บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

ห้องนอน จากนั้นก็กลับเข้ามาในห้อง ก้มหน้าก้มตางุ่นง่านคล้ายหาอะไรสักอย่าง เมื่อหาไม่เจอก็หันมามองหน้าเธอ

“เห็นกุญแจรถมั้ย”

เขาถามโดยไม่มองหน้าเธอ น้ำเสียงบ่งบอกถึงนิสัยเอาแต่ใจของตัวเอง สองมือลูบคลำกระเป๋ากางเกงพยายามค้นหากุญแจ

“ไม่เห็นค่ะ พี่พีร์ไปลืมเอาไว้ที่ไหนหรือเปล่าคะ”

หญิงสาวฉุกคิดขึ้นได้ว่าเธอไม่ควรจะถามออกไปเช่นนั้น หลังจากโดนคนอารมณ์ร้อนซ้ำยังปากร้ายตอบกลับมาจนเธออึ้ง พูดอะไรไม่ออก

“ถ้ารู้แล้วจะถามเธอหาสวรรค์วิมานอะไร”

เขาก้าวยาวๆ กลับเข้าไปในห้องน้ำ เป็นจังหวะเดียวกันกับสายตาของดาราวดีเหลียบไปเห็นพวงกุญแจรถของเขาตกอยู่ข้างเตียง มันคงหล่นออกมาจากกระเป๋ากางเกงในตอนที่เขาล้มตัวลงนอน อาจจะเป็นเพราะผืนพรมเปอร์เซียหนานุ่ม ที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงกุญแจตกกระทบพื้น

“เจอแล้วค่ะพี่พีร์… ”

เธอรีบเข้าไปก้มเก็บกุญแจขึ้นมาจากพื้นแล้วยื่นให้เขา คนอารมณ์เสียรีบคว้าเอาไปด้วยความรีบร้อน

“พี่พีร์จะไปไหนคะ”

เขาตวัดสายตากลับมามองหน้าเธอเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ราวกับว่าเธอทำอะไรให้เขาโกรธนักหนา

“ถามทำไม… นี่ยังไม่ทันข้ามคืนก็เริ่มออกอาการเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตของฉันแล้วหรือ ลำพังแม่คนเดียวฉันก็รำคาญจะแย่ กรุณาอย่ามาทำหน้าที่ ‘แม่’ อีกคน จะไปไหนมาไหนมันก็เรื่องของฉัน บางทีเราควรตกลงกติกาในการอยู่ร่วมกันเสียใหม่ แต่คืนนี้ฉันไม่ว่างจริงๆ เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน”

“ดาวขอโทษค่ะ”

เขาไม่สนใจจะฟังคำขอโทษจากปากของเธอ รีบผลุนผลันออกไปจากห้องราวกับว่าหญิงสาวเป็นอากาศธาตุ เป็นอะไรสักอย่างที่น่ารำคาญเสียเต็มประดา เหมือนฝุ่นละอองที่เขามองไม่เห็น ไม่มีตัวตนอยู่ในสายตาของเขา ทั้งที่ความจริงดาราวดีไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงหรือก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเขาเลยสักนิด

จู่ๆ น้ำตาของหญิงสาวก็ไหลพรากออกมา นึกในใจว่าก็แค่ถามด้วยความเป็นห่วง แค่อยากชวนคุย ทำไมเขาต้องตีความว่ามันเป็นการวุ่นวายก้าวก่ายชีวิตของเขา

ดาราวดีปาดน้ำตาทิ้ง รีบก้าวตรงไปที่ระเบียง แหวกม่านลูกไม้ที่ขึงอยู่ระหว่างช่องหน้าต่าง ทอดสายตาออกไปนอกระเบียง ได้ยินเสียงคนเอาแต่ใจบีบแตรรถเสียงดังลั่นอยู่ที่หน้าประตูบ้าน อันที่จริงยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็ไม่ได้ชักช้าแต่อย่างใด เพียงแต่มันไม่ทันใจเขาก็เท่านั้นเอง

‘นี่น่ะหรือคืนเข้าหอ?’ หญิงสาวตัดพ้ออยู่ในใจ ว่ามันช่างเป็นวันวิวาห์ที่แปลกประหลาดที่สุด

แม้เธอพยายามนึกไปในทางที่ดีว่าก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ? ที่เขายังไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอเลยสักนิด ทั้งที่ก็มีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในฐานะ ‘สามี’

แต่ถ้าเขาแตะต้องเธอขึ้นมาจริงๆ บางทีอาจจะทำให้เธอหนักใจกว่านี้ก็ได้ ด้วยยังไม่ประสีประสาในเรื่องพรรค์นี้มาก่อนเลยในชีวิต

ครั้นพอครุ่นคิดอีกทีก็กลับกลายเป็นความน้อยใจที่แล่นลิ่วเข้ามาเกาะกุมหัวใจดวงน้อยจนดาราวดีอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ อดคิดไม่ได้ว่าการที่เขาเลือกจะออกไปดื่มสุราสังสรรค์กับเพื่อนๆ แทนที่จะใช้เวลาอย่างที่สามีภรรยาพึงจะปฏิบัติต่อกันในคืนเข้าหอ คงเป็นเพราะว่าเธอไม่ดึงดูดใจ ไม่เย้ายวนใจพอที่จะเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ได้

กลางดึกของคืนนั้น แม้จะไม่คุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ แต่หญิงสาวก็ทิ้งกายลงบนเตียงแล้วหลับลงง่ายดาย เพราะความอ่อนล้า เหนื่อยกับงานวิวาห์มาตลอดทั้งวัน กระทั่งมาสะดุ้งตื่นก็ตอนที่รู้สึกว่าเตียงด้านที่ยังว่าง ยวบยุบลงไปตามแรงกดทับจากน้ำหนักตัวหนักอึ้งของร่างสูงใหญ่ที่ล้มตัวลงมาแรงๆ โดยไม่สนใจว่ามันอาจรบกวนการนอนหลับของเธอ

‘พี่พีร์’ ดาราวดีรู้สึกตกใจ มือเรียวเอื้อมออกไปกดสวิทซ์โคมไปที่หัวเตียง แสงไฟสว่างวาบจับเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มที่นอน

คว่ำหน้า แก้มยับแนบไปกับพื้นที่นอน ใบหน้าของพีรวิทย์ในยามนี้แดงก่ำด้วยความเมา เนื้อตัวของเขาคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า

“พี่พีร์เมามากนะคะ… ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ”

เธอเอื้อมมือออกไปทำท่าว่าจะแตะแขนข้างหนึ่งของเขาเพื่อปลุกให้คนเมารู้ตัว ครั้นแล้วความลังเลก็ทำให้ต้องชักมือกลับ

“พี่พีร์คะ… ”

เธอเรียกเบาๆ อีกครั้ง เมื่อร่างกำยำยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติง

“อารายยย… อย่ามายุ่งน่า”

เสียงตอบยืดยาน อู้อี้อยู่ในลำคอของพีรวิทย์ เขายังคงอยู่ในท่านอนคว่ำหน้างัวเงีย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel