บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

“ฉันมาขอพบคุณสิบทิศค่ะ”

“รอสักครู่นะคะ”

พนักงานต้อนรับเงยหน้าขึ้นมองคนพูด อดชื่นชมไม่ได้กับความน่ารักน่ามองที่เห็นตรงหน้า ‘แขก’ ของเจ้านายอีกคนแล้วสินะ เดาได้ไม่ยากหรอกว่า เป็นแขกแบบไหน ไม่ใช่มาติดต่อธุรกิจชัวร์ๆ ถ้ามาเดี่ยว แถมสวยน่ารักแบบนี้

ใบหน้ารูปหัวใจ รับกับเครื่องหน้าจิ้มลิ้ม แบบนี้รึเปล่านะที่เค้าเรียกว่าปากนิดจมูกหน่อย เจ้าหล่อนมีนัยน์ตาโตสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งปลายเชิดนิดๆ ริมฝีปากรูปกระจับ ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีน้ำตาลตัดสั้นแค่ต้นคอหยักศกเล็กน้อย ใบหน้าหวานแต่งไว้อ่อนๆ ปากเจ้าหล่อนสวยจนทำให้เธออดมองซ้ำไม่ได้อย่างนึกชอบ สีของมันเป็นสีชมพูเรื่อกุหลาบ สวมชุดเดรสสีขาวลายดอกกุหลาบช่อเล็กๆ สั้นเหนือเข่า รองเท้าคัทชูส้นเตี้ยแบบสานดูหวานและเรียบร้อย ไม่เหมือนรสนิยมของเจ้านายที่ผ่านๆ มาเลยสักนิด

แต่คนอย่างคุณสิบทิศ ไม่แปลกใจหรอก ถ้าจะเกิดนึกควงสาวเรียบร้อยหวานแบบนี้ เพราะตั้งแต่เธอทำงานที่นี่มา เรียกได้ว่าไม่เคยเห็นซ้ำหน้าเลยก็ว่าได้ กับบรรดาสาวๆ ของเจ้านายเธอ ทำงานจนรู้ปรุหมดแล้วว่า แบบไหนเป็นแขกพิเศษ แบบไหนเป็นแขกทางธุรกิจ ไอ้ประการแรกนี่ เปลี่ยนทุกเจ็ดวันเลยก็ด้วยซ้ำ นานๆ ทีจะเห็นคุณสิบทิศควงใครเกินเดือนสักหน

“รบกวนรอที่ห้องรับแขกนะคะ คุณสิบทิศจะเข้ามาอีกประมาณยี่สิบนาทีค่ะ เอ่อ...ไม่ทราบว่าให้เรียนว่าใครคะ”

“ร้อยรัก สิทธิชยาพรค่ะ”

ริมฝีปากอิ่มเรื่อเอ่ยบอกชื่อเสียงเรียงนามของตนเองเสร็จแล้วก็เม้มน้อยๆ ดูเหมือนใบหน้าหวานนั้นจะแสดงอาการไม่ใคร่จะยินดีนัก ที่ต้องรอนานขนาดนี้ เธอพาแขกของคุณสิบทิศเข้าไปยังห้องรับแขก ก่อนจะถามไถ่ว่าต้องการอะไร แล้วกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ

มือบางบีบเข้าหากัน เธอมองไปทางนาฬิกาที่แขวนไว้ สลับกับมองประตูอย่างกลัดกลุ้ม นี่เธอตัดสินใจถูกแล้วหรือเปล่านะ ที่มาพบกับสิบทิศแบบนี้ ร้อยรักตรงมาที่นี่เลยทันที หลังจากที่ฟังคำประกาศจากคุณย่าเสร็จแล้วเรียบร้อย เธอจะทนนั่งเฉย ร้อยมาลัยถวายพระแบบทุกวันที่ทำคงไม่ได้หรอก ก็คุณย่าเล่นบอกกับเธอแบบหน้าตาเฉยว่า

‘ย่าจะให้เราหมั้นกับตาเทน’

‘คะ’

‘เราก็รู้นี่ยัยรัก ว่าตาเทนน่ะเป็นยังไง ย่าเลยจะให้หมั้นหมายกับเราไว้ก่อน เรียนรู้ดูใจกันแล้วก็ค่อยแต่งงาน กับผู้หญิงที่ย่าเลี้ยงมากับมืออย่างเรา ย่ามั่นใจมากกว่าคนอื่น’

‘ค่ะ’

คำเดียวสั้นๆ อีกตามเคย ที่เธอตอบโต้ท่านกลับไป ร้อยรักได้แต่ถอนใจ และกลัดกลุ้มอยู่เพียงลำพัง คำสั่งหมั้นที่มาเหมือนประกาศิต ทำให้เธอเครียดจัดจนนอนไม่หลับ อดรนทนไม่ไหวต้องมาขอพบว่าที่คู่หมั้นแบบตัวต่อตัว เพราะขืนเธอรอพบเขาที่บ้านคุณย่า คงจะไม่ค่อยมีหวังนัก เพราะสิบทิศไม่ค่อยจะเข้าบ้าน เขาพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมใกล้กับออฟฟิศ จะกลับบ้านก็เพียงแค่อาทิตย์ล่ะหนเท่านั้นเอง

นั่นทำให้เธอต้องมาที่นี่ หลานชายคนเดียวของคุณย่า คนที่รับอุปปาการะเธอไว้ บุญคุณของท่านล้นหัวนัก มันทำให้บางสิ่งที่ท่านขอร้อง ร้อยรักไม่อาจจะปฏิเสธได้ ขนาดเรื่องแบบนี้ เธอยังไม่กล้าปฏิเสธเลย

หวังก็เพียงแค่ว่าสิบทิศจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วยก็เท่านั้น เขาเป็นความหวังสุดท้ายของร้อยรัก ที่จะปฏิเสธทางคุณย่า เธอมองนาฬิกาอย่างไม่รู้จะมองอะไรดี หวังจะให้มันเดินเร็วๆ และเธอจะได้พบกับว่าที่คู่หมั้นเร็วๆ

..........................................................................................................................................................

สิบทิศเดินตรงเข้ามายังออฟฟิศ หลังจากที่ประชุมนอกรอบกับลูกค้าแล้วเรียบร้อย เลขานุการรายงานว่าเขามีแขกผู้หญิงมารอพบ ทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน วันนี้เขาฟรีเดท ไม่มีนัดกับผู้หญิงที่ไหนนี่นา แล้วใครมารอพบ ปรกติแล้วสาวๆ ของเขามักจะอยู่ในโอวาท ไม่ค่อยมาวุ่นวายที่นี่สักเท่าไหร่ ชื่อเสียงเรียงนามเจ้าหล่อนไม่คุ้นเลย ร้อยรัก...ใครกันนะ อาจจะเป็นชื่อจริงของใครสักคนในบรรดาคู่ควง ที่เขาก็จำไม่ค่อยหมดสักเท่าไหร่ ชื่อหล่อนแปลกดี ฟังไทยๆ รื่นหูอย่างบอกไม่ถูก เขาเคยได้ยินที่ไหนกันนะ ร้อยรัก...ร้อยรัก...

เขาเดินก้าวเข้าไปในห้องรับแขก คิ้วยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น เมื่อเห็นหญิงสาวที่กำลังนั่งรอเขาบนโซฟาสีครีม หน้าตาหล่อนไม่คุ้นเลย ยิ่งเมื่อฝ่ายนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขา แก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันทีเมื่อมองสบตากับเขาเข้า

“พี่เทน”

“ครับ”

นี่หรือร้อยรัก แล้วใครกันนี่ เขายังคงจ้องมองเธอแบบนั้น ร้อยรักเองก็เผลอมองเขานิ่งอยู่เช่นกัน เคยเห็นแต่ไกลๆ หรือในรูปถ่าย นี่เป็นครั้งแรกสินะ ที่เธอเห็นเขาตัวเป็นๆ

ใบหน้าคมสัน ว่าในภาพถ่ายดูดีแล้ว ตัวจริงยิ่งดูหล่อเหลาคมคาย ไม่แปลกใจหรอกที่ใครต่อใครจะไล่จับอยากได้เขานัก ใบหน้าเรียวได้ส่วน คิ้วเข้มจรดหางตา นัยน์ตาสีนิลคมกริบ ตอนนี้กำลังจ้องมองเธอ ริมฝีปากหยักได้รูปสีเรื่อ เผยอนิดๆ มันช่างดู...เซ็กซี่จริงๆ

ตายแล้ว ยัยรัก...นี่หล่อนเห็นว่าผู้ชายเซ็กซี่ อะไรกันนั่น...

ร่างสูงของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง สิบทิศในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม ปลดเนคไทลงมา แบบสบายๆ และปลดกระดุมเสื้อจนเผยให้เห็นแผงอกกว้างรำไร เสื้อสูทสีเทาคล้องที่แขน กางเกงสีเดียวกับสูทตัดแนบกระชับรูปร่าง มันเน้นบางส่วนอย่างไม่ตั้งใจเพราะเป็นผ้าสีอ่อน คนมองที่มองเพลินจ้องเป๋งราวกับว่าเขาเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโลก จนสิบทิศที่ถูกมองสำรวจอย่างเพลิดเพลินจากคนตรงหน้าต้องกระแอม

“เรา...รู้จักกันด้วยหรือ?”

คำถามจากคนตรงหน้า เล่นเอาร้อยรักหน้าม้านไปเล็กน้อย เขาจำเธอไม่ได้เลยหรือยังไงกัน หญิงสาวลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม อากัปกิริยานี้หาได้ยากนัก ดูเจ้าหล่อนแช่มช้อย งดงามราวกับเข้ามาประกวดมารยาทอย่างไรอย่างนั้น

“ร้อยรักค่ะ เป็นหลานสาวบุญธรรมของคุณย่าวิลัย”

“อ้อ...”

เด็กของคุณย่า เขาเคยได้ยินท่านมาเปรยๆ เล่าเรื่องของเจ้าหล่อนให้ฟังบ่อยๆ ตอนที่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ กลับมาถึงเขาก็มัวแต่วุ่นๆ เรื่องงาน จนแทบจะลืมเรื่องหล่อนไปแล้ว คุณย่ารับหล่อนมาเลี้ยงตอนที่เขาเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ตอนนั้นท่านยังอยู่ต่างจังหวัดที่อยุธยา จนบิดามารดาของเขาเสียชีวิตไปแล้ว ท่านถึงย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ พร้อมกับหลานบุญธรรมคนนี้ เขาไปต่างประเทศแล้ว เลยไม่ได้พบหน้าค่าตาเจ้าหล่อนสักที

นัยน์ตาคมลอบกวาดมองไปทั่ววงหน้าหวานใสนั้น ดูราวกับเด็กเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย หล่อนอายุเท่าไหร่กันนะ น่าจะไม่เกินยี่สิบสองกระมัง

“คุณย่าให้มาธุระหรือ”

เขาเชื้อเชิญเธอนั่ง ก่อนจะเอ่ยถามถึงธุระ ตายังคงมองใบหน้าหวานนั้นไม่คลาด ร้อยรักเม้มริมฝีปากพลางสั่นหน้า รวบรวมความกล้าอยู่อึดใจ แล้วเอ่ยสิ่งที่ตั้งใจจะมาบอกกล่าวเขาออกมา

“ไม่ใช่คุณย่าหรอกค่ะ เป็นธุระของรักเอง คือว่า...พี่เทนคงจะทราบแล้ว เรื่องที่คุณย่าจะให้เราหมั้นกัน”

“หืม?”

สิบทิศมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ ร้อยรักกลืนน้ำลาย พลางเอ่ยย้ำอีกรอบ ถึงเรื่องที่ทำให้เธอต้องมาหาเขาถึงที่นี่

“รักอยากจะเจรจากับพี่เทน เรา...คือว่า...เรื่องหมั้นที่คุณย่าอยากจะให้พี่เทนหมั้นกับรัก รักอยากจะให้พี่เทนปฏิเสธค่ะ”

ชายหนุ่มได้แต่กะพริบตาปริบๆ เมื่อได้ยินดังนั้น หนแรกช็อกเพราะเรื่องที่คุณย่าของเขาคิดจะทำ แต่หนสองช็อกเพราะเขากำลังถูกแม่หน้าจืดนี่ปฏิเสธ อีโก้ของเขากำลังถูกสั่นไหวสินะ ถูกปฏิเสธจากคนที่เพิ่งเห็นหน้า และเขาลงความเห็นจากสายตาว่าเจ้าหล่อนช่างจืดชืด ไร้เสน่ห์เหลือเกิน

“คุณย่าอยากจะให้พี่หมั้นกับเรา พี่รับรู้ แต่ส่วนเรื่องจะตกลงไหม มันแล้วแต่วิจารณญาณของพี่ก็แล้วกันนะ ร้อยรัก กลับไปก่อนได้ไหม? พี่มีงานจะต้องทำ แล้วเราค่อยเจอกันเย็นนี้”

“แต่ว่าพี่เทนคะ พี่เทนอยากจะหมั้นกับรักอย่างนั้นหรือคะ แต่รักน่ะไม่...”

“กลับไปก่อน แล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที”

สิบทิศไล่หล่อนกลายๆ ร้อยรักจำใจต้องไหว้ลาเขาแล้วเดินออกมา มือบางกำเข้าหากันแน่น อึดอัดและไม่เข้าใจ ว่าไฉนแล้วเขาถึงไม่ยอมตกลงกับเธอแต่โดยดี เรื่องวุ่นๆ นี่จะได้ไม่เกิดขึ้น

“หน้าตาอย่างเรา ไม่น่าหมั้นด้วยตรงไหนกันนะ”

เขาบ่นพึมกับตัวเอง พลางเสยผมลวกๆ แอบมองตัวเองในเงาสะท้อนของกระจกสีเข้มที่กรุไว้ในห้องทำงานพอเห็นได้รำไร เขาไม่ได้ขี้เหร่เลย รูปงามเสียด้วยซ้ำ ก็ถ้าเขาไม่ดูดี จะมีสาวๆ มาตอมไม่ขาดอย่างนั้นหรือ

แม่เด็กนั่นกล้าดียังไง มาบอกว่าไม่อยากหมั้นกับเขา

เอ...แล้วเขาทำไมจะต้องแคร์เรื่องนี้ด้วยนะ นั่นมันอิสรภาพของเขาเลยนะ สิบทิศ! แล้วดูสิ่งที่คุณย่าคิดจะทำสิ จะจับเขาหมั้นกับเด็กหน้าจืด ที่บอกว่าบอกปฏิเสธเขาอย่างนั้นหรือ?

เย็นนี้เขาเห็นทีจะต้องกลับบ้าน ไปรับประทานอาหารค่ำกับท่าน แล้วก็เจรจากับแม่เด็กร้อยรักนี่อย่างเป็นทางการเสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel