บทที่ 4
"วันนี้มารับกันถึงที่หน้ามอเลยนะ" พอจันทร์ฉายเห็นรถสปอร์ตคันหรู ของใครบางคนมาจอดเทียบ ตรงริมฟุตบาทที่เธอและธันวายืนอยู่หญิงสาวก็หันไปแซวเพื่อน
"ก็คนเขาคิดถึงกันนี่ยะ คนไม่มีความรักอย่างแก ไม่รู้หรอก" ธันวาพูดกระตุ้งกระติ้งแล้วเปิดประตูรถคันนั้นขึ้นไปนั่ง
"เชิญแกมีความรักคนเดียวเถอะย๊ะ" แล้วจันทร์ฉายก็ปิดประตูรถคันนั้นให้เพื่อน
"คิดถึงจังเลย" พอพูดจบธันวาก็โน้มใบหน้าไปพิงที่ไหล่ของชายคนรัก
"คิดถึงเหมือนกันแต่เราพบกันบ่อยๆไม่ได้เดี๋ยวพ่อนายก็รู้"
"นายไม่โกรธเรานะที่เราหาทางออกด้วยการแต่งงานกับเพื่อนสาว"
"ก็มันจำเป็นนี่ แบบไหนก็ได้ขอแค่อย่าให้ใครมาแย่งนายไปจากเราเท่านั้นพอ"
"เรารักนายนะเสกสรร" แล้วธันวาก็หอมแก้มเสกสรรเข้าไปฟอดใหญ่
จันทร์ฉายขึ้นรถเมล์ที่หน้ามหาวิทยาลัยมาลงที่หน้าปากซอยบ้านของเธอ แล้วเดินเข้ามาอีกประมาณ เกือบ2 กิโลก็ถึงบ้าน
ที่จันทร์ฉายเลือกวิธีเดินก็เพราะจะได้เซฟเงิน ไว้ใช้เรื่องที่จำเป็นมากกว่า
#คฤหาสน์หลังใหญ่โตของตระกูลทวีทรัพย์
พอไชยเชษฐ์วางโทรศัพท์ทางไกลจากใครบางคนแล้วเขาก็มายืนอยู่ที่ริมหน้าต่างคิดถึงเรื่องในอดีต เขาไม่น่าจะทำพลาดเลยถ้าไม่งั้นชีวิตครอบครัวของเขาคงจะสมบูรณ์มากกว่านี้
"ผมผิดไปแล้วทำไมคุณถึงไม่อภัยให้ผม ผมสำนึกผิดมา 20 ปีมันยังไม่พออีกเหรอ"
อีกสถานที่หนึ่งในเวลาต่อมา
"ถึงแล้วครับ" เสกสรรรีบวิ่งไปเปิดประตูรถให้ชายคนรัก
"พี่พาผมมาที่นี่ทำไม" พอธันวาลงจากรถก็มองดูบ้านหลังหนึ่ง มันเป็นบ้านใหม่ที่สวยมาก
"พี่อยากจะได้บ้านหลังนี้แต่เงินไม่พอ"
เป็นอย่างที่ธันวาคิดไว้ทุกอย่างที่เสกสรรมีมันมาจากเงินของเขาทั้งนั้น และครั้งนี้สิ่งที่เสกสรรอยากจะได้มันใหญ่มาก แต่มันก็ไม่เกินกำลังของธันวาเลย
"ถ้าพี่อยากจะได้ก็จองไว้ก่อนเลยครับ ผมขอดูเงินก่อนว่าจะพอไหม แต่ผมจะพยายามหามาให้"
พอได้ยินคำพูดของชายคนรักเสกสรรรีบดึงเขาเข้ามากอดไว้ทันที
ที่จริงความรักที่เสกสรรมอบให้ธันวามันคือความจริงแต่เขาเป็นเด็กกำพร้า พอมีธันวาเข้ามาในชีวิตเขาก็เลยคว้าทุกอย่างที่จะได้จากผู้ชายคนนี้ไว้ก่อนเผื่อว่าสักวันธันวาจะทิ้งเขาไป