใจจัง”
คนอายุมากกว่าถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะยิ้มแป้นราวกับเด็ก
เล็ก ๆ อย่างน่าเอ็นดู เล่นเอาคุณหมอหนุ่มหน้าแดงฉ่า
ลูบแก้มตัวเองแก้เขินทันที
“กลับมาทำไมไม่บอกผม ผมจะได้ไปรับ”
คนฟังยู่ปากใส่แฟนหนุ่ม ก่อนจะกอดอกมองอีกคนราวกับคาดโทษ
“ถ้าไม่มาเซอร์ไพรส์แล้วจะรู้เหรอว่ามีนางเอกระดับแถวหน้าของเมืองไทยตามมาเฝ้าหมอถึงที่นี่”
มธุรดาตัดพ้ออย่างแสนงอน ทำให้คนฟังยิ้มขำกับนิสัยหึงหวงของคนตรงหน้าที่แก้ไม่หายเลยสักที แต่เขารู้ดีว่าสาวเจ้าไม่ได้จริงจังกับเรื่องของญาดามากนัก เพราะเจ้าหล่อนเองก็ทราบดีว่านางเอกสาวเป็นลูกของอาจารย์แพทย์ธนดล ซึ่งท่านเองก็ทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้
“นางเอกคนไหนก็สู้นางร้ายคนสวยของภีมไม่ได้หรอก” ชีวิตในจอของเธอที่ต้องรับบทบาทนางร้ายซึ่งผิดหวังจากพระเอกเรื่องแล้วเรื่องเล่า แต่ในชีวิตจริงผู้ชายตรงหน้าคนนี้ไม่เคยทำให้มธุรดาผิดหวัง
ยกเว้น... เรื่องเดียว
“ทำเป็นปากหวานก็เท่านั้นแหละ บอกไว้ก่อนวันนี้ไม่ว่างไปดินเนอร์กับหมอนะคะ”
คุณหมอภาคีนัยเลิกคิ้วมองคนรักทันที คล้ายกับสงสัยว่าวันนี้สาวเจ้ามีอีเวนต์อะไร สาวเจ้าอมยิ้มมองคนที่ทำหน้าฉงนก่อนจะเฉลย
“ครับ”
“มีนัดกับแก๊งนางฟ้าค่ะ บีต้องไปงานเลี้ยงรุ่น”
งานเลี้ยงรุ่นของมธุรดาถูกจัดขึ้นที่โรงแรมห้าดาวยักษ์ใหญ่ อันที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจจะมาสังสรรค์กินเลี้ยงอะไรหรอก
หากไม่ถูกเดอะแก๊งนางฟ้ากำชับให้มาพบหน้ากันเพื่อเมาท์มอยให้ได้
...
“พวกแก๊! นั่นอีบีมาจริง ๆ ด้วยค่า รอบนี้ไม่เบี้ยว ไม่นก”
พาขวัญ หรือ ขวัญ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อดังหนึ่งในแก๊ง
ถึงกับหวีดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นหน้าเพื่อนรักที่เบี้ยวนัดกลุ่มเพื่อนบ่อยที่สุด!
“ดีค่ะ นาน ๆ ทีเจอกัน จะได้เมาท์มอยแบบครบ ๆ เบี้ยวบ่อย เพื่อนลำไย” นันทิยา หรือ นัน หนึ่งในเดอะแก๊งอีกคนบอกพร้อมกับยกแก้วพันซ์ขึ้นดื่ม ก่อนจะขยับตัวเบียดกัลยาหรือ เหมียว เพื่อนผู้ร่วมวงอีกคนให้ขยับกระเถิบออกไปแล้วจึงตบที่ว่างข้างกายบนเบาะโซฟาหลุยส์ราคาแพง
“ว่าไงคะสาว ๆ รอนานไหม” มธุรดาทักทายเพื่อนรักวัยเลขสาม
ทั้งสามคนของเธออย่างอารมณ์ดี ไม่ใช่บ่อย ๆ นี่นาที่เธอจะพบกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย
“แหม แม่นางร้ายคิวทอง ก็นึกว่าจะไม่มีว่างมาเจอเพื่อนฝูงซะละ” กัลยา คุณแม่ลูกสองแซวเพื่อนรักขำ ๆ ก่อนจะรินแอลกอฮอล์ดีกรีสูงใส่
แก้วให้คนมาใหม่ แต่ไม่ทันจะได้ยกให้… มธุรดาก็ยกมือห้าม
“โอ๊ย อีเหมียว ไม่เอา ๆ หมอไม่อนุญาต เขาบอกไม่ให้ดื่ม!!”
ทำเอาสาว ๆ เดอะแก๊งทั้งสามคนมองบนใส่เพื่อนรัก นี่พึ่งรู้ว่าไอ้การมีแฟนเป็นหมอจะต้องถูกควบคุมความประพฤติห่างไกลจากอบายมุขอย่างเข้มงวดขนาดนี้
“ที่แท้ผัวสั่งห้าม” นันทิยาว่าอย่างรู้ทัน แต่ถูกมธุรดาเบรก
“ผัวเผออะไร บอกแล้วว่ายัง!”
“โอ๊ย! ไม่น่าเชื่อ สวย ๆ อย่างแก ยังไม่โดนน้องหมอตรวจภายใน ทนได้ไงวะ!? ถามจริงเถอะอีบี น้องหมอแกเป็นเกย์หรือเปล่า” พาขวัญ
ถามเสียงหลง
ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนสาวของเธอจะยังไม่เสร็จคุณหมอละอ่อนที่อายุน้อยกว่าถึงห้าปี ทั้ง ๆ ที่คบหาดูใจกันมาเกือบห้าปีเต็มแล้วก็ตาม
มธุรดาเป็นเด็กต่างจังหวัด สอบได้ทุนเข้ามาเรียนโรงเรียนประจำหญิงล้วนในกรุงเทพ เธอไม่เคยมีแฟนสักคนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีผู้จัดการชื่อดังแมวมองเห็นความสวยในตัวมธุรดา
ที่โดดเด่นเตะตา เลยมาตามจีบให้เข้าเป็นเด็กในสังกัดตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง
เธอทั้งเรียนในมหาวิทยาลัยและเรียนการแสดงไปด้วย ช่วงเวลานั้นสาวเจ้าถูกห้ามไม่ให้มีคนรัก จนเวลาผ่านไปหลายต่อหลายปี มธุรดาก็ใช้ความสามารถไต่ระดับขึ้นแท่นกลายเป็นนางร้ายเบอร์หนึ่งของเมืองไทยที่บางครั้งบางคราก็สามารถแย่งซีนนางเอกบางคนเสียจนกินขาด
ไม่รู้มธุรดาจับพลัดจับผลูอีท่าไหน จู่ ๆ ก็เปิดตัวเป็นแฟนกับคุณหมอหนุ่มรูปหล่ออนาคตไกล ลูกชายเจ้าสัวภูริเดชเศรษฐีเมืองไทยอันดับต้น ๆ แถมยังบอกอีกว่าทั้งคู่คบหาดูใจกันมาหนึ่งปีแล้ว
เล่นเอาเพื่อน ๆ เซอร์ไพรส์ ใจหายใจคว่ำกันไปหมด
“ถามจริง กับน้องหมอ ถึงขั้นไหนละ คบกันมานานแล้วนี่” นันทิยาถามคำถามที่อยากรู้ แต่นั่นทำเอานางร้ายสาวเพื่อนรักผ่อนลมหายใจ
ออกมา ก่อนจะคว้าเอาแก้วน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด ความแสบร้อนแล่นปราดไหลลงสู่ลำคอ
“อีบี! ใจเย็น ๆ ก่อน ดื่มซะเหมือนตัวเองคอแข็งตายชัก”
กัลยาที่เป็นคนรินแอลกอฮอล์ให้เองนั่นถึงกับร้องปราม
“เอาจริง ๆ ป้ะ! ... จูบ แค่จูบจริง ๆ … ห้าปี” มธุรดาบอกตามตรงราวกับระบายความในใจ ทำเอาอีกสามสาวหัวเราะร่วนเมื่อเห็นเพื่อนรักเป็นทุกข์เป็นร้อนได้ขนาดนี้
“โอ๊ย จูบนี่แกก็อุทิศให้กับการแสดงนับไม่ถ้วนละปะวะ”
ยอมรับว่าเคยคิดจะนอกใจภาคีนัย ทว่าก็ได้แต่ตั้งใจทำงาน... มธุรดาเองก็จุมพิตคนอื่นเพื่อการแสดงมาหลายครั้ง หากแต่นั่นมันเป็นงาน มันจึงไม่เหมือนกัน
“มันไม่เหมือนกัน แกไม่เข้าใจ!” อาการงอแงเริ่มกำเริบมือเล็กคว้าเอาขวดสุราสีเข้มรินใส่แก้วอีกครั้ง ก่อนจะยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมดเป็นแก้วที่สองกลายเป็นว่าลืมคำสั่งของคุณหมอส่วนตัวที่ว่าคืนนี้ห้ามเมาไปจนหมดสิ้น
“นี่แสดงว่าอยากให้น้องหมอทำอย่างอื่นใช่ม้า” พาขวัญแซวขำ หากแต่มธุรดาไม่ขำด้วย เธอคิดเรื่องนี้มานานพอสมควรแล้ว อายุอานามเธอก็ไม่ใช่น้อย ๆ