บทที่ 7 ขอแล้วกัน
หนูนาหันมายิ้มหวานพลางยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณ ในความเมตตาของราเชนทร์ ขณะที่มือหนายังคงลูบที่ศีรษะไม่ยอมปล่อย เขาตั้งมั่นว่าจะทำทุกอย่างให้เด็กทั้งสองได้ครองคู่กัน ซึ่งเป็นความต้องการสุดท้ายของวิรุณ เพราะที่ผ่านมาเพื่อนรักอย่างวิรุณเสียสละหลายอย่างเพื่อเขา และการตอบแทนในครั้งนี้ แม้ต้องแลกด้วยอะไรเขายอมทั้งนั้น
หลังจากพิธีกรรมเสร็จสิ้น ราเชนทร์ให้หนูนากลับพร้อมกับชานนท์ที่เขาขับรถมาเอง ชายหนุ่มไม่มีท่าทีคัดค้านพลางเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นนั่ง และรัดเข็มขัดให้ก่อนรถแล่นออก หนูนานั่งเงียบมาตลอดทาง บางครั้งเขาแอบมองเธอเผลอเห็นน้ำตาไหล แต่ร่างบางเหมือนรู้ทันรีบเช็ดน้ำตาออก
“ทานอะไรหรือยัง” ชานนท์เป็นฝ่ายเอ่ยถาม
“ฉันไม่หิวค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาเอื้อมมือไปหยิบขนมปังด้านข้างมาส่งให้
“เจ้านี้อร่อย ผมแวะซื้อตอนขามา” สายตาอ่อนล้าของหนูนาหันมองชานนท์ก่อนเอื้อมมารับ
“คุณนั่งมองมันแบบนั้น มันไม่ทำให้คุณอิ่มหรอกนะ” ชานนท์พูดขัด หลังจากสังเกตเห็นเธอเอาแต่นั่งมองขนมปัง แล้วไม่คิดจะหยิบขึ้นมากิน หญิงสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อยเพราะกำลังเหม่อลอยคิดเรื่องอื่น
“ทานสิ” สายตาของชายหนุ่มส่อการบังคับ ก่อนที่หนูนาจะค่อยๆ หยิบขึ้นมากินตามคำสั่งอย่างว่าง่าย พร้อมกับรอยยิ้มของชานนท์ปล่อยออกมาด้วยความโล่งอก เท้ากดเหยียบคันเร่งเพื่อให้ทันรถตู้ของบิดาที่ล่วงหน้ามาก่อนหลายนาที
“คุณชานนท์กลับมาแล้ว” เต้าฟูพูดด้วยน้ำเสียงดีใจถึงที่สุด ทว่าสายตาของราเชนทร์ดูเคร่งขรึมตลอดเวลา จนทำให้ทั้งสองจับความผิดปกตินั้นได้ หลังจากยกน้ำมาต้อนรับเสร็จ จึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ตามเดิม ปล่อยให้เจ้านายทั้งสามได้นั่งเจรจากัน
“ตั้งแต่แต่งงานมา ทั้งคู่ยังไมได้ฮันนีมูนกันเลย”
“เวลาแบบนี้หนูนาคงไม่อยากไป”
“หนูนาหรือแกกันแน่ที่ไม่อยากไป ฉันรู้สันดานแกดีกว่าใครชานนท์ หรือแกจะขัดคำสั่งฉัน” ชานนท์ส่ายศีรษะทำหน้ากวนๆ แล้วเดินไปนั่งยังโซฟา หันมองใบหน้าเรียบร้อยของภรรยา
“หนูนา เวลาแบบนี้หนูควรไปพักผ่อน ทำใจให้สบาย ยิ่งอยู่แบบนี้ยิ่งทำให้คิดมาก พ่อได้ให้คนจองที่พักไว้ที่แม่ฮ่องสอน
“พ่อครับ จะไปทำไม ที่นั่นไม่เห็นมีอะไร”
“ฉันก็ให้แกไปสงบจิตใจไง” ราเชนทร์สวนขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่ง ลูกชายตัวยุ่งยังคงคัดค้านอยู่เนืองๆ
“ฉันจองตั๋วเครื่องบินไว้ให้แล้ว บอกลาแม่ดารานั่นเสีย แล้วอย่าให้ฉันรู้ว่าตามกันไปถึงโน่น”
