บทที่1.แรกพบ......
“คุณหายไปไหนมาครับ? ผมกับทีมอารักขาออกตามหาอยู่เป็นนาน จนเกือบจะรายงานให้มาดามทราบอยู่แล้ว...ถ้าคุณไม่กลับมาเสียก่อน” เบทเทอร์บ่นออกมาอย่างเหลืออด เมื่อเขาและทีมออกตามหาคุณคาร์โลวลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลคัสล์ซันแทบจะพลิกแผ่นดิน!!เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าหายตัวไป
“แถวๆ นี้ล่ะ นายคงไม่ได้ออกไปด้านหลังละซิ...ถึงได้มองไม่เห็นว่าฉันนอนเล่นอยู่ริมทะเลเฉยๆ” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสียงตำหนิของบอดี้การ์ดอย่างเบทเทอร์ เขาไหวไหล่และทรุดนั่ง
“ครับ...ผมไม่นึกว่าคุณจะสนใจธรรมชาติ ทะเลที่นี่สวยก็จริงครับ แต่คุณไม่น่าจะสนใจทะเล...เท่ากับสาวๆ ใส่บิกินนี่ที่เดินกรายไปกรายมาริมสระน้ำอวดเนื้ออวดตัว กับหน้าอกหน้าใจอลังการบิ้กเบิ้ม”
“ฮ่าๆ ฉันอาจจะเปลี่ยนใจแล้วก็ได้นี่ มองคลื่นลมกระทบฝั่งก็เพลินๆ ดีเหมือนกัน หน้าอกอึ้มๆ เห็นมาเยอะจนตาลาย มองคลื่นลมกระทบฝั่งพาให้จิตใจผ่อนคลาย ไม่ร้อนรุ่มคลั่นเนื้อคลั่นตัวดีออกนา” คาร์โลวทอดกายลงนอน โดยมีเบทเทอร์คอยช่วยพยุง จนร่างสูงลงไปนอนอยู่บนโซฟากว้างขวางเต็มตัว
“คงต้องรอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเสียก่อนกระมังครับ ผมจึงจะเชื่อ!! ว่าคุณเปลี่ยนไปจริงๆ” เบทเทอร์เอ่ยหน้าตาย เมื่อชายหนุ่มเจ้าสำราญแบบคาร์โลวคิดจะเปลี่ยนใจไปชอบธรรมชาติ แทนการอยู่กลางวงล้อมของสาวน้อยทรงโต ที่พร้อมจะทอดกายให้ชายหนุ่มเชยชมโดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทน
“มันก็ไม่แน่หรอกน่าแบทเทอร์ ฉันอาจจะพอใจกับเสียงคลื่นเสียงลมที่ทำให้จิตใจได้ผ่อนคลาย แทนการออกแรง ออกกำลังมากมายไปกับสาวๆ ที่นายเอ่ยถึง ธรรมชาติสวยๆ อาจทำให้สายลมอย่างฉันอยากหยุดอยู่กับที่ก็ได้นี่นา” คาร์โลวเอ่ยยิ้มๆ รีบพริ้มเปลือกตาหลับลง นึกถึงรอยยิ้มใสบริสุทธิ์ของมนต์มีนา และอมยิ้มอย่างพออกพอใจ จนเบทเทอร์มองตามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นรอยยิ้มหวานฉ่ำติดอยู่บนเรียวปากของเจ้านายวัยรุ่นอย่างคาร์โลว คัสล์ซัน
“คุณไม่ใช่สายลมเย็นๆ หรอก ผมรู้ดี คุณเป็นพายุลูกโตที่พร้อมจะทำลายล้างต่างหากล่ะครับ”
“โอ้!!…ฉันดูรุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือ?”
“ใกล้เคียงเลยครับ อาจจะไม่ถึงขนาดทำลายล้าง แต่คุณสามารถกวาดต้อนสาวๆ ให้เข้าหาได้สบายๆ”
“ฉันคงต้องเพลาๆ พฤติกรรมแบบนั้นบ้างแล้วล่ะ แม่คงปวดหัวเพราะพฤติกรรมห้าวๆ ของฉันมาเยอะสินะ ขอพักผ่อนให้แม่สบายใจบ้างคงจะดี”
“นับเป็นความคิดยอดเยี่ยมมากครับ ว่าแต่...วันนี้คุณกินอะไรเข้าไปตอนเช้าครับ มีอะไรทำให้คุณเปลี่ยนความคิด...และจะกลับกลายเป็นคนดี” บอดี้การ์ดคู่ใจสัพยอก
“ก็ไม่รู้ซิ คงเบื่อๆ ล่ะมั้ง”
“ครับ”
นับจากวันนั้นเป็นต้นมาคาร์โลวจะต้องเดินโขยกเขยกออกไปชะเง้อชะแง้มองหามนต์มีนาที่ชายทะเลทุกวัน!! และจะยินยอมเดินกลับบ้านพักเมื่อได้พูดคุยกับเด็กสาวจนพอใจ จนเป็นกิจวัตประจำวันที่บอดี้การ์ดทุกคนคุ้นชิน การติดตามไปคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ จึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อมีคำสั่งห้ามอย่างแข็งขันของคาร์โลวที่ไม่ต้องการให้เด็กสาวตื่นตกใจยามเห็นบอดี้การ์ดหน้าเข้มคอยเฝ้าดูแลตัวเขาเอง
ความลับเรื่องฐานะของคาร์โลวยังเป็นความลับ? แต่มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ชายหนุ่มยังไม่ได้บอกให้มนต์มีนาทราบเรื่อง เพราะไม่อยากให้เด็กสาวอย่างมนต์มีนามีแววตาที่มองคาร์โลวเปลี่ยนไป หลังจากรู้ถึงชาติกำเนิดและฐานะของตัวเขาเอง ชายหนุ่มยังไม่อยากผิดหวังเพราะเด็กสาวอย่างมนต์มีนายังคงมีความใสซื่อน่ารักน่าเอ็นดู จนไม่อยากให้บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไปจากเดิม
“มีนา พี่สอนภาษาให้มีนาเอาไหม? ดีกว่ามานั่งคุยเรื่อยเปื่อยเสียเวลาฟรีเสียอีก พี่โตที่ต่างประเทศ ภาษาแข็งแรงเอามาสอนมีนาบ้างดีกว่า” คาร์โลวเอ่ยปากอาสาสอนภาษาอังกฤษให้มนต์มีนา เมื่อทุกครั้งที่มนต์มีนามาหามักจะติดตำราเรียนมานั่งทบทวนอยู่เสมอ
“จริงหรือเปล่าพี่ชาร์ล อย่ามาหลอกมีนานะ มีนาสมองทึบ!! เรียนไม่เก่ง พี่ชาร์ลอย่าเบื่อเวลาสอนมีนาก็แล้วกัน” เด็กสาวยิ้มแป้นอวดฟันสวยเรียงเป็นระเบียบ แววตาจัดจ้าตื่นเต้นยินดี