...เมียรักสวมรอยแค้น… บทที่2...
เสียงหวานเย็นหู เหมือนกำลังนั่งฟังตัวเองพูด สมัยเด็กๆ คนรอบตัวเธอไม่มีคนไหนจำเด็กแฝดอย่างเธอกับน้องสาวได้ทันที เนื่องมาจากเธอกับน้องสาวเหมือนกันแทบแยกไม่ออก แม้แต่พ่อกับแม่ยังแยกลำบาก คนรอบตัวหรือจะจำได้
“ญา ช่วยหวาด้วย” ยี่หวาข่มความอาย ตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือจากน้องสาวที่ไม่ได้พบหน้ากันมานานกว่ายี่สิบปี
“หวาอยู่ไหน ญาจะไปหา” ไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจ ความผูกพันในสายเลือดเข้มข้นกว่าสิ่งใด ญาดาเลยตอบกลับไปทันที
ยี่หวาบอกเส้นทาง หลังวางสายเธอหันไปมองบุตรชาย พร้อมกับหาทางกันปกปักออกไปจากบ้าน เรื่องนี้ควรมีทางออก เธอเข้มแข็งไม่พอสำหรับการแก้แค้นหญิงโฉด ชายชั่ว แต่สำหรับญาดาที่แก่นกะโหลกมาตั้งแต่เด็กๆ ญาดาน่าจะมีทางสำหรับการทวงคืน
ความแค้นจุกอกไม่เคยได้ระบายออก ยี่หวากดอัดความคั่งแค้นเอาไว้ในใจ เธอยิ้มเครียด ตอนที่เดินกลับเข้าไปหาบุตรชายพร้อมกับกำเงินสองร้อยบาทสุดท้ายแน่น
“ปก ไปหายายก่อนนะ แล้วแม่จะตามไป”
อย่างน้อยมารดาก็น่าจะพอมีข้าวปลาให้บุตรชายกิน เงินก้อนสุดท้ายนี่ ใช้สำหรับเป็นค่ารถ ยี่หวาจูงมือบุตรชายออกจากบ้าน มีกระเป๋าใบเล็กสะพายไว้ที่หัวไหล่ ในนั้นมีแค่เสื้อผ้า ไม่มีแม้แต่ขนมกินเล่นสักชิ้น
ปกปักเป็นเด็กพูดน้อย แต่เข้าใจอะไรๆ ดี
เด็กชายไม่แย้งมารดาสักคำ แม้จะรู้สึกหน่วงๆ ในอก และตอนที่โบกมือลาบุตรชายที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ยี่หวาฝืนยิ้มเต็มที่ และย้ำให้บุตรชายใจชื้น “สองสามวันแม่จะไปรับนะปก อย่าดื้อกับยายล่ะ”
เกือบสองชั่วโมง รถยนต์ไม่คุ้นตาก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านพักหลังเล็กที่ยี่หวาอยู่กับลูกแค่สองคน ผู้หญิงรูปร่างเหมือนกับเธอ แต่ท่าทางแกร่งกว่าสิบเท่าก้าวเท้าลงมาด้วยความรีบร้อน ญาดากดโทรศัพท์โทร.หาพี่สาวกว่าร้อยรอบ ไม่มีเสียงตอบรับ เธอร้อนใจและสังหรณ์ใจพิกล ความเร็วที่เคยใช้ขับขี่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า ตามที่ความร้อนในกายจะพุ่งขึ้นสูง เสียงเหยียบเบรกดังสนั่น ฝุ่นผงตลบเป็นม่านสีน้ำตาลอ่อน ญาดาถลาเดินขึ้นบันไดทั้งที่ยังไม่ทอดรองเท้า เธอกวาดตามองหาพี่สาว แต่สิ่งที่ได้เห็นทำเอาเข่าตนเองแทบทรุด
ยี่หวานั่งอยู่กลางบ้าน หลังพิงเสาไม้เก่ากลางเรือน ท่าทางดูอ่อนเพลียเหมือนคนใกล้หมดแรง
“หวาๆ เกิดอะไรขึ้น” ญาดาจับหัวไหล่พี่สาวเขย่าแรงๆ จนเปลือกตาที่ปิดสนิทขยับขยุกขยิก
“คุณญา ท่าจะไม่ดีแล้วครับ รีบคุณหวาพาไปโรงพยาบาลเถอะครับ”
เสียงทุ้มๆ ของคนงานที่ญาดาไว้ใจเตือนเบาๆ หลังมองแก้วเปล่าที่มีคราบสีขุ่นๆ ของบางอย่างติดอยู่บริเวณข้างแก้ว
“เร็วๆ เลยค่ะลุงเทิด”
มือสีคร้ามแดดช้อนอุ้มยี่หวาที่ตัวอ่อนลงจากบ้าน ญาดาเดินตามมาติดๆ เธอฉวยหลักฐานที่พี่สาวทิ้งไว้ติดมือมาด้วย ญาดาอาสาเป็นคนขับเอง เทิดเลยนั่งประคองยี่หวาไปทางด้านหลัง ชั่วเวลาไม่ถึงสิบนาทีและบ้านพักของปกป้องก็อยู่ห่างจากบ้านพักหลังอื่น คนรอบตัวปกป้องเลยยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนี้
และโชคดีอีกอย่าง...ยี่หวาไม่ค่อยออกมานอกบ้าน คนในเมืองเลยไม่รู้ว่ายี่หวาเป็นใคร ในเมื่อญาดาใช้บัตรประชาชนของตัวเองสำหรับทำประวัติคนไข้ให้พี่สาว เธอเม้มปากระหว่างรอยี่หวาออกจากห้องฉุกเฉิน เธอใช้เวลาเดินทางนานเกินไป
ผลสุดท้าย แม้แต่ลมหายใจของยี่หวาเธอก็ยื้อไว้ไม่ได้
ญาดาน้ำตาไหลพราก กระบอกตาแดงก่ำ เธอจำได้แต่เสียงสะอื้นสุดท้ายที่ได้ยิน พร้อมกับความแค้นที่ผุดขึ้นในอก
ใครทำอะไรพี่สาวของเธอ คนพวกนั้นต้องได้รับผลกลับไป...เท่าๆ กัน
บทที่3.เมล็ดความแค้นที่ถูกฝังลงดิน
“ลุงเทิด สืบให้ญาหน่อย ใครทำให้หวาเป็นแบบนี้”
ญาดาไม่บอกเรื่องการตายของยี่หวาทั้งพ่อและแม่ เธอต้องรู้ก่อนว่าอะไรทำให้ยี่หวาคิดสั้น ใครเป็นคนบีบคั้นให้ยี่หวาเลือกทางนี้ เธอตัดสินใจจัดงานศพให้ยี่หวาเงียบๆ พอเสร็จสิ้นพิธี ส่งพี่สาวไปอีกโลกหนึ่งเรียบร้อย จากนี้ไปคือการตามทวงบัญชีแค้นกับทุกผู้ทุกคนที่ทำกับยี่หวา
“จะดีเหรอครับคุณญา คุณท่าน”
“อย่าห้ามญาเลยลุงเทิด และหากพ่อรู้ พ่อก็คงคิดเหมือนญานั่นแหละ”