“พ่อไปก่อนนะลูก ทำใจให้สบาย บัตรนี้ไม่จำกัดวงเงิน จะใช้อะไรก็ตามแต่ใจ พ่ออนุญาต” ราเชนทร์ยื่นบัตรเครดิตให้หญิงสาว ก่อนจะหันเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ไป พร้อมกับชานนท์เดินตามไปติดๆ
“พ่อครับ มันไม่ยุติธรรม”
“อะไรของแกอีก”
“พ่อระงับบัตรผม แต่กลับเอาไปให้หนูนา มันถูกต้องที่ไหนกัน” เขาเค้นเสียงเบา ทว่ายังคงความไม่พอใจอยู่มาก
“เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับแก เงินเดือนของแก แกก็ใช้ไปสิ แต่เงินในบัตรพวกนี้มันเงินฉัน”
“ลำพังเงินเดือน พ่อก็รู้ว่ามันไม่พอ” ชานนท์พยายามอธิบายเพื่อต่อรอง
“มันไม่พอ เพราะแกใช้เงินฉันจนเคยตัว พอกันที หยุดต่อรองกับฉัน แล้วหน้าที่ของแกคือกลับไปดูแลหนูนาให้ดี ตราบเท่าที่ฉันพอใจ บัตรของแกก็จะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม” ราเชนทร์กำชับแล้วเบี่ยงตัวขึ้นรถออกไป เขาเหนื่อยหน่ายกับลูกชายคนนี้เกินทน ชายหนุ่มกัดฟันแน่นทว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เขาจึงหันหน้าเดินกลับมายังหญิงสาว
“ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปงานพ่อคุณ” เขาบอกน้ำเสียงราบเรียบ ทว่ายังคงวางมาดเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้สนใจขนาดนั้น” ชายหนุ่มเอียงศีรษะเล็กน้อย
“ไม่สนใจ?”
“ฉันขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ” หญิงสาวพูดจบจึงเบี่ยงตัวเดินออก
“เดี๋ยวก่อน” เท้าเล็กค่อยๆ หยุดก้าว แล้วรอฟังคำของสามีที่ไม่เคยได้ทำหน้าที่ได้ดีเลยสักนิด
“บัตรนั้นถ้าไม่ได้ใช้ ผมขอแล้วกัน ถึงแม้ไม่ใช่บัตรผม แต่ผมก็มีวิธีใช้มัน” หญิงสาวขมวดคิ้ว ไม่แปลกใจที่ราเชนทร์เหนื่อยหน่ายกับลูกชาย จนถึงขั้นใช้วิธีการบังคับต่างๆ นาๆ ร่างบางเบี่ยงตัวหันกลับมา มองตรงไปยังนัยน์ตาคู่คม ที่ในเวลานี้กำลังหลงหญิงอื่นอย่างหัวปักหัวปำ
“ต่อให้ฉันไม่ได้ใช้บัตรนี้ ฉันก็จะไม่ให้คุณค่ะ พ่อคุณเหนื่อยกับคุณมามาก ดังนั้นฉันไม่มีวันส่งเสริมให้ท่านต้องเหนื่อยใจไปมากกว่านี้” ดวงตาเล็กมองชานนท์ด้วยสายตาแน่วแน่ พลางกำบัตรในมือแน่น
“งั้นก็ลองดูกัน” ชานนท์เดินเข้าไประยะประชิด จับมือบางขึ้นมาแล้วพยายามดึงบัตรเครดิตออกจากมือของหญิงสาว แม้จะมีกำลังน้อยนิดแต่เธอไม่ยอมปล่อยง่ายๆ พยายามเบี่ยงตัวหลบ ก่อนที่อ้อมกอดของชานนท์จะเข้ากอดรัดตัวเธอจนไม่อาจดิ้นไปทางใดได้ กลิ่นหอมละมุมจากกายบาง กระจายฟุ้งที่ปลายจมูกของคนตัวใหญ่ ก่อนที่ร่างเล็กจะผลักเขาออก จนตัวเองเซไปชนกับราวบันไดแล้วเสียหลักล้มลงเข่ากระแทกพื้นอย่างแรง
“คุณ!” ชานนท์รีบวิ่งเข้ามาประคอง
