บทที่ 13 คืนวันแต่งงาน
บทที่ 13 คืนวันแต่งงาน
คืนวันแต่งงาน
แม้ว่างานแต่งงานนี้จะมีเพียงคุณท่านโม่และโม่ถิงเชียนเท่านั้นที่รู้กันในตระกูล
แต่โห้หานก็รู้ดีว่างานนี้เป็นเพียงงานเลี้ยงฉลองของเธอคนเดียว
โม่ถิงเชียนไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ อาหารมื้อนี้ก็เป็นเพราะว่าคุณท่านโม่บังคับเขากลับมา
การจากที่กินข้าวเสร็จ คุณท่านก็ให้พวกเขากลับเข้าห้องมาพักผ่อน
เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ขายาวที่เดินนำเธอมา ก็แตะประตูปิดเสียงดังลั่น
จนลมพัดเข้าบาดหน้าของเธอ
ชายหนุ่มบีบมือเธอแน่นอย่างไม่ปรานีเธอสักนิด “คุณจะทำอะไร”
คิ้วของเขาขมวด ความเจ็บที่ข้อมือทำให้เจ็บทรมาน เธอเงยหน้ามองเขา พวกเขาสบตากันอย่างไม่ตั้งใจ
โม่ถิงเชียนเม้มริมฝีปากแน่น ริมฝีปากที่บางเหมือนกับกระดาษ มีแต่ความเย็นชา
คุณปู่ให้เรานอนห้องเดียวกัน แต่ไม่ได้ยอกว่าให้เรานอนเตียงเดียวกัน เธอไปนอนที่โซฟา
“ให้ฉันนอนที่โซฟา”
หญิงสาวขมวดคิ้วแล้วหันไปมองเตียงขนาดคิงไซค์ เธอยืนกรานปฏิเสธ “ไม่นอน คุณนอนที่โซฟา”
เธอสะบัดมือเขาออก แล้วก็เดินตรงไปนั่งที่เตียง
“นี่คือเตียงของฉัน เธอจะมานอนได้ยังไง”
โม่ถิงเชียนดึงเธอให้ลุกขึ้นแล้วผลักเธอไปที่ข้างโซฟา
แล้วก็โยนผ้าห่มตามไป
เตียงของเขา เธออย่ามาเข้าใกล้
โห้หานกัดฟันกรอด มองไปทางเตียงที่ดูเหมือนจะยิ่งห่างไกลออกไป
เรื่องที่จะต้องก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น
เธอไม่สน เธอต้องท้องให้ได้
โม่ถิงเชียนมองเธออย่างดูถูก เพราะผู้หญิงคนนี้คนเดียว คนแรกที่กล้าขู่เขา
แถมยังได้ตำแหน่งคุณผู้หญิงของตระกูลโม่
“คืนนี้เป็นคืนแรก เขาจะดูสิว่าเธอจะทนได้ขนาดไหน”
เขาเดินเข้าห้องน้ำไปหลังจากที่ทิ้งคำพูดที่โหดร้ายไว้
เสียงของน้ำที่ดังซู่ซ่าลอยมา ชายหนุ่มกำลังอาบน้ำ โห้หานแอบมองแล้วก็ปีนขึ้นเตียงไป
เธอลืมตาขึ้นในผ้าห่มแล้วก็ฉุกคิดว่า
นี่คือคืนเข้าห้องหอของเธอ
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาแต่งงานกับผู้ชายด้วยวิธีนี้
เคยมีคนบอกว่าเธอจะขอเธอแต่งงาน
แต่มันก็ผ่านมาแล้วเหมือนควันที่จางหายไป
ไม่นานก็มีเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นเบาๆดึงความคิดของเธอกลับมา
ดวงตาของเธอก็เหมือนมีเมฆหมอกมาบังตา
เธอมองไปที่โทรศัพท์ของโม่ถิงเชียน
ตอนแรกเธอก็ไม่ได้อยากจะรับโทรศัพท์ แต่เสียงน้ำในห้องน้ำก็ยังดังไม่หยุด โทรศัพท์ก็ดังมาสามรอบแล้ว ดังจนเธอรู้สึกรำคาญ เธอก็ลังเลอยู่ว่าจะบอกคนในโทรศัพท์ดีไหม แต่ก็ไม่รู้ว่าผีห่าซาตานตัวไหนดลใจเธอให้กดรับโทรศัพท์
ให้ฟ้าดินเป็นพยาน เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆและอย่างไม่รู้ตัวว่ามือก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ...
“ถิงเชียน แวะมาหน่อยได้ไหม แคร่กๆ ฉันเป็นหวัด”
อีกฝั่งเป็นเสียงอันอ่อนแอของผู้หญิงที่ไอไม่หยุดอย่างคนป่วยหนัก
หลังจากนั้นเสียงเย็นเหมือนน้ำแข็งลอยทะลุเข้าหูของเธอ
“ถิงเชียน ฉันทรมานเหรอกเกิน ฉัน”
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมาแล้ว
น้ำหยดลงมาที่แก้มสองข้างของชายหนุ่มจากด้านบนศีรษะ ไหลลงมาตามผิวกายขาวเนียน ที่บริเวณเอวถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัวโชว์ให้เห็นบริเวณท้องน้อย ดูมีเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล
โห้หานยืนตะลึง
เธอตกตะลึงกับภาพตรงหน้าไม่ก็เสียงจากโทรศัพท์
น่าจะทั่งคู่
“เธอหยิบโทรศัพท์ฉันทำไม”
ผ้าเช็ดตัวถูกโยนทิ้งไปอีกฝั่ง คิ้วของเขาขมวดอย่างสงสัยแล้วก็รีบคว้าโทรศัพท์ทันที
“ฉัน”
โห้หานอยากจะอธิบาย เธอกำลังจะพูดออกมา แค่เห็นโม่ถิงเชียนรับโทรศัพท์แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที เขาพูดอย่างอ่อนโยนว่า “รอก่อน ฉันจะรีบไปทันที”