บทที่ 2
“เย็นนี้เข้าครัว โชว์ฝีมือทำอาหารหน่อยนะ แม่รัก ย่าอยากกินแกงเลียงฝีมือเรา แล้วก็ปูผัดพริกไทดำ ปูตัวโตๆ สดๆ ของมากจากมหาชัยเมื่อเช้านี้ แม่วาดเค้าซื้อมาฝากย่า”
“ได้ค่ะ แกงเลียง ปูผัดพริกไทดำ แล้วก็ไข่เจียวหมูสับอีกสักจานไหมคะคุณย่า”
“ปูนึ่งอีกสักอย่าง แม่วาดซื้อมาทั้งปูไข่ปูเนื้อ ของหวาน ขอเป็นแตงไทน้ำกะทิ หวานๆ เย็นๆ ชื่นใจนะแม่รัก อากาศร้อนๆ แบบนี้กินแล้วชื่นใจดี จัดโต๊ะในสวนเป็นยังไงล่ะ ลมโกรกสบาย ย่าอยากจะตากลมบ้าง”
“ค่ะ อืม...พรุ่งนี้จะให้รักทำข้าวแช่ไหมคะคุณย่า อากาศอบอ้าวจริงๆ นั่นแหละค่ะ”
เธอรับคำสั่งอย่างนอบน้อม ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มก้มลงจดรายการอาหารในสมุดโน้ตเล่มเล็กที่เจ้าตัวมักจะพกติดตัวเสมอ ติดนิสัยที่จะจดทำตามคำสั่งของคุณย่าท่าน เพราะท่านมักจะเรียกใช้งานเธอเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ทำกับข้าว จนถึงตัดสินใจเรื่องลงทุนในหุ้น ร้อยรักเป็นเลขานุการส่วนตัวที่ดี และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณวิลัยเลยก็ว่าได้
“ดีสิ คืนนี้ตาเทนจะมานอนค้าง จะได้ลองชิมดูด้วย ขานั้นก็ชอบนะ ข้าวแช่นะ จดไว้ด้วยนะแม่รัก จะได้รู้ว่า ว่าที่ผัวเราน่ะชอบกินอะไร”
คำพูดตรงๆ ของท่านเล่นเอาเธอถึงกับหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที ร้อยรักยังคงก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมมองหน้าท่าน คุณวิลัยลอบมองแก้มสาวที่แดงจัดนั้นอย่างชอบใจ แบบนี้ก็คงจะไม่ยากนักกระมัง เรื่องที่ท่านตกลงตั้งใจนี้ เกี่ยวกับเด็กสองคนนี่
นับวันแล้วสิบทิศจะยิ่งเนื้อหอม นับวันแล้วท่านจะยิ่งแก่ชราลง นับวันความห่วงในตัวเด็กที่รับอุปปาการะไว้กับหลานรักจะเพิ่มทวีขึ้น คนหนึ่งห่วงกลัวว่าจะได้เมียไม่ดี ไม่เหมาะ อีกคนก็กลัวว่า...จะเป็นอย่างไรถ้าท่านตายลงเสีย ร้อยรักจะมีคนดูแลไหม คิดแบบนี้เลยเป็นการดีที่จะจับเด็กที่ท่านห่วงนักทั้งคู่ให้มาดองกัน
ร้อยรักคงจะทำให้สิบทิศรักได้ไม่ยากนัก เจ้าหล่อนเรียบร้อย น่ารัก ว่าง่าย แต่ฉลาดเฉลียว ดื้อเงียบบ้างบางหน ถ้าบทจะดื้อขึ้นมา นิสัยนี้คล้ายๆ กับพ่อหลานชายตัวดี แต่ว่าคนนั้นดื้อให้เห็นๆ ไม่ก็คือไม่กันเลยทีเดียว ถ้าลงได้บังคับกันล่ะก็ พ่อเจ้าประคุณมีอาละวาด
ท่านกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้สิบทิศไม่อาละวาด ถ้าเกิดว่าคุยเรื่องนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าความตั้งใจนี้ท่านพูดบอกกับร้อยรักมากว่าเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกความตั้งใจนี้กับหลานชายเลยสักคำ เพราะสิบทิศกำลังยุ่งกับงาน จนไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่อง บริษัทที่กำลังขยาย ทำให้เขามีธุระอยู่ตลอด แม้แต่จะมารับประทานอาหารเย็นกับท่าน นานครั้งถึงจะโผล่มา
แล้วเรื่องนี้ท่านเองก็เพิ่งจะตัดสินใจ หลังจากที่ไปพบแพทย์ประจำตัวครั้งล่าสุดมา คุณวิลัยถอนใจเล็กน้อย คนเราก็เท่านี้ โรคภัยเบียดเบียนยามชรา ห่วงที่มีอยู่ก็อยากจะจัดการให้สบายใจเสีย กลุ้มอยู่แค่สองเรื่อง ก็คงจะจัดการแค่สองเรื่องนี่แหละ มรดกของท่านก็ได้ให้ทนายความแบ่งเสียแล้วเรียบร้อย ท่านมีลูกสองคน หลานคนเดียว หลานบุญธรรมอีกหนึ่ง ก็จัดสรรปันส่วนไปตามที่เห็นควร
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ท่านกดรับ ลูกสาวเทื้ออยู่บนคานของท่านนั่นเอง ปานวาด คงจะโทรมาเรื่องเดิมๆ เป็นแน่ ฝ่ายนั้นเร่งเร้า และขอร้องแกมบังคับ แต่ท่านก็ไม่ได้ยินยอมที่จะตามใจหล่อน
“อะไรอีกล่ะแม่วาด”
“คุณแม่ตกลงว่ายังไงฮะ เอ๊ย คะ”
ปานวาดหลุดพูดคำขานออกมาตามความเคยชินแล้วรีบเปลี่ยนเสีย เพราะมารดาไม่ชอบ
“ยัง...แม่ยังไม่ตกลง”
“อะไรกันคะ ก็คุณแม่บอกเองว่าขอเวลาสามวัน แล้วนี่ก็สามวันแล้ว”
“เงินทองแม่ไม่ค่อยมีหรอกนะแม่วาด เพิ่งจะเอาลงทุนไปเองน่ะ เอาแบบนี้สิ ลองไปคุยๆ กับตาเทนดู เผื่อจะได้”
“โอ๊ย! ไอ้หลานงกนั่นน่ะหรือจะให้วาดหยิบยืม เสียเวลาจริงๆ เลย ถ้าคุณแม่บอกว่าไม่ได้ วาดจะได้ไปขอกู้เขาเอา เฮ้อ...งั้นแค่นี้นะฮะ”
แล้วปลายสายก็กดวางไปเสีย เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ คุณวิลัยได้แต่สั่นหน้าน้อยๆ อย่างระอา ปานวาด ลูกสาวคนเล็กของนาง เหตุที่ยังไม่ลงจากคาน หรือคงจะลงไปแล้วแต่ไม่ใช่กับผู้ชายเป็นเพศที่สาม ซึ่งนางไม่เคยยอมรับ และยอมรับไม่ได้ เมื่อลูกสาวที่เคยไว้ผมยาว พูดจาคะขา กลับกลายเป็นตัดผมสั้นจู๋ พูดจาเหมือนเพศชาย แต่งเนื้อแต่งตัวทำท่าทำทางเป็นเพศพ่อ นางเป็นลมจนเข้าโรงพยาบาลไปเลย เมื่อปานวาดมาสารภาพว่าตนเองเป็นแบบไหน
นั่นเป็นกำแพงระหว่างสองแม่ลูก ท่านแทบจะตัดแม่ตัดลูกไปเลย ถ้าปราณไม่ขอไว้ บิดาของสิบทิศเป็นกาวประสานระหว่างน้องสาวกับมารดา และให้ความช่วยเหลือกับน้องสาวของเขามาโดยตลอด ปานวาดทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ลงทุนอะไรไปทีไรก็ขาดทุนตลอด เพราะความที่เป็นคนจับจด และเชื่อคนง่าย เปลี่ยนผู้หญิงคู่ควงบ่อยๆ ทุ่มเทให้บรรดาแฟนสาวเหล่านั้นแบบไม่กลัวหมดตัว นี่แหละทำให้อายุปาเข้าไปสี่สิบเจ็ดปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที
คิดแล้วก็พานปวดหัว จนต้องควานหายาลมที่พกประจำมาสูดดมแก้วิงเวียน ท่านจะตายตาหลับได้อย่างไร ในเมื่อเหลืออีกปัญหาอย่างปานวาด แต่ไม่เป็นไร เพราะตามพินัยกรรมแล้ว คนที่จะดูแลช่วยเหลือหล่อนก็คือสิบทิศ ซึ่งสิบทิศเองก็ไม่เคยทอดทิ้งน้าของตน เหมือนที่บิดาของเขาไม่เคยทอดทิ้ง
พักเรื่องของปานวาดไว้ก่อน ท่านมีเรื่องใหญ่ที่จะต้องเจรจากับหลานชายคืนนี้ ท่านเรียกตาแสม คนขับรถเข้ามาพบ แล้วให้เงินไปจำนวนหนึ่ง เพื่อซื้อของขวัญพิเศษให้หลานชาย หวังว่าสิบทิศคงจะอารมณ์ดี จนอยู่ฟังสิ่งที่ท่านพูดจนจบนะ
และอีกอย่างหนึ่งที่ท่านจะต้องทำในเย็นวันนี้ คือแปลงโฉมเด็กในอุปปาการะ ให้งดงามสะสวยจนสิบทิศไม่อาจจะปฏิเสธได้
คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อนึกถึงสีหน้าของหลานชาย ยามเห็นยัยรักของท่านเป็นครั้งแรกในวันนี้