บท
ตั้งค่า

๑.๓ เจ้าสาวคลุมถุงชน

“อย่าเพิ่งถามได้ไหมวะแมท นายให้คนไปเอาเหล้ามาดื่มก่อนเถอะ”

“อะไรของนายวะ มาถึงก็จะซัดเหล้าเลยเหรอ มีอะไรหรือเปล่า” แมทธิวเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว แต่ก็ยอมทำตามความต้องการของเพื่อนรักโดยการหันไปสั่งพ่อบ้านที่เข้ามาคอยอำนวยความสะดวกเมื่อเห็นว่าเจ้านายมีแขก

“เปล่า แค่อยากดื่มเฉยๆ” คนปากแข็งแบมือยักไหล่ พลางทรุดตัวนั่งลงและพาดแขนทั้งสองข้างไปตามพนักโซฟาด้วยท่วงท่าแบบสบายๆ

ไม่ถึงห้านาทีพ่อบ้านของแมทธิวก็นำเหล้าวิสกี้แมคคัลเลนชั้นเลิศมาวางให้ที่โต๊ะพร้อมกับแก้วสองใบ แมทธิวจัดการรินใส่แก้ว ก่อนจะส่งให้เอเดนด้วยตัวเอง ชายหนุ่มรับไปดื่มสองสามอึก แล้วคลึงแก้วราคาแพงใบนั้นเหมือนเป็นของเล่นที่น่าสนใจ

“คราวนี้จะบอกได้หรือยังว่านายมีเรื่องอะไร ถึงได้ถ่อสังขารมาซดเหล้าที่บ้านฉัน”

“มาดามแทลลีย์หาเมียให้ฉันว่ะ” เอเดนยอมเปิดปากในที่สุด

“เฮ้ยจริงน่ะ! ไม่อยากจะเชื่อ!” เจ้าของดวงตาสีเทอร์ควอยซ์อุทานเสียงดัง ก่อนจะหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ

“อืม” คนถูกหัวเราะตอบเนือยๆ “นายหยุดหัวเราะได้หรือเปล่าวะ ฉันซีเรียสนะโว้ย”

“โทษทีว่ะ ก็มันขำจริงๆ นี่หว่า ใครจะคิดว่าเพลย์บอยตัวพ่ออย่างนายถูกแม่บังคับให้มีเมีย แล้วว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่นายเป็นใครวะ”

“หลานสาวของคุณซาร่าภรรยาเพื่อนพ่อฉัน”

“สาวไทยหรือ?” แมทธิวถามอย่างจำคนที่เพื่อนพูดถึงได้ แม้จะไม่สนิทสนมเป็นการส่วนตัวแต่ก็เคยถูกแนะนำให้รู้จักกับซาร่าหรือมาดามแซนด์เบิร์กในงานราตรีสโมสรซึ่งเป็นที่รวมตัวกันของเหล่าบรรดานักธุรกิจชั้นนำ

“ใช่”

“ที่ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าเจอกับว่าที่เมียแล้วใช่ไหม”

“เพิ่งเจอวันนี้ล่ะ เธอมาที่บ้านกับคุณซาร่า”

“เป็นไงบ้าง”

“ก็ไม่เลว” เอเดนตอบสั้นๆ ก่อนจะสาดน้ำสีอำพันในแก้วลงคอพรวดเดียว

“เฮ้ยเบาๆ สิ นั่นเหล้านะเว้ย ไม่ใช่น้ำหวาน” แมทธิวเตือนพลางส่ายศีรษะเพราะรู้ดีว่าเตือนไปก็เท่านั้น คนอย่างเอเดนเพื่อนของเขาถ้าคิดจะทำอะไรแล้วไม่มีใครห้ามได้

“กลัวอะไร เมาก็แค่นอนบ้านนาย”

“ถ้างั้นก็เชิญซดตามสบาย”

เอเดนเทเหล้าใส่แก้วแล้วสาดลงคอพรวดเดียวจนหมด ความร้อนของแอลกอฮอล์ที่ถูกบ่มมาอย่างดีบาดคอลงไปถึงท้อง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกระคายแต่อย่างใด

