บทที่3
ตอนที่3
ทั้งคู่สบตากันพักใหญ่ รวีเป็นฝ่ายที่หันหน้าหนี พื้นเพียงเข้าใจได้ทันทีว่าอีกคนคงไม่อยากจะเจอหน้าเขา ร่างบางยืนมองว่าสามีจะหันมาอีกไหม แต่รวีกลับเมินและทำท่าคุยกับคู่สนทนาต่อ
ใบหน้าเล็กของพื้นเพียงเริ่มบูดบึ้งดวงตาเล็กเริ่มมีน้ำตาเอ่ยคลอ แต่ไม่มีวี่แววเลยว่าสามีจะหันมามอง
“ไปเถอะพลอย” ร่างบางพยายามกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเพราะสามีที่เมินเขาทั้งที่เห็นภรรยาเดินผ่านมาแต่ไม่ทักท้ายเลย อย่างงี้คนเป็นภรรยาจะไม่น้อยใจได้อย่างไร
หลังจากกลับมาจากไปห้างกับพลอยพื้นเพียงก็รีบอาบน้ำแล้วไปนั่งดูหนังที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ เขาเปิดหนังเรื่องที่อยากจะดู สายตาจองไปที่หนังก็จริงแต่ในหัวของเขาคิดแต่เรื่องของคนที่เป็นสามี เขานั่งคิดวนไปอยู่อย่างนั้น เขากลัวว่ารวีจะไม่รักสนใจเขา เขากลัวว่ารวีจะชอบผู้หญิงคนนั้น เขากลัวทุกอย่างจะเกิดขึ้น แต่ก่อนความคิดจะพาให้เขาเจ็บซ้ำมากไปกว่านี้เขาลุกขึ้นไปปิดทีวีปิดไฟแล้วเข้าห้องไปนอน
แม้จะเข้าห้องนอนแล้วแต่เขายังคงคิดทบทวนกับเรื่องวันนี้ที่สามีเมิน เขาพยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกผู้หญิงคนนั้นแค่ลูกค้า นอนคิดอะไรไปสักพักร่างบางก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง เขารู้ได้เลยว่านั้นคือรวี
รวีกลับมาที่ห้องในเวลาสี่ทุ่มกว่าก็ไม่เจอภรรยาที่เคยนอนรออยู่ตรงโซฟาเหมือนวันก่อนแล้ว เขาเดินเข้าห้องครัวเพื่อจะไปหาอะไรกิน เพราะตอนที่อยู่ห้างคุยกับลูกค้าเขาแทบไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ
รวีพบว่าในห้องครัวไม่ได้มีอาหารวางไว้เหมือนเมื่อวานก็รู้สึกโมโหนิด ๆ ที่อีกคนไม่ได้ทำไว้ให้
“ก็ดีเหมือนกัน อาหารของเธอฉันไม่ได้อยากจะกินสักนิด” เขาเดินไปยังตู้ที่เก็บบะหมี่สำเร็จรูปแล้วหยิบออกมาสองห่อ
ด้านทางพื้นเพียงที่รู้ว่าสามีเดินไปที่ครัวก็รีบย่องออกมาดูว่าเขาเดินไปทำไม ร่างบางได้ยินที่สามีพูดทุกคำ ในหัวของของคนคิดมากก็เริ่มคิดไปไกลว่าสามีคงจะเกลียดเขาเข้าแล้วจริง ๆ แต่อีกใจก็นึกโกรธที่ตอนกลางวันรวีเมินเขา คืนนี้จึงทำให้ทั้งสองแยกย้ายกันเข้านอนโดยที่ไม่ได้มีการพูดคุยกันสักคำ
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูคอนโดดังขึ้นทำให้ร่างบางที่กำลังลงมือทำมื้อเช้าให้ผู้เป็นสามีต้องวางมือแล้วเดินไปเปิดประตูดูว่าใครมา
“อ้าว คุณแม่สวัสดีครับ” มือเล็กยกขึ้นไหว้เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่หน้าประตูคือมารดาของตนเองและมารดาของสามี
“สวัสดีจ๊ะหนูเพียง แล้วตาวีไปไหนล่ะลูก” แม่สามีรับไหว้และถามหาลุกชายของตน
“เอ่อ..พี่วียังไม่ตื้นครับ” เพื่อความสบายใจของท่าน ๆ พื้นเพียงก็จำเป็นต้องเล่นละครน้ำเน่าต่อหน้าขอแม่ๆ
“แล้วสบายดีไหมลูก” คราวนี้คือแม่ของร่างบางที่เอ่ยถามลูกชายขึ้น
“เพียงสบายดีมากครับ” ตอบพร้อมรอยยิ้มที่แสนสดใส
“พวกเราเข้าไปข้างในดีกว่านะครับ เพียงกำลังทำอาหารพอดีอยู่ทานด้วยกันก่อนนะ” ร่างบางชักชวนให้มารดาของตนและมารดาสามีให้เข้าห้องไป เพราะเขาทำอาหารก็ไกล้จะเสร็จแล้วจึงอยากให้ทั้งสองอยู่ทานด้วยกันก่อน
“งั้นเดี๋ยวแม่ไปปลุกตาวีเองดีกว่า” รตรี แม่ของรวีเอ่ยพร้อมลุกจากโซฟา
“นี่ รตรี จะไปปลุกให้เสียเวลาทำไมล่ะ ภรรยาเขาก็มี ให้เขาไปปลูกกันเองสิ” คุณหญิงพันแม่ของพื้นเพียงว่า
“ก็จริงของเธอนะพลอย ฮ่า ฮ่า” ผู้เป็นแม่ทั้งสองหัวเราะอย่างชอบใจ แต่ใบหน้าของพื้นเพียงนั้นกลับวิตกกังวนกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้สะอย่างนั้น
“ไปสิหนูเพียง ไปปลุกผัว” รตรีพูดไปขำไปทำให้พ่วงแก้มเล็กของพื้นเพียงขึ้นสีระเรื่อ
“เพียงทำอาหารอยู่ครับคุณแม่ คุณแม่ไปปลุกเลยก็ได้ครับ” ร่างบางแสร้งว่าตนกำลังยุ่งกับการทำอาหารเพื่อไม่อยากเป็นคนที่ไปปลุกสามี
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลยลูก เดี๋ยวพวกแม่ ๆ ดูให้จ๊ะ เนอะ” หญิงวัยกลางคนทั้งสองมองหน้ากันแล้วขำอย่างสนุกสนาน
“ก็ได้ครับ” ว่าแล้วถอดเสื้อกันเปื้อนออกแล้วเดินไปยังห้องของผู้เป็นสามี
มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูห้องของรวีสองสามครั้งแล้วเอ่ยเรียกชื่ออีกคน ทว่า กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมาว่าตื่นหรือยัง ทำให้พื้นเพียงชั่งใจอยู่นานว่าควรจะทำยังไงอีกคนถึงจะตื่น ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดู
“คุณรวี ตื่นหรือยังครับ” เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปแต่ตัวของร่างบางยังยืนอยู่ข้างนอก เขาร้องถามสามีว่าตื่นหรือยังแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากอีกคนเช่นเคย สถาณการณ์แบบนี้จึงทำให้เขาจำใจเดินเข้าไปหาอีกคนในห้องสะเลย
“เข้าห้องคนอื่นเขาทำไมไม่เคาะประตู” เสียงเข้มดังขึ้นจากด้านหลังทำให้คนที่พึ่งเดินเข้าห้องมาตกใจแล้วรีบหนุมตัวกลับมาทางห้องน้ำที่อยู่ข้างหลังทันที ภาพที่เห็นคือผู้เป็นสามีในนามใช้ผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอวเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เอ่อ..เพียงเรียกคุณแล้วนะ คุณไม่ตอบเพียงเลยเปิดเข้ามาครับ ขอโทษ” คนพูดก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองขึ้นไปที่หน้าสามีเพราะกลัวว่าอีกคนจะรู้ว่าตนเองนั้นเขินอยู่
“ทำไมไม่มองหน้าฉันล่ะ หื้ม” รวีเริ่มเดินเข้าไปไกล้พื้นเพียงมากขึ้น ทำเอาร่างบางใจสั่นทันที
“เพียงแค่มาบอกว่าคุณแม่ท่านมา ออกไปกินข้าวด้วยกัน เร็ว ๆ นะครับ!” ร่างบางพูดด้วยความเร็วแล้วรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องทันที
หลักจากที่แม่ ๆ ของทั้งสองกลับไปแล้วรวีก็ออกไปที่บริษัทเพื่อไปทำงานทันที ส่วนพื้นเพียงเองก็เก็บกวดบ้านให้เรียบร้อยและออกไปห้างเพื่อซื้อของไว้มาใช้ในชีวิตประจำวัน