บทที่ 9 สวยจังเลย
“วิภา ผมอยู่กับคุณตลอดคุณก็เห็น งานศพพ่อของหนูนาผมก็อยู่กับคุณ แค่นี้คุณยังไม่พอใจอีกเหรอ คุณน่าจะรู้ว่าผมไม่ได้รักหนูนา ที่ผมทำทั้งหมดเพราะพ่อบังคับ ผมเหนื่อยที่จะพูด หากคุณไม่เข้าใจผมกลับดีกว่า” ชานนท์เตรียมลุกขึ้นเดินออก
“เดี๋ยวค่ะ วิภาเชื่อคุณก็ได้” ดาราสาวจำใจพูดสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึก ดวงตากลมไหวระริกพลางเหนี่ยวรั้งแขนเขาไว้
“ถ้าคุณเชื่อผมแต่แรก เราคงไม่เสียเวลามานั่งทะเลาะกันแบบนี้หรอกนะคนดี” ชายหนุ่มก้มหอมที่แก้มนวลฟอดใหญ่เป็นการปลอบใจ ขอเพียงมีเขาอยู่ข้างกายไม่ว่าอะไรหญิงสาวก็ยอมทั้งนั้น เธอเอนกายตามน้ำหนักตัวที่ชายหนุ่มทิ้งลงช้าๆ ก่อนกิจกรรมบนเตียงจะดำเนินต่อเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เขาเป็นของเธอไม่ว่าใครหน้าไหนจะแย่งไปไม่ได้ทั้งนั้น
ไม่กี่วันหลังจากกำหนดวันเวลาฮันนีมูนแล้ว สองสามีภรรยาเดินทางด้วยเครื่องบินมายังจุดหมายปลายทางที่ราเชนทร์ได้วางแพลนเอาไว้ รถตู้ราคาแพงพร้อมคนขับมาจอดรอรับที่สนามบินเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสองเดินทางต่อไปยังที่พักกลางขุนเขา บรรยากาศเงียบสงบ สองข้างทางปกคลุมไปด้วยหมอกสีจางๆ หนูนาอดหวนนึกถึงบิดาและมารดาไม่ได้ ความเจ็บปวดของการพลัดพรากยังคงฝังรากลึกมิอาจถอนออกได้
“ทานหน่อยไหม” ชานนท์ยื่นขนมปังให้ หลังจากไม่เห็นเธอแตะอาหารตั้งแต่เช้า
“ขอบคุณค่ะ” หนูนาหันไปรับพร้อมกับยิ้มอ่อน ร่างกายสะท้านกับอุณหภูมิในรถ พลันครั่นเนื้อครั่นตัวบอกไม่ถูก เธอหันไปหยิบเสื้อแขนยาวขึ้นมาสวมใส่
“คุณหนาวเหรอ” ชานนท์ถามเสียงเรียบ
“นิดหน่อยค่ะ” ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมตัวเองออกแล้วสวมทับให้เธออีกชั้น ก่อนจะหันมองวิวทิวทัศน์ด้านนอก แม้ไม่อยากมาตามคำของบิดา แต่เมื่อมาถึงแล้วกลับรู้สึกดีอย่างมาก เพราะบรรยากาศแบบนี้หาไม่ได้จากกรุงเทพ หญิงสาวมองใบหน้าตอนเผลอของเขา ก่อนจะยิ้มอ่อนแล้วเอนตัวเพื่องีบหลับด้วยเพราะอ่อนเพลียอย่างมาก
หลังจากเดินทางมาถึงที่พักในยามเย็น บรรยากาศรีสอร์ตเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกที่กำลังส่งเสียงแจ้ว หันมองไปรอบๆ เต็มไปด้วยภูเขาเขียวขจี สูงต่ำไล่ระดับไป เมื่อทอดสายตาไปบนยอดสุดพบหมอกจางๆ ให้เห็นรำไร อากาศเย็นฉ่ำสบายตัว ดวงตาคมหันมองกลับไปในรถตู้ พบร่างบางยังคงนอนหลับไม่ได้สติ
“คุณๆ” มือหนาตบเบาๆ ที่แขนเพื่อเรียก คนงัวเงียตื่นขึ้นมาพลางมองรอบๆ ก่อนจะขยับกายแล้วลงจากรถ รอยยิ้มแสนสวยปรากฏชัดเมื่อเธอมองบรรยากาศรอบๆ อย่างมีความสุข
“สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวพูดกับเขา โดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ทิวเขาขจีนั้น พนักงานที่บิดาจ้างไว้พากันกรูเข้ามาหอบสัมภาระเข้าไปเก็บไว้ในห้องพัก