“แล้วทำไมนายต้องมานั่งซัดเหล้าอยู่อย่างนี้วะ ถ้าเธอน่ารัก นายก็น่าจะแฮปปี้ไม่ใช่เหรอ”

“ฉันยังไม่ได้บอกสักคำว่าน่ารัก”

“แต่แม่นายก็ปลื้ม ท่าทางงานนี้นายจะตกที่นั่งลำบากว่ะ”

“นั่นล่ะที่น่ากลุ้ม ฉันกลับดีกว่าว่ะ” เอเดนระบายลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วลุกขึ้น

“อะไรของนายวะ เมื่อกี้ยังบอกว่าจะนอนบ้านฉันอยู่เลย”

“เอาไว้วันหลังแล้วกัน ไปล่ะ” เขายกมือโบกให้เพื่อน แล้วก้าวดุ่มๆ ออกไปโดยไม่สนใจอะไรอีก

พาหนะสมรรถนะสูงแล่นออกจากคฤหาสน์สุดหรู หลังจากที่มาจอดได้ไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยความเร็วค่อนข้างสูง แต่คนขับไม่ได้มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ของตัวเองอย่างที่บอกกับเพื่อนรักเอาไว้ เอเดนเหยียบคันเร่งและบังคับพวงมาลัยให้รถแล่นไปข้างหน้าโดยไร้จุดหมาย ความจริงเขากะจะเมาแล้วนอนค้างที่คฤหาสน์ของแมทธิว แต่ที่ต้องหนีมาก่อนนั้นก็เพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องของว่าที่เจ้าสาว

“รดาดาว...” เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเอง พลางคิดถึงใบหน้าหวานๆ ของเธอ ไม่ใช่แค่หน้าที่หวาน แต่ปากของเธอก็หวานเป็นบ้า หวานเสียจนอยากชิมอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ชิมที่ปาก แต่เขาอยากชิมทุกตารางนิ้วบนเรือนกายของเธอ!

เอเดนขยับตัวอย่างหงุดหงิดเมื่อตัวตนของเขาคึกคักประเจิดประเจ้อขึ้นมาประจานตัวเองไม่น่าเชื่อว่าแค่จูบเดียวจะทำให้เขาอยากได้เธอจนแทบคลั่ง สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่ากุลสตรีเช่นรดาดาวพร้อมจะกลายเป็นไฟได้เสมอหากได้รับการสอนที่ดี และคนที่จะมอบประสบการณ์นั้นให้เธอเป็นคนแรกก็ควรจะเป็นเขา ความปรารถนาเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรงทันทีที่ริมฝีปากของเขาประกบลงบนเรียวปากกระจับสีหวานของเธอ แต่เอเดนรู้ดีว่าแม่ของเขาไม่มีทางยอมให้ทำเล่นๆ กับรดาดาวเป็นแน่ ดังนั้นหากเขาจะได้เธอก็มีวิธีเดียวคือต้องแต่งงานซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการในเวลานี้

ความต้องการสองอย่างเกิดขัดแย้งกันอย่างรุนแรง คนแบบเอเดนไม่มีทางยอมให้ใครหรืออะไรมาบีบบังคับได้แน่ๆ เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเลือก ดังนั้นชายหนุ่มจึงหักพวงมาลัยจอดข้างทางแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดหาเลขาฯ ส่วนตัว

“แฟรงค์หาเบอร์โทรศัพท์ที่จดทะเบียนในชื่อของมาดามแซนด์เบิร์กมาให้ผมทุกเบอร์” เอเดนบอกความประสงค์ของตัวเองทันทีที่ปลายสายกดรับ

“เอ่อ...ได้ครับเจ้านาย” แฟรงค์รับคำงงๆ เพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว ทำไมจู่ๆ เจ้านายของเขาถึงเกิดอยากได้เบอร์ของมาดามแซนด์เบิร์ก ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่ใช่วิสัยที่จะถามเพราะหน้าที่ของเขาคือทำตามคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น

“ใช้เวลานานเท่าไหร่”

“ไม่เกินห้านาทีครับ”

เมื่อได้คำตอบที่พอใจเอเดนก็กดวางสาย แล้วนั่งรอในรถ เคาะนิ้วบนพวงมาลัยเป็นจังหวะเดียวกับเสียงเพลงที่ดังอยู่

ร่างอ้อนแอ้นในชุดนอนเนื้อดียังคงนอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง ท่ามกลางความมืดทั้งๆ ที่เข้านอนตั้งนานแล้ว เพราะคิดถึงคำถามของอาสาวตอนที่กลับจากคฤหาสน์โกลเดนกรีนเมื่อตอนเย็น

“คุณเอเดนเป็นยังไงบ้างน้องนิ่ม”

“ก็ดีค่ะอาชม” เธอตอบแบบกลางๆ ที่สุด จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าบอกถึงความกักขฬะของเขาให้ผู้เป็นอารับรู้

“อาคิดแล้วว่าน้องนิ่มต้องชอบคุณเอเดน ผู้ชายแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เลยนะน้องนิ่ม”

“อาชมคะ คุณเอเดนเขาเหมาะกับนิ่มจริงๆ หรือคะ”

“จริงสิ ไม่อย่างนั้นอาจะให้น้องนิ่มบินจากเมืองไทยมาที่นี่ทำไม อาอยากให้น้องนิ่มได้คู่ครองดีๆ แบบคุณเอเดน อีกอย่างคุณจูเลียก็ดูเอ็นดูน้องนิ่มมาก น้องนิ่มตัดปัญหาเรื่องแม่ผัวกับลูกสะใภ้ไปได้เลย น้องนิ่มโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งอีกนะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะหลานของอาน่ารักขนาดนี้ ใครๆ เห็นก็ต้องชอบ” ชมพูนุชบอกอย่างมั่นใจ เพราะดูเหมือนอะไรๆ ก็เป็นใจไปเสียหมด

“แล้วถ้าคุณเอเดนปฏิเสธที่จะแต่งงานกับนิ่มล่ะคะอาชม” คนถูกจับคู่อยากให้ผู้เป็นอาเตรียมใจไว้บ้างจึงถามประโยคนั้น

“อามั่นใจว่าคุณเอเดนไม่มีทางปฏิเสธหลานสาวของอาแน่นอน” ชมพูนุชบอกอย่างมั่นใจอีกครั้ง

รดาดาวได้แต่ถอนหายใจด้วยความหนักอึ้ง ท่าทางที่เอเดนแสดงออกกับเธอไม่ได้มีทีท่าว่าความมั่นใจของชมพูนุชจะใกล้เคียงเลยสักนิด ตรงกันข้ามสายตาของเขายังเต็มไปด้วยการจาบจ้วง และแสดงกิริยาคุกคามใส่เธอออกมาอย่างเปิดเผย ขนาดเจอกันแค่ไม่กี่นาที เธอก็ยังถูกเขา ‘ปล้นจูบ’ ไปแล้ว ถ้าอยู่กันสองต่อสองนานกว่านั้นเขาต้องทำอะไรมากกว่าจูบเป็นแน่…

แก้มนวลและริมฝีปากสีระเรื่อร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อตระหนักถึงความรู้สึกแสนวาบหวามยามที่โดนริมฝีปากร้อนๆ ประกบจูบอย่างดูดดื่ม

กริ๊ง!

ความคิดฟุ้งซ่านของสาวน้อยหยุดชะงักลงชั่วคราวเมื่อโทรศัพท์เครื่องที่ชมพูนุชให้เธอไว้แผดเสียงดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟหน้าจอกะพริบวูบวาบ มือเรียวเล็กคว้าเครื่องมือสื่อสารซึ่งวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาดู เบอร์ที่แสดงบนหน้าจอไม่ใช่เบอร์ที่บันทึกไว้ในเครื่อง ทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ต่อมาก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นใครสักคนที่โทร.ผิดเข้ามาเพราะปกติเบอร์นี้เธอใช้เฉพาะโทร.หาอาสาวและโทร.กลับบ้านเท่านั้น สาวน้อยตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย

“สวัสดีค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณน่าจะโทร.ผิดนะคะ” เสียงหวานกรอกลงไปในโทรศัพท์อย่างสุภาพ

“ยังไม่หลับใช่ไหมสาวน้อย”

“คุณเอเดน!”

รดาดาวอุทานชื่อนั้นออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงที่ตอบกลับมาตามสาย แม้เพียงระยะสั้นๆ ที่ได้คุยกัน เธอก็จำเสียงห้าวทุ้มซึ่งเต็มไปด้วยการวางอำนาจของเขาได้อย่างแม่นยำ

“อุทานซะเสียงดังเชียว ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอที่ผมโทร.มาหา”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ นิ่มแค่แปลกใจ ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับนิ่มหรือว่าอยากคุยกับอาชมคะ”

“แล้วผมโทร.หาใครล่ะ” ปลายสายย้อนถามแบบยียวนทำเอารดาดาวอึ้งอยู่พักหนึ่ง

“คุณได้เบอร์นี้มาจากไหนคะ” เธอถามกลับไปอย่างอ้อมแอ้ม

“ได้มาจากไหนไม่สำคัญ แต่ผมรู้ว่าคุณดีใจที่ผมโทร.มา และที่สำคัญตอนนี้คุณกำลังคิดถึงรสจูบของผมอยู่...”

“ปะ...เปล่านะคะ” รดาดาวปฏิเสธอย่างละล่ำละลัก มันน่าอายจะตายไปที่เอเดนล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดของเธอในเรื่องน่าบัดสีแบบนั้น

“อย่าปฏิเสธซะให้ยากเลย คุณรู้อะไรไหมรดาดาวว่าคุณเป็นผู้หญิงที่โกหกไม่เก่งหรอก ผมรู้ว่าคุณชอบที่จูบกับผมเมื่อตอนเย็น และตอนนี้คุณก็กำลังคิดถึงผมด้วย ผมบอกอะไรให้อย่างเอาไหม เผื่อคุณได้ฟังแล้วอาจจะสบายใจขึ้นก็ได้”

“คะ คุณจะบอกอะไร?”

“ผมเองก็คิดถึงตอนที่เราจูบกันเมื่อตอนเย็นเหมือนกัน แต่ผมคิดไปไกลกว่านั้นนะ ผมคิดถึงตอนที่เรากำลังเมกเลิฟกันอย่างเร่าร้อน คุณครางเสียงดังน่าฟังมาก แล้วก็บอกผมว่า เอเดนขา...เร็วๆ ค่ะได้โปรด... ต้องให้บอกด้วยไหมว่าผมเมกเลิฟกับคุณด้วยท่วงท่าไหนบ้าง คุณถึงได้ร้องครวญครางขนาดนั้น” น้ำเสียงของเอเดนเหมือนกำลังยั่วเย้าด้วยความสนิทสนม หากก็มีอาการกระเส่าคล้ายดั่งว่าเขากำลังรู้สึกอยู่จริงๆ

“คุณเอเดน!”

รดาดาวอุทานอย่างตกใจ มือไม้สั่น พานจะทำโทรศัพท์ร่วง แต่กระนั้นคำพูดของเขาก็ทำให้เลือดของสาวสะพรั่งฉีดพล่านไปทั่วร่างด้วยความซ่านสยิว มโนภาพร่างเปลือยเปล่าของตัวเองกำลังถูกร่างใหญ่ทรงพลังซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันแข็งแรงทำรักอย่างเร่าร้อนก็ผุดพรายขึ้นในสมองอย่างแจ่มชัด ทั้งๆ ที่เกิดมาเธอไม่เคยมีความคิดสัปดนเช่นนี้มาก่อน

รดาดาวรู้สึกอับอายจนหน้าหวานใสแดงระเรื่อ เมื่อสำเหนียกได้ว่ามีปฏิกิริยาบางอย่างเกิดขึ้นกับจุดที่อ่อนไหวและไวต่อการสัมผัสบนร่างกายของตนเอง

“กรุณาหยุดพูดเรื่องบ้าๆ เถอะนะคะคุณเอเดน” สาวน้อยรีบห้ามปรามไม่ให้อีกฝ่ายพูดอะไรลึกซึ้งมากไปกว่านั้น

“ถ้าคุณไม่อยากฟังก็กดวางสายแล้วปิดโทรศัพท์หนีผมสิ”

“นิ่มมีมารยาทพอที่จะไม่ทำแบบนั้น”

“แสดงว่าคุณก็ชอบฟังสิ่งที่ผมพูดเหมือนกันใช่ไหม” เอเดนหัวเราะมาตามสาย แต่น้ำเสียงเขาช่างน่าฟังเหลือเกินในความรู้สึกของรดาดาว

“ไม่จริงค่ะ”

“อย่าปฏิเสธเลยรดาดาว คุณอยากเมกเลิฟกับผม เหมือนอย่างที่ผมก็อยากเมกเลิฟกับคุณ ออกมาหาผมสิสาวน้อย ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้”

“หยาบคายที่สุด นิ่มไม่เคยมีความคิดแบบนั้นในสมอง”

“เรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องหยาบคายเลยแม่สาวเวอร์จิ้น แต่เป็นเรื่องของความปรารถนาล้วนๆ ผมเชื่อว่าถ้าคุณได้ลองคุณต้องชอบ คิดดูสิแค่จูบยังให้ความรู้สึกซาบซ่านขนาดนั้น แล้วถ้าได้เมกเลิฟกันจริงๆ มันจะให้ความรู้สึกที่วิเศษขนาดไหน”

“หยุดระรานนิ่มเถอะนะคะ ถ้าไม่อย่างนั้นนิ่มจะขออนุญาตวางสายแค่นี้” เสียงหวานขอร้องเขาไปตามสาย ด้วยความเป็นกุลสตรีที่ถูกอบรมมาเป็นอย่างดีจึงกระดากที่จะพูดและฟังเรื่องแบบนี้

“เดี๋ยวก่อนสิรดาดาว” เขาทอดเสียงให้นุ่มน่าฟังกว่าเดิม

รดาดาวรู้สึกสับสนไปหมด ผู้ชายคนนี้ช่างมากชั้นเชิงเหลือเกิน เมื่อครู่นี้เขากำลังก่อกวนอารมณ์ของเธออยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้น้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังโดนออดอ้อน

“คุณมีอะไรจะคุยกับนิ่มอีกคะ” เมื่อเขาพูดดีด้วย คนที่ไม่เคยโกรธใครจริงจังก็เลยต้องพูดดีตอบ

“ผมบอกตรงๆ นะ ผมไม่พร้อมจะแต่งงาน แต่ถ้าเรื่องเซ็กซ์ผมไม่เกี่ยง”

“นิ่มก็ไม่ได้มาที่อเมริกาเพราะเรื่อง เอ่อ...เรื่องเซ็กซ์ค่ะ”

“ดูเหมือนความต้องการของเราจะไม่ตรงกันนะ”

“ถ้าคุณไม่อยากแต่งงานกับนิ่ม นิ่มก็ไม่ว่าอะไรนะคะ นิ่มก็แค่ทำตามที่ผู้ใหญ่เห็นว่าสมควร” รดาดาวยืนยันคำพูดเดิมของตัวเอง ถึงเขาจะทำให้เธอใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตากัน และเขาก็มีคุณสมบัติเพียบพร้อมอย่างที่ผู้เป็นอาพร่ำบอก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะดึงดันแต่งงานกับเขาให้ได้

“ก็ดี พูดง่ายดี”

เขาตอบกลับมาห้วนๆ คล้ายไม่พอใจคำพูดของเธอนัก ความจริงเขาน่าจะดีใจไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้ทำเสียงหงุดหงิดแบบนั้น คนอะไรเข้าใจยากจริงๆ

“คุณมีอะไรอีกไหมคะ”

“ไม่”

“ถ้าเช่นนั้นนิ่มขออนุญาตวางสายนะคะ” รดาดาวไม่รอให้เขาอนุญาต พูดจบเธอก็วางสายทันที

“บ้าชิบ!”

เอเดนสบถด้วยความหงุดหงิด แม่สาวกุลสตรีทำให้ความขัดแย้งในตัวเขารุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เธอมาที่นี่ตามใบสั่งของมาดามแทลลีย์ และทำท่าว่าจะชื่นชอบรสจุมพิตสวาทของเขา แต่เมื่อเขาบอกว่าไม่อยากแต่งงานด้วย เธอก็รับฟังอย่างสงบ และเหมือนไม่ได้แยแสต่อเสน่ห์ของเขาแต่อย่างใด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel