บท
ตั้งค่า

๓.๔ คือเธอหรือเปล่า

“ตามใจน้องนิ่ม เพราะรูปร่างและผิวพรรณอย่างน้องนิ่ม ต่อให้ใส่เสื้อผ้าธรรมดาคนมองก็ต้องคิดว่าใส่แบรนด์เนม ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปดูชุดที่นำเข้าจากเกาหลีก็แล้วกันนะ ไซซ์น่าจะพอดีกับรูปร่างของน้องนิ่ม”

ว่าแล้วชมพูนุชก็เดินนำไปยังแผนกเสื้อผ้าสตรี และเลือกแบบที่เหมาะสมกับรูปร่างของรดาดาว จนกระทั่งได้ชุดถูกใจเป็นชุดราตรียาวสีฟ้าอ่อนเปิดไหล่ข้างหนึ่ง ตัดด้วยผ้าชีฟองเนื้อดี ประดับด้วยเพชรแวววาวที่ไหล่และช่วงเอว

“อาว่าชุดนี้น่าจะเหมาะกับน้องนิ่มนะ” ว่าแล้วคนเป็นอาก็เจ้ากี้เจ้าการเอาชุดที่ตัวเองเลือกมาขึ้นทาบกับร่างอรชรของหลานสาว

“มันไม่โป๊ไปหน่อยเหรอคะอา” เสียงหวานเอ่ยถามผู้เป็นอาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะไม่เคยใส่ชุดแบบนี้มาก่อน

“แค่นี้ไม่โป๊หรอกจ้ะน้องนิ่ม เปิดนิดเดียวเอง บางคนเขาคว้านลึกถึงเอวเลยนะ”

“ที่นี่เขาใส่กันแบบนั้นเหรอคะ” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นตามประสาคนที่ไม่เคยแต่งตัวหวือหวา

“ใช่สิจ๊ะ ไม่ใช่แต่ที่นี่นะงานราตรีในกรุงเทพฯ เขาก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้น เดี๋ยวน้องนิ่มเอาไปลองเลยนะ อาจะรอดูว่าจะสวยแค่ไหน” ชมพูนุชส่งชุดให้พลางคะยั้นคะยอ รดาดาวจึงต้องรับชุดนั้นแล้วเข้าไปในห้องลองของห้างสรรพสินค้า

สาวน้อยยืนจ้องมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกด้วยความรู้สึกเขินๆ ระคนแปลกตาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับออกมาให้อาสาวช่วยดู แต่ชมพูนุชกลับไม่ได้รออยู่ที่หน้าห้อง จึงเดินตามหาพลางสอดส่ายสายตามอง และโดยที่สาวน้อยไม่ทันได้ระวังตัวก็ชนโครมเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจังจนร่างอรชรกระเด็นลงไปกองอยู่กับพื้น ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากทำเอารดาดาวรู้สึกมึนงงไปหมด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คู่กรณีเข้ามาช่วยประคองให้เธอลุกขึ้น

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับมิส ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเจ็บตัว” คนที่ถูกชนเอ่ยขอโทษก่อนอย่างสุภาพ

“ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก ฉันซุ่มซ่ามเองต่างหาก ยังไงต้องขอโทษคุณด้วยนะคะ” สาวน้อยยิ้มให้เขาและโค้งศีรษะนิดๆ เป็นการยอมรับผิด

“ไม่เป็นไรครับ มิสไม่ต้องขอโทษ คุณไม่เจ็บผมก็โล่งใจ”

“ค่ะไม่เจ็บจริงๆ ค่ะ ยังไงต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีดิฉันกำลังตามหาอาน่ะค่ะ”

พูดจบรดาดาวก็ผละไปทันที ทำให้คนที่เธอเดินชนได้แต่มองตามเป็นเชิงเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ถามไถ่อะไรมากไปกว่านั้น

รดาดาวเดินกลับไปที่ห้องลองเสื้ออีกครั้ง และก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่คราวนี้เห็นอาสาวยืนอยู่ที่นั่น ชมพูนุชเองก็รีบปรี่มาจับมือหลานสาวเอาไว้ด้วยความดีใจเช่นกัน

“ไปไหนมาน้องนิ่ม อากลับมาไม่เจอน้องนิ่มตกใจแทบแย่”

“นิ่มขอโทษค่ะอาชม พอดีนิ่มออกมาแล้วไม่เห็นอาชม ก็เลยเดินตามหาน่ะค่ะ”

“อาไปห้องน้ำมาน่ะ ฝากบอกพนักงานเอาไว้ สงสัยเขาจะลืมบอกน้องนิ่ม”

“น่าจะใช่ค่ะ ตอนนิ่มออกมาไม่เห็นใครเลย”

“เขาคงจะไปดูแลลูกค้าคนอื่นอยู่มั้ง โน่นแน่ะ” ชมพูนุชมองพร้อมกับบุ้ยปากไปทางพนักงานที่ตนฝากข้อความเอาไว้ ก่อนจะหันมาสนใจหลานสาวตัวเองต่อ “น้องนิ่มใส่ชุดนี้แล้วมีออร่ามาก ตกลงเอาชุดนี้นะ”

“ค่ะอาชม” รดาดาวพยักหน้าอย่างว่าง่ายตามแบบของเธอ

หลังจากได้ชุดแล้ว ชมพูนุชก็พาหลานสาวไปเลือกซื้อเครื่องประดับที่เข้ากับชุด ก่อนจะจัดการโทร.หาช่างเสริมสวยเพื่อจองตัวไปช่วยแต่งหน้าทำผมให้เธอและหลานสาวในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย

คฤหาสน์หลังงามที่ตระกูลแทลลีย์ยกให้เป็นที่ทำการของมูลนิธิการกุศลถูกประดับประดาอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาพรรณ ลานจอดรถคลาคล่ำไปด้วยรถหลากหลายยี่ห้อซึ่งล้วนแต่ราคาแพงลิบลิ่ว พนักงานในชุดเครื่องแบบเต็มยศผูกหูกระต่ายรอเปิดประตูรถให้แขกที่มาร่วมงานอย่างนอบน้อม

ทั่วอาณาบริเวณมีแสงไฟวิบวับและแว่วเสียงเพลงบรรเลงคลอเคล้าบรรยากาศของงานเลี้ยงราตรีสโมสรที่จัดขึ้นเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากปรากฏการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ โดยมีสตรีหมายเลขต้นๆ ของรัฐโอไฮโออย่างจูเลีย แทลลีย์เป็นประธานในการจัดงานครั้งนี้

เมื่อเจ้าของร่างสูงสง่าในชุดทักซิโด้สีดำ ก้าวเข้าไปในตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ สายตาของเหล่าบรรดาสาวๆ ในบริเวณนั้นต่างก็จับจ้องไปมองที่เขาเป็นจุดเดียวและทิ้งหางตาให้อย่างเชิญชวนเช่นเดียวกับทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวในงานเลี้ยงหรืองานมหาสมาคมต่างๆ

ทว่าคืนนี้เอเดนยังไม่มีแก่ใจจะจ้องมองสาวสวยคนไหนเลย เขาตรงดิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิทซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ใกล้ๆ กับบาร์เครื่องดื่มทันที แต่แทนที่จะทำให้สาวๆ ละความสนใจจากตัวเขา กลับเป็นจุดสนใจมากกว่าเดิมเพราะคนที่เขาก้าวไปหานั้นก็หล่อเหลาและดึงดูดสายตาของสาวๆ ในงานได้ไม่แพ้กัน

“ไงเพื่อน มาถึงนานแล้วเหรอ” เอเดนเดินมาตบไหล่เบาๆ ทักทายเพื่อนรัก

“มาถึงก่อนนายไม่ถึงห้านาที”

“แล้วนายเจอแด๊ดกับมาดามแทลลีย์หรือยัง”

“ฉันไปทักทายมาแล้ว เลยมาหาอะไรดื่มนี่แหละ แล้วนายล่ะหายหัวไปไหนมาตั้งหลายวัน ไม่เห็นแวะไปที่บ้านบ้างเลย” แมทธิวไถ่ถาม เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอเดนไม่แวะไปหาเขาเลยเพราะทุกทีเพื่อนคนนี้จะต้องมาเยี่ยมเยือนไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละสองครั้ง

“เพิ่งกลับมาจากฮัมบูร์กไปคุยงานมา” เพลย์บอยตัวพ่อตอบเพื่อน พลางหยิบเอาเครื่องดื่มขึ้นมาจิบและถือแก้วใบนั้นไว้ในมือ

“คืนนี้สาวสวยดีนะ” แมทธิวเปรยขึ้น แม้เขาไม่ได้ส่งสายตากวาดมองอย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้หมดและรู้ด้วยว่าตอนนี้แม่สาวผมบลอนด์ในชุดราตรีสีขาวด้านหน้าคว้านลึกจนเห็นเนินอกชัดเจนกำลังหรี่ตามองมาที่เขาอย่างเชื้อเชิญราวกับนางแมวป่ายั่วสวาท

“ก็เหมือนในงานอื่นๆ นั่นแหละ หรือนายคิดว่าไง”

“ทำไมทำเสียงเซ็งๆ แบบนั้นวะ หรือว่ากินอิ่มมาจากฮัมบูร์กแล้ว”

“เปล่า รอบนี้ฉันไปคุยงานอย่างเดียว” เอเดนตอบเนือยๆ

“เฮ้ยเป็นไปได้ยังไง ปกตินายไม่เคยพลาดนี่หว่า หรือว่า...” แมทธิวชะงักคำพูดของตัวเองแค่นั้น เมื่อเห็นว่าตอนนี้เอเดนเบนสายตาไปยังประตูด้วยความสนใจทำให้เขาต้องรีบมองตามทันที

นัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเลจับจ้องมองคนที่เดินเข้างานมาใหม่อย่างไม่ละสายตา ร่างอ้อนแอ้นสมส่วนอยู่ในชุดราตรีสีฟ้าอ่อน เนื้อผ้ากระชับเข้ากับเรือนร่างอย่างพอเหมาะพอเจาะ เน้นให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมส่วนชวนมอง ดวงหน้าที่เนียนใสเป็นธรรมชาติคืนนี้ถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต แพขนตางอนถูกแต่งเติมด้วยอายแชโดว์สีน้ำเงินเข้ม ทำให้ดวงตาเรียวหวานชวนฝันนั้นน่ามองยิ่งขึ้นเป็นเท่าทวี ผมดำขลับนุ่มเนียนราวกับไหมถูกปล่อยสยายลงไปถึงกลางหลังและถักเปียเส้นเล็กๆ รอบศีรษะคล้ายกับมงกุฎ

ชุดที่เธอใส่เปิดเผยลาดไหล่ขาวละมุนข้างหนึ่งซึ่งผิวใต้ร่มผ้าส่วนนั้นมีแต่เขาเท่านั้นที่เคยเห็น แม้ชุดนั้นมันจะไม่ได้โป๊เปลือยอะไรมากมาย แต่มันก็ชวนค้นหาและน่าจินตนาการต่อว่าผิวพรรณส่วนอื่นๆ ที่มีอาภรณ์ปกปิดอยู่นั้นจะสวยละลานตาแค่ไหน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel