บทที่ 5 ท่าทางซังกะตายแบบนั้นใครจะซื้อเหล้าเธอดื่ม
บทที่ 5 ท่าทางซังกะตายแบบนั้นใครจะซื้อเหล้าเธอดื่ม
มีผู้หญิงที่ผับอีกคนเดินที่ห้องหมายเลขหนึ่งกับโห้หาน ส่วนเสี่ยวหรัวถูกผู้จัดการส่งไปที่อีกที่หนึ่ง
“นี่ เธอมาใหม่เหรอ”
เด็กสาวสวมหน้ากากและเสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยลายพร้อยพร้อมกับหน้าอกหน้าใจที่พร้อมทะลักออกมาจากเสื้อผ้า
โห้หานเห็นแล้วก็พูดได้แค่ “อืม”
“โอ๊ะ เอาอย่างงี้ ฉันเห็นว่าเธอเป็นคนใหม่ อยากจะเตือนเธอไว้เรื่องหนึ่งให้จำกฎให้ดีนะ ถ้าหากว่าลูกจะซื้อเหล้าจากฉันก็ห้ามมาแย่งนะ เข้าใจไหม”
โห้หานที่สวมหน้ากากที่ผู้หญิงขายเหล้าทุกคนต้องสวม สายตาของเธอเรียบเฉยพูดเพียงแค่ “อืม”อย่างเบาๆ
เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาและคำตอบอันเฉยเมยของโห้หาน ผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นเบาๆ
ท่าทางซังกะตายแบบนี้ใครจะอยากซื้อเหล้าเธอดื่ม ได้ยินมาว่าเธอต้องการเงิน มาที่นี่ก็ต้องหันลดอีโก้ตัวเองลง อย่ามาทำตัวสูงส่ง มันทุเรศ” เธอพูดจบโห้หานก็มองจ้องเธอ ไหล่ของเธอตั้งเล็กน้อย เม้มริมฝีปากเบาๆภายใต้แสงไฟ แล้วก็พูดอย่างเสียไม่ได้ว่า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
เมื่อพวกเขาเดินถึงประตูทั้งสองคนก็หยุด
มีเสียงของผู้ชายที่กำลังงอนง้อ เสียงผู้หญิงที่ออดอ้อนฉอเลาะ เสียงหัวเราะ เสียงร้องครวญครางลอดทะลุผ่านออกมาจากภายในห้องที่หรูหรานั้น
เหมือนกับคนกลุ่มใหญ่ในห้องนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่สักอย่าง
ใจของโห้หานเต้นแรง เธอกำลังพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้
แต่เป็นหญิงสาวคนนั้นที่บ่นว่า “เฮ้อ ฉันว่าคนพวกเนี่ยไม่มีอะไรทำกัน คงเล่นอะไรสักอย่างที่เกินไปจริงๆ เดี๋ยวเข้าไปก็ระวังตัว มองผ่านๆไป อะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าดู เดี๋ยวตัวเองจะลำบาก”
โห้หานกลืนน้ำลายลงคอ แค่ตอนที่ได้ยินเสียงตอนแรกในใจเธอตอนนี้ก็รู้สึกสับสนไปหมด พอได้ยินที่หญิงสาวบอกกับเธอ เธอก็ยิ้มตอบไปอย่างอบอุ่น “อืม ขอบใจนะที่เตือน”
เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของโห้หาน เด็กสาวก็คิดถึงใบหน้าอันเย็นชาเมื่อสักครู่ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“จะต้องมาขอบคุณอะไร ทำตามกันมา ก็เป็นแบบนี้มากันหมดแหละ”
ทั้งสองคนสบตากันหลังจากนั้นเด็กสาวก็เปิดประตู
เมื่อเข้ามาในห้องสายตาของเธอก็พบกับความอึมครึมหม่นหมอง ใจเธอก็รู้สึกขยะแขยงจนแทบจะอ้วกออกมา สภาพตอนนี้เละเทะไปหมด
กลุ่ม X เหรอ
ที่เธอเห็นคือตรงมุมห้องมีชายหนุ่มและหญิงสาวรวมตัวกันอยู่ส่งเสียงหัวเราะและส่งเสียงครางลั่น
ยังมีบางส่วนที่เธอมองไม่เห็น ยังมีเสียงหายใจแรงและเสียงสะอื้นเบาๆของหญิงสาวที่ดังขึ้นอย่างไม่หยุดจนน่าขนลุกไปหมด
ตอนที่โห้หานยืนตะลึงอยู่กับฉากๆนั้น พวกเขาก็ยังคงไม่รู้สึกตัว ทันใดนั้นเองชายรูปร่างดีขายาวเรียวผู้ที่สวมแว่นตาขอบทองก็เดินออกมาจากฝูงชน
ดวงตาของเขาเรียบเฉย
ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มที่ดูสง่างามเป็นอย่างมาก
เขาเหลือบมองมาที่พวกเธอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ริมฝีปากเรียบนิ่ง
ให้ความห่างเหิน
เสื้อเชิตปลดกระดุมสี่ห้าเม็ด ริมฝีปากแดงห้อเลือดเหมือนแวมไพร์
รอยลิปสติกสีแดงที่ตรงปกเสื้อ แค่ดูก็รู้ว่าเพิ่งทำอะไรมา
เขามองดูคนที่เพิ่งเข้ามาสองคน ขมวดคิ้วแล้วก็พูด “มีอะไร”
โห้หานเห็นชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาอย่างชัดเจน แต่เธอไม่รู้จัก
เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆดึงกระโปรงตัวเองลง แล้วกระซิบกับเธอเบาๆว่า “นี่คือหรุงเช่อเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองเอช เป็นคนขี้เหงามาก คนคนนี้เป็นคนพูดยาก
ประโยคสุดท้ายที่เธอพูดก็ทำให้เธอใจเต้น
ไม่นานเธอก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “คืออย่างนี้ค่ะคุณผู้ชาย พวกคุณมีคนสั่งเหล้า พวกเราก็เลยมาส่งให้”
“ใคร”
หรุงเช่อถามเธอกลับอย่างหวนๆ