วิวาห์อ้อนรัก || CHAPTER 5
“เรื่องอื่นน่ะไม่เท่าไร แต่แกเข้าใจปะวะ กลางปีนี้ฉันจะครบสาม
สิบสองปีแล้วนะเว้ย ยังไม่มีวี่แววว่าหมอเขาจะขอฉันแต่งงานเลย ไม่เคยพูดถึงเรื่องแพลนในอนาคตด้วย”
วินาทีนั้นแหละที่เพื่อนสาวชาวเดอะแก๊งอุทานออกมาพร้อม ๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“ฉิบหาย...”
“เออนั่นแหละ บางทีฉันก็ไม่รู้ว่าหมอเขาคิดยังไงกันแน่ แบบว่าเขาจะจริงจังกับฉันไหม” มันเป็นเรื่องเดียวที่มธุรดากังวล
นั่นก็คือเรื่องอนาคต ซึ่งเธอก็ไม่กล้าถามภาคีนัยตรง ๆ เลยสักครั้งเพราะการเป็นฝ่ายหญิงอาจดูเป็นการรบเร้ามากเกินไป
“นี่ดีนะที่น้องหมอเลือกเรียนเฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัวน่ะ เลยเรียนต่อได้เลยเพราะเป็นสาขาที่ขาดแคลน ไม่งั้นใช้ทุนครบสามปี ถึงเรียนต่อเฉพาะทางได้ ละอีกอย่าง ถ้าเรียนพวกหมอศัลย์ หมอหัวใจ หมอไตงี้ ไม่มีเวลามาดูแลแกหรอกย่ะอีบี” นันทิยา อดีตพยาบาลสาวที่ลาออกมาช่วยกิจการสามีบอกแบบคนมีความรู้ทางด้านนี้มาบ้าง เพราะภาคีนัย
อายุน้อยกว่าเพื่อนของเธอมาก หากขอให้เขาเรียนจบ มั่นคงในด้านหน้าที่การงาน มธุรดาคงได้แก่เลยวัยมีลูกเสียก่อน
“โอ๊ย พูดแล้วเครียด! ทำไงได้เล่า ก็คนมันรักไปแล้วนี่นา!” มธุรดาแย่งเอาแก้วน้ำเมาจากมือเพื่อนรักมาดื่มจนหมด
จนตอนนี้สาวเจ้าเริ่มหน้าแดงก่ำตาปรือขึ้นมาเสียแล้ว ก็เล่นดื่มรวดเดียวหมด รวดเดียวหมดแบบนี้ คิดว่าตัวเองเป็นวันเดอร์วูแมนพลังอึดหรืออย่างไรไม่รู้ และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ปรับทุกข์กันอยู่อีกครู่สั้น ๆ เท่านั้น มธุรดาก็ล้มฟุบคอพับไปกับโซฟา เป็นอันหมดฤทธิ์กับแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด
กลายเป็นว่าวันนี้เดอะแก๊งนางฟ้าเมามายกันไม่เป็นท่าแต่ละคนเมาแอ๋ไม่รู้เรื่อง มีเพียงแค่กัลยาที่คอแข็งสุด พอมีสติที่จะพาบรรดานางฟ้าตกถังเหล้ากลับบ้านได้ แต่จะให้เธอแบกทั้งหมดนี้ไปก็คงไม่ไหว
“เอาไงดีวะ” สาวเจ้าครุ่นคิด มองเพื่อน ๆ ของเธอที่หลับคอพับตาปรือ ไม่มีทางเลือกอื่น ดูเหมือนเธอต้องใช้ตัวช่วย มือหยิบเอาโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าขอมธุรดาออกมา ก่อนจะ
กดโทรออกเบอร์ ‘Honey boy’
รอสายอยู่เพียงครู่เดียวก็มีเสียงเจ้าของเบอร์กรอกมาตามสาย
“ว่าไงครับพี่บี โทรมาทำไมดึกเชียว” นั่นคือเสียงของภาคีนัยนั่นเอง
“เอ่อ น้องหมอคะ นี่ไม่ใช่บีนะคะ นี่เพื่อนบีเอง พี่เหมียวค่ะ จำได้ไหมคะ เพื่อนในแก๊งบีมันน่ะค่ะ” คนฟังขมวดคิ้ว เขาจำกัลยาได้ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมสาวเจ้าต้องเอาโทรศัพท์ของมธุรดาโทรมา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คือน้องหมอว่างหรือเปล่าคะตอนนี้ เข้าเวรอยู่หรือเปล่า หรือทำอะไรอยู่” กัลยากลัวว่าชายหนุ่มจะยังคงอยู่ในเวลางาน
“เปล่าครับ วันนี้ผมอยู่บ้าน กำลังจะเข้านอน”
อื้อหือ นี่ยังไม่สามทุ่มดีด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าผู้ชายสายเฮลท์ตี้สุด ๆ
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ตารางสุขภาพดีของคุณหมอหนุ่มวันนี้คงต้องถูกทำลายลงเสียแล้ว
“คือบีมันเมามากน่ะค่ะ เอ่อ จริง ๆ ทั้งขวัญแล้วก็นันด้วยพี่เลย
อยากรบกวนให้น้องหมอ...”
“ที่ไหนครับ!?” ไม่ทันที่เธอจะได้ขอร้องจนจบประโยคด้วยซ้ำ ภาคีนัยรีบซักถามถึงสถานที่ที่เขาจะไปรับแฟนสาวทันควันด้วยน้ำเสียงร้อนใจ นึกโกรธขึ้นมาด้วยซ้ำ เพราะสาวเจ้าผิดคำสัญญาที่ว่าจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์เวลาไม่มีเขาอยู่ด้วย
“ที่โรงแรม .... ค่ะ เดี๋ยวพวกพี่รอที่หน้าล็อบบี้ละกันเนอะ” ไม่รู้ว่าเธอคิดผิดหรือคิดถูกที่โทรตามแฟนหนุ่มของมธุรดาให้มารับตัวสาวเจ้า
ไป ดูท่าพายุจะลงที่เพื่อนสาวเธอเข้าให้เสียแล้ว
“เดี๋ยวผมจะรีบไป พี่เหมียวรออยู่นั่นก่อนนะ”
พี่บีนะพี่บี ดื้ออีกแล้ว น่าทำโทษเสียให้เข็ด!
ไม่นาน รถเบนซ์ไฮบริดก็แล่นเข้ามาจอดตรงบริเวณหน้าโรงแรมที่กัลยาได้บอกไว้ ภาคีนัยลงจากรถตรงมาไปที่ล็อบบี้ของโรงแรมอย่างใจร้อน
“สวัสดีครับพี่เหมียว พี่บี...”
สายตาคมจับจ้องร่างบอบบางที่เมาแอ๋นอนซบอยู่กับโซฟา
“มาแล้วเหรอน้องหมอ คือพี่อยากรบกวนให้เราน่ะไปส่งบีมันที่
คอนโดหน่อยน่ะ” กัลยาพูดจบก็เข้าไปพยุงร่างของมธุรดาให้ลุกขึ้น สาวเจ้าที่ถูกหิ้วปีกหน้าแดงก่ำ โวยวายขึ้นมาทันทีทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่
“ไปหนาย... บีจะกินต่อ พวกแก รินเหล้าต่อเร็ว” มือเล็กปัดป้าย
ไปทั่วเป็นอุปสรรคต่อกัลยาอย่างมาก ภาคีนัยที่มองอยู่รีบปราดเข้าไปอุ้มร่างแฟนสาวของเขาทันที
“แล้วพี่เหมียวกับคนอื่น ๆ ล่ะ”
“อ๋อ เดี๋ยวพวกนี้พี่ไปส่งเอง อ้อ ไม่ต้องห่วง พวกพี่เมาไม่ขับ กลับแท็กซี่อย่างเดียวแน่นอนจ้ะ” ถึงอย่างนั้นคุณหมอหนุ่มก็ยังอดเป็นห่วง
ไม่ได้ มีแต่พวกผู้หญิงกันทั้งนั้น
“ไม่เอาครับ ดึกแล้วอันตราย ผมเอารถมา เดี๋ยวผมไปส่ง”
เป็นอันว่าทั้งสี่สาวอาศัยโดยสารรถของหนุ่มรุ่นน้องกลับที่พักโดยปริยาย โดยมธุรดานั่งอยู่ประจำตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับ นอนหลับไม่ได้สติตั้งแต่ขึ้นรถ
“พี่ขอบใจน้องหมอมากเลยนะ เลยต้องเป็นธุระให้ไปส่งพวกพี่ไปด้วย” กัลยาซึ้งใจน้ำใจของแฟนเพื่อนซึ่งเขาอาสาเป็นสารถีให้โดยปราศจากท่าทางเกี่ยงงอนหรือคำบ่นใด ๆ ทั้งสิ้น
“ไม่เป็นไรหรอก ดึก ๆ แบบนี้ เกิดปล่อยให้กลับกันเองภีมคงนอนไม่หลับ” เขาบอกไปตามตรง สายตาคมเหลือบมองทางแฟนสาวของตนเป็นระยะ ๆ
“น้องหมอนี่น่ารักจริง ๆ คงจะรักเพื่อนพี่มากแน่ ๆ ”
กัลยาเห็นสายตาอบอุ่นที่คุณหมอหนุ่มมองมธุรดาด้วยความเป็นห่วงก็รู้สึกอบอวลในหัวใจไปด้วย
“ครับ รักมาก” รอยยิ้มเล็กระบายอยู่บนใบหน้าคม
“แล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดีล่ะ คบกันมาตั้งนานแล้ว เนี่ย บีมันก็จะสามสิบสองแล้ว เดี๋ยวก็มีลูกไม่ทันใช้หรอก” ภาคีนัยรู้ดีว่ากัลยาหมายถึงเรื่องอะไร
“เรื่องแต่งงาน อันที่จริงภีมก็คิด ๆ ไว้อยู่บ้างเหมือนกันแต่กลัวว่า
พี่บีจะยังสนุกกับงานที่ทำอยู่”
โอ๊ยยย กัลยาอยากจะหวีดร้องออกมาว่า... นังบีเนี่ยอยากแต่งงานเปลี่ยนอาชีพมาเป็นแม่บ้านใจจะขาด ติดอยู่ที่คุณหมอหนุ่มนี่แหละที่ไม่ยอมเอ่ยปากขอแต่งงานเสียที
“ผู้หญิงทุกคนก็อยากแต่งงานกันทั้งนั้นแหละ บีก็ด้วย”
“ภีมไม่เคยเห็นพี่บีพูดถึงเรื่องนี้เลย” เขาเลิกคิ้วมองหน้าสาวรุ่นพี่ผ่านกระจก
“ไม่พูดก็ไม่ได้แปลว่าไม่อยากนะจ๊ะ อีนี่มันเก็บกดจะตาย เป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้มันเมาเละเทะแบบนี้แหละ”
ภาคีนัยไม่พูดอะไรต่อ เขาครุ่นคิดถึงบางสิ่งตลอดทางถึงเรื่องอนาคตครอบครัวของตนเองและคนข้าง ๆ ที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง