บท
ตั้งค่า

4/1 เมื่อคนเก่าอยากมีบทบาท

หนูเดินกลับมาพร้อมกับจานขนมและน้ำหนึ่งแก้ว ปากก็ถามในขณะที่เคี้ยวขนมไปด้วย

“ทำไมต้องระแวง มีอะไรให้นินทาเยอะแน่ ๆ เลย”

สามีแซวภรรยาแบบทีเล่นทีจริง แต่หนูนาก็ถามไปอย่างนั้นเธอคิดว่าตัวเธอไม่มีอะไรมากมายให้พูดถึงอยู่แล้ว

กริ๊ง กริ๊ง

เสียงโทรศัพท์ของภูษิตดังขึ้นมาขัดจังหวะ พอชายหนุ่มมองหน้าจอว่าใครโทรมา เขาก็ทำท่าจะไม่รับ หนูนาตาไวมองทันว่าปลายสายที่โทรมาถูกบันทึกชื่อว่า เมย์

“พี่ภูรับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูนากับแม่จะขึ้นไปเก็บของบนห้องนอนว่าจะขนไปบ้านนู้นค่ะ”

หัวใจของหนูนามันเต้นแรงกว่าปกติ ใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนไปหมด กนกวรรณสังเกตได้ทันทีว่าลูกสาวของเธอกำลังโมโห

“คงไม่มีอะไรหรอกลูก อาจจะเป็นเพื่อน”

กนกวรรณพยายามปลอบใจลูกสาวทันทีเมื่อขึ้นมาบนห้องนอนขั้นสองของบ้าน

“ถ้าไม่มีอะไร ทำไมต้องทำท่าไม่กล้ารับ หนูนาไม่โวยวายหรอกค่ะคุณแม่ เรื่องบางเรื่องมันต้องใช้เวลา พี่ภูอาจจะมีผู้หญิงเข้ามายุ่งในชีวิตมาก่อนที่จะแต่งงาน หนูจะให้เวลาเขาจัดการตัวเองให้เรียบร้อย”

ถึงแม้หนูนาจะดูพูดจามีเหตุผลมากขึ้น แต่คนเป็นแม่กลัวใจลูกสาวจะอดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่จริง ๆ โดยเฉพาะอารมณ์หึงของผู้หญิง ปกติมันก็น่ากลัวอยู่แล้ว และยิ่งเป็นหนูนาด้วย กนกวรรณหวาดแทนลูกเขยเลย

“พอดีเพื่อนพี่โทรมาขอโทษเรื่องที่ไม่ได้มางานแต่ง”

ชายหนุ่มตามขึ้นมาบนห้องนอนทันทีหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ และรีบบอกภรรยาทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา

“หนูนาไม่ได้ถามค่ะ”

ดีนะที่แม่ยายเตือนไว้ก่อนว่าลูกสาวของเขาเวลาโกรธขึ้นมาไม่ธรรมดา

“พี่ภูช่วยขนนิยายลงไปที่รถให้หนูนาหน่อยมีแต่เรื่องที่ชอบทั้งนั้น นางเอกในเรื่องแซบทุกเรื่อง ตบได้เป็นตบค่ะ”

แม่ยายลูกเขยมองหน้ากัน แต่ก็ยังยิ้มให้กันได้ เพราะถือว่าแบบนี้ยังแค่เบาๆ

เมื่อทั้งคู่กำลังเดินทางกลับ หนูนาก็หายใจแรงและกำมือตลอด จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจพูดออกมา

“พี่ภูคะ หนูนารู้ว่าพี่ไม่ได้รักหนูนา การแต่งงานเกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้พี่คือผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว พี่ควรจัดการเคลียร์เรื่องผู้หญิงของพี่ให้จบให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นหนูนาจะไปช่วยเคลียร์ให้”

ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะผู้หญิงที่โทรมาคือแฟนเก่าของเขาจริง ๆ ที่เพิ่งเลิกกันก่อนงานแต่งไม่ถึงสัปดาห์

“ขนของอะไรเยอะเลย”

ภาวิณีรีบเดินออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถ

“หนังสือนิยายของหนูนาเองค่ะ”

ลูกสะใภ้ส่งยิ้มหวานให้แม่สามี เพราะเธอคิดว่า ภาวิณีคงรู้สึกขำที่เธอขนนิยายมาเสียหลายลัง

“เป็นนักเขียนก็ต้องชอบอ่านก่อนใช่ไหม ไว้วันหลังแม่จะขออ่านผลงานของหนูนาบ้างนะลูก”

บ้านของครอบครัวพ่อเลี้ยงชนินทร์ วันทั้งวันแทบจะดูเงียบเหงา หนูนาแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงกลางวันคงมีแค่ภาวิณีกับแม่บ้านเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน

“ได้ค่ะคุณแม่ ไว้วันหลัง หนูจะให้คุณแม่ช่วยอ่านต้นฉบับก่อนลงขายด้วยค่ะ”

ความจริงแล้ว หนูนาไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือหรอก แต่หญิงสาวแค่อยากให้แม่สามีไม่เหงาก็แค่นั้นเอง

“ต้องให้พี่เอาออกจากลังด้วยไหม”

ภูษิตเดินตามมาถาม หลังจากที่แม่บ้านและคนสวนช่วยกันยกลังขึ้นไปไว้บนห้องนอนหมดแล้ว

“ไม่ต้องค่ะ เอาไว้ไปจัดที่บ้านใหม่ทีเดียวเลย”

“ได้ครับเจ้านาย”

ชายหนุ่มโค้งตัว เหมือนเป็นการแสดงความเคารพเจ้านายจนหนูนาอดหมั่นไส้ไม่ได้

“คนมีความผิดมักจะทำตัวดีใช่ไหมคะ โดยเฉพาะพวกที่กำลังปกปิดอะไร ยิ่งต้องดีเป็นพิเศษ”

หญิงสาวหันมามองหน้าสามี ด้วยรอยยิ้มที่ดูเหี้ยมโหด จนภูษิตต้องแกล้งยิ้มตอบ เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น

“หนูนาขอตัว ไปเขียนนิยายก่อนนะคะ วันนี้ยังไม่ได้สักหน้าเลย คืนนี้ไม่อยากนอนดึก”

ทุกครั้งที่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ หรือโมโหอะไรมา การเขียนนิยายจะช่วยให้หนูนารู้สึกสบายใจและใจเย็นลง

“มีอะไรหรือเปล่าภู แม่ว่าหนูนาเขาดูไม่เหมือนตอนออกไปจากบ้านเมื่อเช้านะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel