บทที่ 4 ทำไมใส่เสื้อผ้าน้อยจัง
บทที่ 4 ทำไมใส่เสื้อผ้าน้อยจัง
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น โห้หานก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มาที่ผับเมย์
ผับเมย์เป็นสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเอช ทั้งห้องคาราโอเกะ ผับบาร์ ทุกสิ่งที่คนหนุ่มสาวชอบที่นี่ล้วนมีหมด
คนที่มาที่นี่ ล้วนแต่เป็นคนที่มีฐานะ สามแสน เรื่องเล็กน้อย
โห้หานทนแทบไม่ไหว ลมข้างนอกพัดเย็น เธอสวมแค่กระโปรงทรงกระบอกที่สั้นมากขนาดนั้น อวดเรียวขายาว แค่ลมพัดขนเธอก็ลุกตั้ง
เธอรีบผลักประตูเข้าไป
ด้านนอกที่ดูเงียบสงบ แต่ตอนที่เปิดประตูเข้าไป ก็จะได้ยินเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเสียงดังจนแสบแก้วหู
เธอเอามืออุดหูแล้วก็หาที่อยู่ที่เสี่ยวหรัวบอกกับเธอทางโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปข้างใน
ตอนที่เธอพบกับเสี่ยวหรัว โห้หานก็เห็นเธอกำลังสวมหน้ากากอยู่พอดี ในมือถือแก้วเหล้า ดูคล้ายกับกำลังเตรียมที่นะส่งต่อให้ลูกค้า เธอรีบเรียกให้เสี่ยวหรัวหยุด
“เสี่ยวหรัว”
เสี่ยวหรัวหมุนตัวกลับมาด้วยใบหน้าเล็กที่ดูขี้เล่นและอ่อนโยน
เมื่อเธอเห็นโห้หานเธอก็ยิ้มร่าพร้อมกับวางของที่อยู่ในมือลง
“มาแล้วเหรอ”
ถางเสี่ยวหรัวได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากทางโทรศัพท์แล้ว ตอนนี้เธอเข้าใจดีว่าโห้หานต้องการเงินมากถึงมากที่สุด
ที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่หาเงินได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นเธอก็เลยมาที่นี่เพื่อลองดู
“ฉันควรจะทำอะไร แค่ไปส่งเหล้าเหรอ”
โห้หานเห็นว่าถางเสี่ยวหรัวถือเหล้าอยู่ก็เลยถาม
ถางเสี่ยวหรัวกวาดสายตามองเธอ ก็รีบหาเสื้อคลุมมาให้ “ทำไมเสื้อน้อยชิ้นจัง ฉันชวนเสื้อมาที่นี่ไม่ได้ให้เธอมาขายตัว เธอเป็นเพื่อนฉัน ฉันจะให้เธอมาทำอย่างนั้นได้อย่างไร”
พอพูดถึงผับบาร์ ทุกคนก็ต้องคิดว่าวิธีที่จะหาเงินได้เร็วที่สุดก็มีเพียงแค่วิธีนั้นเท่านั้น
หลังจากที่โห้หานใส่เสื้อคลุมแล้ว เธอยืนนิ่ง “งั้นฉันควรจะทำอะไร ต้องทำยังไงกันแน่ถึงจะได้สามแสน ฉันมีเวลาแค่สามวันนะ ภายในสามวันฉันจะต้องรวบรวมเงินสามแสนให้ได้
เวลาไม่เคยคอยใคร ตอนนี้เธอเองก็รีบจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
ถางเสี่ยวหรัวดึงมือเธอเข้าไปในออฟฟิศ
“ยัยโง่เอ้ย ฉันแค่ต้องการให้เธอเข้าไปขายเหล้า ถ้าเกิดว่าเธอบังเอิญเจอลูกค้าที่มีเงิน เหล้าของพวกเขาขวดหนึ่งก็ขวดละหลายแสนอยู่ พวกเราก็คงได้ส่วนแบ่งสักหมื่นสองหมื่นอยู่”
ตอนที่สองคนกำลังคุยกันอยู่ผู้จัดการก็เดินเข้ามา
“เธอคือโห้หานค่ะ”
สายตาของผู้จัดการมองไปที่เธออย่างสำรวจทั้งตัวแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างพอใจ
“ใช่ค่ะ นี่เธอเอง เป็นยังไงคะ ไม่เลวเลยใช่ไหม” ถางเสี่ยวหรัวดึงให้เธอหมุนตัวหนึ่งรอบ แล้วก็พูด “นะคะผู้จัดการ ถ้าคุณโอเค ตอนนี้เพื่อนฉันต้องการเงินมาก ให้โอกาสเธอหน่อย คืนนี้ฉันให้ช่วยเธอขายเหล้าฟรีๆเป็นยังไง”
สายตาของผู้จัดการก็เป็นประกาย ถางเสี่ยวหรัวเองก็มีอิทธิพลอยู่พอตัวที่ผับเมย์
ยัยเด็กนี้รู้จักพูดแล้วก็มักจะพูดจาหว่านล้อมให้เหล่าบรรดาลูกค้ารายใหม่ซื้อเหล้าดื่มกันอย่างเต็มอกเต็มใจได้อยู่เสมอ
ถ้าวันนี้เธอช่วยขายเหล้าฟรี ค่าคอมก็ไม่เอา คืนหนึ่งอย่างน้อยๆก็คงเหยียบหมื่น
สายตาของผู้จัดการจ้องไปที่โห้หานทันที
อืม รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลว พวกบรรดาเสี่ยๆก็ชอบแบบนี้ทั้งนั้น
ผู้จัดการเองก็ไม่ลังเลรีบรับปาก “ได้ ให้เพื่อนเธอไปที่ห้องเบอร์หนึ่ง กลุ่มคุณชายเหลียนมากันแล้วพอดียังขาดคนอยู่
“เอ๊ะๆๆเดี่ยวนะ “ ถางเสี่ยวหรัวร้องขึ้นมา อย่างไม่ค่อยพอใจที่ผู้จัดการมอบหมายงาน “ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าห้องเบอร์หนึ่งมีใครกันบ้าง พวกคุณชายเหลียนพวกนั้นแต่ละคนนั้นเสือผู้หญิงทั้งนั้น โห้หานเข้าไปมีหวังถูกกินเหลือแต่กระดูกแน่”
ผู้จัดการไม่ค่อยพอใจ “ยังจะเลือกอีก ไหนบอกว่าต้องการเงิน ในห้องนั้นแต่ละคน ถ้าจัดการได้ไม่ต้องพูดถึงแสนเลย ล้านก็ยอมให้เธอหมดนั่นแหละ”
“ฉันจะไป” โห้หานดึงเสี่ยวหรัวไว้ และตอบรับคำด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว