๒.๕ เล่ห์ร้ายจอมเผด็จการ
“แล้วทำไมถึงต้องทำท่าระวังตัวแจแบบนั้น”
“นิ่มเอ่อ...แค่อยากกลับบ้านค่ะ” เสียงหวานตอบไม่ตรงคำถามของเขาสักนิด
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มการล้างบาปกันเลยไหม จะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสร็จแล้วคุณจะได้กลับบ้าน” เขาชวนด้วยน้ำเสียงกระเส่าปนเซ็กซี่ ปลุกเร้าความรู้สึกวาบหวามในตัวสาวน้อยให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างง่ายดายดวงตาพราวเสน่ห์ทอประกายกล้าในยามที่สบประสานกับดวงตาเรียวหวานคล้ายกำลังร่ายมนตร์สะกด ก่อนที่จะก้มลงประทับริมฝีปากบางจิ้มลิ้มที่เผยอขึ้นน้อยๆ ของเธอ แล้วแทรกปลายลิ้นอุ่นๆ เข้าไปหยอกเอินกับลิ้นนุ่มพร้อมทั้งควานหาความหวานทั่วโพรงปากชุ่มชื้นตามใจชอบทันที
รดาดาวหลับตาลงท่ามกลางความซ่านเสียวที่ก่อตัวขึ้นในท้องน้อย คิดเลือนๆ ว่าเจอกันสองครั้งเธอก็ถูกเอเดนจูบสองครั้ง และที่สำคัญคือเธอไม่ต่อต้านเขาเลยสักนิด ซ้ำร้ายเรียวลิ้นที่เคยอ่อนด้อยประสบการณ์ กลับเรียนรู้อย่างรวดเร็ว และอาจหาญพอที่จะตวัดพัวพันกับลิ้นสากระคายด้วยความเริงร่า เหมือนดั่งว่าชื่นชอบในรสชาติจุมพิตแสนสวาทของเขาเสียเหลือเกิน
เอเดนครางฮึมในลำคออย่างพึงพอใจกับความฉ่ำหวานที่ได้รับ จุมพิตของเขาเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนสาวน้อยแทบจะหลอมละลาย ในขณะที่ฝ่ามือแข็งแรงเลื่อนลงมาตามร่างอ้อนแอ้นช้าๆ จัดการดึงชายเสื้อของเธอออกจากขอบกระโปรง ก่อนจะสอดลอดเลื้อยหายวับเข้าไปใต้ชายเสื้อตัวสวย ลูบไล้ผ่านเอวคอดย้อนกลับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งฝ่ามือแกร่งประกบบนทรวงอกอวบอิ่มในที่สุด!
ร่างอรชรกระตุกเฮือกไหวสะท้านด้วยความเขินอายระคนซาบซ่าน ปทุมถันตูมเต่งคู่นี้เป็นส่วนที่เธอหวงแหนไม่แพ้ส่วนใดๆ บนเรือนกาย แต่เอเดนกลับรุกรานอย่างอุกอาจและแตะต้องตัวเธอราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“อื้อ...”
สาวน้อยครางเกือบเป็นสะอื้น เมื่อปลายนิ้วร้ายกาจเริ่มไล้วนเบาๆ บนยอดถัน แม้จะมีอาภรณ์อีกชั้นขวางกั้นเอาไว้ ทว่ามันก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะเธอรู้สึกถึงสัมผัสอันแสนร้อนรุ่มได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับเขาจงใจสร้างความซ่านสยิวเหลือคณาให้แก่ร่างกายอันสลับซับซ้อนของเธอ และตอนนี้จุมพิตเร่าร้อนของเขาก็เริ่มลามเลียจากริมฝีปากนุ่มไปหาพวงแก้มใสแล้ว
“คุณเอเดนคะ...”
เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างกระท่อนกระแท่นหลังจากปากเป็นอิสระ
“หือ...”
เอเดนขานรับพึมพำอยู่ใกล้ๆ ใบหูขาวสะอาดของเธอ แล้วจึงขบริมฝีปากลงบนใบหูข้างนั้นเบาๆ แต่ก็มากพอที่จะทำให้รดาดาวขนลุกซู่ไปทั้งร่าง
“คุณกำลังรังแกนิ่ม”
“เปล่า...” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดพราย “กำลังช่วยนิ่มล้างบาปต่างหาก”
“แต่แบบนี้มัน...อื้อ...” ปลายเสียงกลายเป็นเสียงครางเมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่มีไรหนวดไรเคราสั้นๆ ซุกลงมาบนซอกคอขาวละมุน และจูบไซ้อย่างชวนวาบหวามจนเธอหมดเรี่ยวแรงจะต่อต้านหรือพูดจาใดๆ อีก
มือใหญ่ถือโอกาสนั้นปลดสายเสื้อจากหัวไหล่กลมมนของเธอ เผยเนินอกอิ่มขาวสล้างที่ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยบราเซียร์ลูกไม้สีชมพูอ่อนออกมาท้าทายสายตาของเขาทันที
เอเดนไม่รอช้า เขาซบหน้าลงกลางปทุมถันคู่งาม ประทับริมฝีปากแนบสนิทกับเนินเนื้อขาวละมุนละเอียด รดาดาวเบิกตากว้างด้วยเขินอายสุดกำลัง พยายามจะร้องห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล และเธอเองยิ่งซ่านสยิวมากกว่าเดิม เมื่อคนเผด็จการเลื่อนใบหน้าไปเลาะเล็มเนินถันข้างซ้ายและสลับมาข้างขวา
พริบตาต่อมามือใหญ่ก็สอดอ้อมไปปลดตะขอบราเซียร์ที่เกาะเกี่ยวกันอยู่ให้ดีดออก แล้วสายเสื้อลูกไม้ก็ถูกรูดลงไปตามลำแขนจนกระทั่งมันไปกองรวมกับสายเสื้อตัวนอกที่เอวคอดของเธอ
“อา...สวยเหลือเกินนิ่ม”
ชายหนุ่มครางเสียงพร่ากับภาพละลานตาเบื้องหน้า ปทุมถันทรงกลมสวยสล้างประดับด้วยยอดสีชมพูอ่อนเนียนตา ขนาดเหมือนออกแบบมาเพื่อปากและมือของเขาคนเดียวโดยเฉพาะ และสิ่งที่ทำให้เอเดนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงคล้ายกับก้อนหินถูกทุบก็คือตอนนี้ปลายยอดทั้งสองข้างกำลังขมวดเกร็งหดตัวชูชันปริเปล่งเพราะถูกดูดดื่มด้วยปากร้อนๆ ของเขาเมื่อครู่นี้
คนเจ้าเล่ห์ใช้สายตาโลมเลียดื่มด่ำความงดงามตรงหน้าจนพอใจ ก่อนจะฟอนเฟ้นสองปทุมถันอย่างนุ่มนวล พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปเชยชิมเม็ดเชอร์รีสีชมพูอ่อนด้วยปากของเขาเป็นครั้งแรก
“อย่าค่ะคุณเอเดน... อย่าแตะต้องนิ่มแบบนั้น... อูยย...”
“คุณบอกว่าจะยิงปืนใส่หัวใจของผม เพราะฉะนั้นเวลาล้างบาปก็ต้องเป็นตรงนี้”
เอเดนเงยหน้าขึ้นบอก แล้วจึงกระหวัดลิ้นอุ่นๆ ปาดไล้ลงบนยอดทรวงสีระเรื่ออย่างทะนุถนอมแต่เร่าร้อนอยู่ในที รสชาติปลายถันที่หวานบริสุทธิ์นั้นยิ่งไปกระตุ้นต่อมรับรสของบุรุษเพศให้ตื่นตัวมากขึ้น
รดาดาวหูอื้อตาลายไปหมดใจก็กลัวจะเลยเถิด หากแต่เนื้อตัวกลับเต้นระริกและซ่านสยิวในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือเล็กวางบนไหล่แกร่ง อยากผลักเขาออกห่าง พอๆ กับที่อยากดึงเขาเข้ามาแนบชิดยิ่งกว่าเดิม
ลิ้นร้อนดุนดัน สลับกับการดูดเลียหนักหน่วงกว่าเดิม ก่อนจะอ้าปากครอบลงบนเม็ดเชอร์รีงามเต็มแรง ยังผลให้สาวน้อยต้องแอ่นอกสะท้านเฮือกขึ้นหาปากร้ายกาจด้วยความเสียวสะท้าน รู้สึกถึงลิ้นแข็งๆ ที่ปาดไล้ปลายถันของเธอไปมาจนส่วนนั้นเปียกชุ่มไปหมด ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปฉกลิ้นลงทรวงอกอีกข้างอย่างไม่ยอมให้น้อยหน้า
“อย่าค่ะ...อย่า...”
เสียงหวานพร่ำห้ามเขา แต่ทว่าร่างกายกลับส่ายไหวระริก สองมือเล็กตกลงข้างตัวแล้วขยุ้มขยำโซฟานุ่มเต็มแรงจนเกือบจะเป็นจิกทึ้ง เพื่อระบายความรู้สึกเสียวซ่านที่กำลังได้รับจากริมฝีปากและปลายลิ้นร้อนฉ่าของเขา
ฝ่ามือใหญ่วางประกบลงบนทรวงอกอิ่มอีกข้าง บดคลึงอย่างบรรจงโดยให้อุ้งมือเสียดไสกับเม็ดเชอร์รีสีสวยที่แข็งเป็นไตจนรดาดาวครางละล่ำละลักออกมาฟังไม่เป็นภาษา
“พอเถอะนะคะคุณเอเดน อื้อ...นิ่มกลัวค่ะ” เธอห้ามปรามเสียงพร่าอีกครั้งเมื่อความสยิวหวามแล่นพล่านไปทั่วร่างกายจนน่าตกใจ
และครั้งนี้เอเดนค่อยๆ ละริมฝีปากออกมาจากปทุมถันอวบอิ่มตามที่สาวน้อยอ้อนวอน ที่เขาหยุดแค่นั้นไม่ใช่เพราะอยากทำตัวเป็นสุภาพบุรุษให้เธอประทับใจแต่อย่างใด คำว่าสุภาพบุรุษ ‘ห่าเหว’ อะไรนั่นไม่เคยมีในสมองของเขาเวลาขึ้นเตียงหรืออยู่บนสังเวียนรักกับผู้หญิงคนไหน แต่เขารู้ดีว่ารดาดาวยังไม่เคย เขาก็แค่อยากหลอกล่อให้เธอติดใจ และเป็นฝ่ายอ้อนวอนขอให้เขาทำรักด้วยในที่สุด และตอนนั้นเขาก็จะได้เธอโดยไม่ต้องแต่งงานให้มีห่วงผูกคอตัวเอง