วิวาห์อ้อนรัก || CHAPTER 2
“หม่าม้าขา เจ็กมาแล้วค่ะ” เสียงใส ๆ ดังขึ้นก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามาเสียอีก เป็นผลให้สองสาวที่นั่งอยู่ภายในห้อง VIP เผยรอยยิ้มออกมาจนแก้มปริ โดยเฉพาะญาดา ดาราสาวคนสวยเจ้าของฉายานางเอกเบอร์หนึ่ง
การมาของนายแพทย์ภาคีนัย เอกชัยภักดี แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์เนื้อหอมประจำโรงพยาบาลเอกชัยภักดี ทำให้สาวเจ้ารู้สึก
คุ้มค่าที่มานั่งรอพบเขาตั้งแต่เมื่อชั่วโมงก่อน และบังเอิญเหลือเกินที่เธอ
ได้พบกับแพรพิไล พี่สาวของคุณหมอหนุ่มพอดิบพอดี ทำให้สองสาวอยู่
พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติเป็นการรอชายหนุ่ม
“สวัสดีครับเจ้ใหญ่ อ้าว หญิง มาได้ไงเนี่ย”
ตัวภาคีนัยเองก็รู้จักกับญาดามานาน เพราะบิดาของสาวเจ้า อาจารย์หมอธนดล เป็นอาจารย์คนหนึ่งที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับเขา และบุคคลที่ภาคีนัยนับถือมากเหลือเกิน
“หญิงจะมาไม่ได้หรือไง ถามแบบนี้หญิงน้อยใจนะ”
สาวเจ้าทำเป็นกระเง้ากระงอด ลึก ๆ หวังให้เขาง้อเธอเพียงสักนิดให้ได้ชื่นใจ แพรภิไลที่มองอยู่ยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของสองหนุ่มสาวที่
เธอแอบเชียร์ให้ลงเอยกันอยู่มานานแล้ว
“ก็ภีมไม่คิด ว่าหญิงจะมีเวลาว่าง ปกติถ่ายแบบ ถ่ายละคร” เขา
นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับสองสาวพร้อมทั้งดึงหลานสาวให้มานั่งข้าง ๆ กัน
จริงอยู่ ญาดาไม่ค่อยมีเวลาว่างเป็นของตัวเอง เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการถ่ายแบบ ถ่ายละคร หากวันไหนที่เธอพอจะมีเวลาเป็นส่วนตัว
อยู่บ้าง เธอเลือกที่จะมาที่นี่เพื่อได้เห็นหน้าเขาสักช่วงเวลาสั้น ๆ ให้หัวใจได้ชุ่มชื้นสักหน่อย... ใครจะรู้ล่ะว่าหัวใจของนางเอกสาวเบอร์หนึ่งของประเทศไทย ตกอยู่ในกำมือคุณหมอหนุ่มตั้งแต่แรกเห็น
“หญิงมาหาพ่อน่ะ” แต่เธอก็เลือกที่จะใช้เรื่องของบิดามาเป็น
ข้ออ้างอยู่เสมอ ๆ
“แล้วนี่หนูวิวไปกวนอะไรเจ็กเขาหรือเปล่าลูก” แพรพิไลที่เงียบมองทั้งคู่อยู่นาน ถามลูกสาวของเธอ เด็กหญิงวิวชมพูยิ้มกว้างก่อนจะตอบอย่างภาคภูมิใจ
“ไปช่วยเจ็กมาค่ะ เจ็กกำลังจะโดนลวนลาม”
คำตอบของเด็กหญิงทำเอาสองสาวเลิกคิ้ว มีเพียงนายแพทย์หนุ่มเท่านั้นที่หัวเราะร่วนในความไร้เดียงสา
“ใช่แล้วครับ ถ้าไม่มีน้องวิว ป่านนี้ผมคงไม่ได้มานั่งอยู่กับเจ้ที่นี่
คงโดนญาติคนไข้ลากไปคุยต่อ”
แพรพิไลส่ายหน้านึกขำ รู้ถึงกิตติศัพท์ความเนื้อหอมของน้องชายตนเองดี ตั้งแต่เธอทำงานเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ไม่เคยเห็นคนไข้พากันติดคุณหมอแจขนาดนี้ น้องชายของเธอทำให้คุณหมอเฉพาะด้านเดียวกันเกือบตกงานอยู่หลายครั้ง
“แบบนี้ก็หาสาวสักคนมาคอยเฝ้าสิ เอาแบบหนูหญิงก็ดีนะ แต่ไม่รู้จะมีเวลาว่างมาเฝ้าตาภีมหรือเปล่า”
คนเป็นพี่สาวเริ่มชงจับคู่ให้น้องชายอีกครั้ง ทำเอาญาดาที่นั่งอยู่หน้าขึ้นสีขึ้นมาด้วยความเขินอาย หัวใจเต้นระรัวเมื่อหันไปสบตาเข้ากับนัยน์ตาคมของคุณหมอหนุ่ม… ผิดกับภาคีนัยใบหน้าหล่อคมเปลี่ยนเป็น
ยุ่งยากทันที หลายครั้งที่เขาถูกคนเป็นพี่สาวพยายามหว่านล้อมให้เปิดหัวใจหันมามองญาดาบ้างจนชายหนุ่มอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย
เขาจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?
“เจ้ก็รู้ ว่าผมมีแฟนแล้ว”
เหมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางใจคนฟังอย่างญาดา ใช่ คุณหมอรูปหล่อคนนี้มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แต่เธอก็หลีกเลี่ยงพยายามหลอกตัวเองกับความจริงข้อนี้มาตลอดรอคอยหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะเลิกกับหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น จนแล้วจนเล่าเวลาผ่านเลยไปถึงห้าปี เขาก็ยังคงรักกันหวานชื่น ไม่มีท่าทีว่าจะแตกหัก
“เจ้ก็แค่อยากให้เราคิดเผื่อไว้บ้าง ตอนนี้เรายังไม่ได้แต่งงาน อนาคตต่อไปอาจจะเจอคนที่ใช่มากกว่าก็ได้”
แพรพิไลพยายามชักแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาหว่านล้อมน้องชาย… นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพยายามบอกกับชายหนุ่มแบบนี้ เหตุผลง่าย ๆ ... เพราะเธอไม่ชอบคนรักของภาคีนัย
“มันเป็นเรื่องของอนาคต เอาเป็นว่า เดี๋ยวเราค่อยคุยกันดีกว่านะครับ ผมขอตัว”