บทที่1.แรกพบ...
“มีนาเหรอ...น่ารักดี เรียกพี่ว่านพก็ได้ เพราะพี่น่าจะแก่กว่ามีนาหลายปีอยู่ เห็นไหมแค่นี้เราก็รู้จักกันแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแย้มยิ้มติดเรียวปากอย่างน่ามอง
“อื่อ...” มนต์มีนาพยักใบหน้ารับรู้ แต่ไม่ยอมเอ่ยปากพูดตอบออกไป
“มีนาอยู่แถวนี้ไหม ทำไมพี่ไม่เคยเห็นมีนาเลยล่ะ” เขาผินใบหน้ามามองดวงหน้าใสอย่างพินิจ กรอบหน้าหวานหยดแม้จะยังไม่ได้เป็นสาวเต็มตัว คาดว่าเมื่อเติบโตเต็มที่สาวน้อยตรงหน้าคงงามพิลาศพิไลน่าดู ใบหน้าใสมีดวงตากลมโตประดับ แม้จะหมองเศร้า แต่ก็ยังเปล่งประกายความงดงาม จมูกเล็กๆ โด่งนิดๆ ปลายจมูกเชิดขึ้นหน่อยๆ อย่างเจ้าแง่แสนงอน เรียวปากอิ่มย้อยสีแดงสดน่ามอง แม้ไม่ได้แต่งแต้มสีสันอื่นใด
“อื่อ...” มนต์มีนาพยักใบหน้าอีกครั้งเมื่อไม่ต้องการตอบคำถาม
“ฮ่าๆ...” เสียงหัวเราะดังกังวานของพี่ชายคนใหม่ ทำให้มนต์มีนาเหลือบมองอย่างไม่เข้าใจ?
“พี่ชาร์ลหัวเราะอะไรคะ? มีนามีอะไรตลกหรือไง” เสียงหวานใสติดแง่งอนนิดๆ เอ่ยถาม ดวงตากลมโตเหือดแห้งคราบน้ำตา หลงลืมความเสียใจไปชั่วครู่
“เปล่า...ไม่มีอะไร!! แค่ขำมีนาน่ะ เสียงออกจะไพเราะแต่ทำไมถึงไม่อยากพูด”
“...” มนต์มีนาอ้าปากเหวออย่างลืมตัว เมื่อพี่ชายคนใหม่เอ่ยชมเสียงหวานๆ ของตัวเอง พวงแก้มใสซับสีเลือด รู้สึกเอียงอายตามประสาสาวน้อยแรกแย้มที่ไม่เคยรู้สึกใจเต้นวิบวับ แบบนี้กับผู้ใดมาก่อน
“อ้าว...ดูซิอายพี่เสียแล้วพี่ไม่ได้แกล้งชมมีนานะ เสียงมีนาฟังแล้วเพลินดี เหมือนเสียงแมวที่ร้องแง้วๆ ครางออดอ้อนเวลาหิวนม...ฟังแล้วเราเพลิดเพลินดีจัง”
“มีนาไม่ได้อายพี่ชาร์ลนะคะ แค่ไม่เคยมีใครชมว่ามีนาเสียงเพราะแค่นั้น ส่วนมากจะบอกว่ามีนาดัดเสียงทำเสียงเล็กเสียงน้อยน่ารำคาญต่างหาก” เด็กสาวเอ่ยแก้ตัวเสียงอุ๊บอิ๊บ ก้มใบหน้าหลบสายตาหวานฉ่ำของพี่ชายคนใหม่ที่ทำให้หัวใจเต้นโครมคราม จนหวั่นกลัวว่าพี่ชายจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นระรัว
เสียงพูดคุยกันอย่างถูกคอของเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่คุยกันได้ทุกเรื่อง...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร!! มนต์มีนาเอียงคอฟังเรื่องวีรกรรมโลดโผนของคาร์โลว พร้อมกับห่อปากทำตาโต รู้สึกทึ่งที่พี่ชายคนใหม่มีโอกาสได้พบเจอเหตุการณ์ตื่นเต้นได้บ่อยๆ ส่วนคาร์โลวก็รู้สึกภูมิใจที่มีคนชื่นชมวีรกรรมของตัวเอง ทั้งที่คนรอบข้างส่ายหน้าเอือมระอา จึงเล่าเรื่องต่างๆ ถ่ายถอดให้เด็กสาวฟังอยากนึกสนุก เวลาผ่านไปไวเหมือนติดปีก เมื่อความมืดมิดเข้ามาเยือน ยามสิ้นแสงอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้าไป
“มีนากลับก่อนนะคะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง มีนาแอบหลบออกมาจากบ้านเพราะไม่อยากร้องไห้ให้แม่เห็น พี่ชาร์ลจะกลับยังไง? ให้มีนาไปส่งหรือเปล่า พี่ยังไม่ค่อยแข็งแรงดีเลยนี่นา” มนต์มีนาหยัดกายขึ้นยืนเธอปัดฝุ่นทรายที่เกาะกระโปรง พรางเอียงคอมองวงหน้าคมของพี่ชายที่คุยกันถูกคอจนมืดค่ำ
“มีนากลับไปเถอะจ้ะ...ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ซิต้องเป็นห่วงมีนาที่ไม่สามารถไปส่งมีนาด้วยตัวเอง มืดค่ำแบบนี้มันอันตราย พี่จะมองอยู่ตรงนี้จนกว่าจะเห็นว่ามีนาปลอดภัยพี่ถึงจะกลับไปยังที่พักตัวเอง”
“ค่ะ...” มนต์มีนาพยักใบหน้ารับคำ ซ่อนใบหน้าซับสีเลือดของตัวเองกับความมืดสลัวยามค่ำ รู้สึกอบอุ่นกับความห่วงใยของพี่ชายคนใหม่ น้ำเสียงจริงจังกับแววตามั่นคง ทำให้สาวน้อยแรกแย้มแบบมนต์มีนาหัวใจแกว่งไกว
เด็กสาวหมุนกายกลับ รีบเดินเร็วๆ ตรงกลับบ้านพักของตัวเองพร้อมกับความอบอุ่นจากสายตาของพี่ชายคนใหม่ที่โอบล้อมอยู่รอบๆ ตัว ยามที่พี่ชายมองตามจนตัวเองหายลับไปจากสายตา มนต์มีนาหมุนกายกลับมาโบกไม้โบกมือให้คาร์โลวอย่างร่าเริง เมื่อเดินห่างไป และใกล้จะถึงที่บ้านพัก รอยยิ้มสวยแต้มอยู่บนเรียวปากอิ่ม เมื่อลืมความหม่นหมองลงไปได้บางส่วน
คาร์โลวหยัดกายลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ โขยกเขยกพาตัวเองกลับไปยังที่พักได้อย่างปลอดภัยแม้จะใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิมก็ตาม