บท
ตั้งค่า

๓.๒ คือเธอหรือเปล่า

“อะไรกัน อายุสิบสองจะมีแฟนแล้วเหรอ เจ้าชู้ไม่หยอกเลยนะดีแลนด์”

“ผมเปล่านะฮะ แต่มีสาวมาชอบเอง” หนุ่มน้อยริรักรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“แล้วเดฟล่ะจ๊ะ มีแฟนหรือยัง” รดาดาวหันไปถามน้องชายอีกคนที่นั่งเอามือประสานกันเงียบๆ อยู่บนโซฟาอีกตัว

“ขี้เก๊กแบบนั้น ผู้หญิงที่ไหนจะมาชอบฮะพี่นิ่ม” ดีแลนด์เป็นคนชิงตอบเสียเอง ทำให้รดาดาวหันไปสบตากับชมพูนุชเป็นเชิงขำหนุ่มน้อยช่างพูด

“แต่แม่ว่าอีกหน่อยเดฟจะมีผู้หญิงมาชอบมากกว่าลูกนะดีแลนด์ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายนิ่งๆ ขรึมๆ มันน่าค้นหากว่าผู้ชายที่พูดมากเปิดเผยตัวตนไปซะทุกอย่าง”

“ยกเว้นผมฮะแม่ เพราะผมหล่อและเอาใจเก่ง” ดีแลนด์บอกอย่างมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง “ว่าแต่พี่นิ่มเถอะฮะ มีแฟนหรือยัง”

“เอ่อ...” รดาดาวอึกอักเพราะไม่คิดว่าจู่ๆ น้องชายจะถามแบบนี้

“แล้วมันเรื่องอะไรของเราไม่ทราบครับดีแลนด์” ชมพูนุชถามลูกชายยิ้มๆ

“ก็ผมไม่อยากให้พี่นิ่มมีแฟนนี่ฮะ ถ้าพี่นิ่มมีแฟน พี่นิ่มก็ต้องรักแฟนมากกว่ารักผม” คนหวงพี่สาวทำหน้าอ้อนๆ

“ถึงพี่จะมีแฟนพี่ก็รักน้องๆ ทุกคนเหมือนเดิม”

“จริงๆ นะฮะ” ไม่พูดเปล่า แต่หนุ่มน้อยขี้อ้อนยังซบหน้าลงบนต้นแขนของพี่สาวอย่างน่าเอ็นดู รดาดาวเชื่อว่าใครเจอลูกอ้อนแบบนี้ก็ต้องใจอ่อนยวบยาบแน่ๆ

“จริงที่สุดจ้ะ และวันนี้พี่ก็ทำขนมลูกชุบไว้ให้ดีแลนด์กับเดฟด้วย ไปกินกันเลยไหม” รดาดาวชวนและลุกขึ้นยืน

“ครับ” ดีแลนด์รับคำอย่างแสนลิงโลด พลางลุกขึ้นจับมือของรดาดาว ส่วนเดฟเพียงแค่พยักหน้าและยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตามเข้าไปในครัว

โต๊ะอาหารสุดหรูของคฤหาสน์โกลเดนกรีนเย็นนี้ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามสมฐานะเช่นเดิม บนโต๊ะมีถ้วยซุป จานสลัด สเต๊กเนื้อมัตสึซากะที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น และไวน์แดงสำหรับจิบเรียกน้ำย่อย

มาดามแทลลีย์รอจนลูกชายลงมานั่งที่โต๊ะจึงเริ่มลงมือรับประทานอาหารพร้อมกัน

“เห็นเบนจามินบอกว่าวันนี้หนูนิ่มมาที่บ้านเราเหรอเอเดน” คนเป็นแม่ชวนคุย พลางใช้มีดหั่นสเต๊กในจานไปด้วย

“ครับแม่” เอเดนตอบสั้นๆ

“ลูกคิดว่าหนูนิ่มเป็นยังไงบ้าง”

ชายหนุ่มย่นคิ้ว“ผมคิดว่าแม่น่าจะรู้จักเธอดีกว่าผมนะครับ”

“แต่แม่อยากให้ลูกทำความรู้จักกับหนูนิ่มมากกว่านี้” มาดามแทลลีย์บอกความต้องการของตัวเองกับลูกชายไปตรงๆ

“มาดามแทลลีย์ครับ ผมยังไม่พร้อมจะแต่งงาน” ชายหนุ่มปฏิเสธความต้องการของมารดาอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน

“ลูกกำลังจะบอกแม่ว่าลูกไม่ชอบหนูนิ่มและไม่อยากแต่งงานกับเธออย่างนั้นใช่ไหม”

“ก็ทำนองนั้นล่ะครับ” เจ้าของร่างสูงยักไหล่ตามประสาคนที่ไม่ชอบให้ใครบังคับ

“น่าเสียดาย หนูนิ่มเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก แต่ในเมื่อลูกไม่ชอบก็ไม่เป็นไร”

“ขอบคุณที่เข้าใจครับแม่”

ปากบอกขอบคุณและทำหน้าเหมือนไม่แคร์ แต่กลับรู้สึกแปลกๆ ที่ผู้เป็นมารดาไม่ได้คิดจะดึงดันบังคับให้เขาแต่งงานกับรดาดาวต่ออย่างที่ควรจะเป็น

แต่ครั้งนี้เอเดนประเมินแม่ของเขาผิด มาดามแทลลีย์ยังมีแผนการบางอย่างในใจ เธอถูกชะตากับรดาดาวและอยากได้เป็นลูกสะใภ้ ยังไงซะก็ไม่มีทางล้มเลิกง่ายๆ แน่นอน

“แล้วแด๊ดจะกลับมาวันไหนครับ” เอเดนถามถึงบิดาซึ่งเดินทางไปเยี่ยมเด็กในเอธิโอเปียกับคณะขององค์การยูนิเซฟเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากที่อาเธอร์วางมือจากธุรกิจก็อุทิศตัวทำงานให้องค์กรการกุศลและล่าสุดก็เพิ่งได้รับตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ขององค์การยูนิเซฟ

“เห็นว่าจะกลับวันมะรืน”

“ถ้าอย่างนั้นก็คงทันงานเลี้ยงราตรีสโมสรของแม่นะครับ”

“ทันสิ งานเลี้ยงของแม่จัดวันศุกร์ แม่ว่าจะชวนหนูนิ่มมาด้วย ลูกคงไม่ว่าอะไรนะ”

“ตามสบายครับแม่ มันงานเลี้ยงของแม่นี่”

“ลูกก็อย่าลืมชวนแมทมาด้วยล่ะ งานนี้สาวๆ เยอะน่าจะถูกใจหนุ่มๆ” จูเลียพูดยิ้มๆ อย่างคนที่รู้นิสัยเจ้าสำราญของลูกชายกับเพื่อนรักดี

“เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยครับมาดามแทลลีย์ แมทคงไม่พลาด”

“ดีแล้วมีหนุ่มๆ สาวๆ มาเยอะๆ งานจะได้คึกคัก”

“แล้วแม่ล่ะครับ ไม่กลัวแด๊ดจะมองสาวๆ บ้างเหรอ ช่วงนี้แด๊ดยิ่งเดินทางบ่อยๆ แอบหนีบอีหนูไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้” เอเดนแกล้งเย้ามารดา

“โอ๊ย...แม่แก่แล้ว แด๊ดของเราก็เหมือนกัน ถ้าเขาทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะแม่ไม่ว่าหรอก” มาดามแทลลีย์บอกอย่างแฟร์ๆ เพราะตอนนี้ทั้งตนและสามีก็เข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่งแล้ว

“แม่นี่ช่างเป็นภรรยาที่ใจกว้างมากเลยนะครับ แด๊ดโชคดีจริงๆ”

“ถ้าลูกอยากโชคดีอย่างแด๊ดก็แต่งงานกับหนูนิ่มสิ” มาดามแทลลีย์วกมาเรื่องเดิมอีกครั้ง

“มาดามแทลลีย์ครับ เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ”

“แม่รู้แล้วน่า แค่รู้สึกเสียดายก็เท่านั้นเอง ว่าแต่ไม่สนใจหนูนิ่มจริงๆ ใช่ไหม”

“ครับ” เขาตอบสั้นๆ เท่าที่จำเป็น

“ก็ดีถ้าลูกไม่สนหนูนิ่มจริงๆ แม่จะได้แนะนำให้คนอื่น ถึงไม่ได้เป็นลูกสะใภ้แต่แม่ก็อยากให้หนูนิ่มได้แต่งงานกับคนดีๆ”

คำพูดของมารดาทำให้คนที่กำลังกลืนสเต๊กลงคอรู้สึกเคืองขุ่น จนต้องหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ อารมณ์เหมือนเด็กหวงของเล่นที่ถึงจะเบื่อหรือไร้ความไยดีแล้วก็ไม่อยากให้ใครหยิบไปเล่นต่อ แต่กระนั้นก็ยังพยายามข่มกลั้นอารมณ์และวางฟอร์มเอาไว้อย่างมิดชิดเพราะไม่อยากให้คนเป็นแม่ได้ใจ อีกอย่างผู้หญิงนุ่มนิ่มอย่างรดาดาวคงจะไม่โดนใจผู้ชายคนไหนง่ายๆ หรอก

จริงน่ะหรือ...อีกซีกหนึ่งของความคิดแย้งขึ้นมาเช่นนั้น เขาก็รู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่ารดาดาวเย้ายวนอารมณ์มากแค่ไหนโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาแต่งตัวเปรี้ยวหรือส่งสายตาเชิญชวนด้วยซ้ำ

กริ๊ง...ง

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะอารมณ์ที่กำลังขุ่นเคืองพอดี หน้าจอบันทึกชื่อไว้ว่า ‘แคทรีน’ เอเดนจึงยกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารพร้อมกับกดรับสาย

“ว่าไงครับเคที่”

เคที่ หรือ แคทรีนที่เอเดนกำลังคุยอยู่นั้นคือลูกสาวของ ‘เซบัสเตียน เบนเดอร์’ นักธุรกิจชาวเยอรมนีเจ้าของบริษัทคิงส์ออฟเมดิคอลซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์รายใหญ่ในยุโรป แคทรีนมีแม่เป็นคนอเมริกัน จึงสวยสะดุดตาในแบบลูกครึ่ง เธอทำงานเป็นทั้งผู้บริหารของคิงส์ออฟเมดิคอลและยังเป็นนางแบบให้กับนิตยสารชื่อดังหลายเล่ม

“ทำอะไรอยู่คะ”

“ก็กำลังคุยโทรศัพท์กับคุณอยู่นี่ไง” เอเดนตอบอย่างกระเซ้าไปตามสายเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเอง

“ฮะๆ” แคทรีนหัวเราะเบาๆ “วันนี้มาแปลกนะคะ”

“ไม่ชอบเหรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel