7 คู่คิด
พลอยลลินณ์ตื่นนอนเช้ากว่าปกติเพราะวันนี้นัดกับภาคินว่าจะออกไปดูโครงการบ้านจัดสรรด้วยกัน จริงๆ แล้วเรื่องนี้ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องลงไปดูเองก็ได้ แต่เพราะรู้สึกแปลกที่คนโทรศัพท์มาบอกไม่ใช่หัวหน้าวิศวกรที่รับผิดชอบเรื่องนี้
หญิงสาวรีบลงมายังร้านหน้าคอนโดมิเนียมสั่งกาแฟร้อนให้กับภาคินหนึ่งแก้วส่วนของตัวเองดื่มมาจากบนห้องเรียบร้อยแล้ว
เมื่อรถของภาคินมาจอดเธอก็รีบเปิดประตูข้างคนขับขึ้นไปนั่งทันที
“สวัสดีค่ะบอส กาแฟค่ะ”
“ขอบใจนะมัดหมี่คุณนี่รู้ใจผมจริงๆ เลย” เขารับกาแฟไปดื่มพร้อมกับเอ่ยชม
“บอสคะ ก่อนไปที่โครงการมัดหมี่ว่าเราไปที่บริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างก่อนดีไหมคะ”
“ทำไมล่ะ”
“มัดหมี่เห็นว่าข้อมูลของโครงการนี้กับโครงการที่เสร็จแล้วมันต่างกันมากจนน่าสงสัยค่ะ”
“ก่อสร้างคนละปีมันก็ต้องต่างกันสิ ราคาวัสดุก็แพงขึ้นทุกปีนะ”
“มัดหมี่ไม่ได้หมายถึงราคาวัสดุค่ะ แต่หมายถึงจำนวนวัสดุที่ใช้ต่างหากล่ะคะ บอสดูนี่นะคะ” หญิงสาวยื่นแทปแล็ตที่เธอทำข้อมูลเปรียบเทียบสองโครงการให้กับภาคินดู
“ต่างกันจริงๆ ด้วย ที่คุณอยากไปที่บริษัทซัพพลายเออร์เพราะอยากรู้จำนวนที่แท้จริงใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เราต้องรู้จำนวนของที่เขาส่งให้เราจริงๆ ว่ามันตรงกับที่เรารับไว้หรือเปล่า”
“ส่วนต่างแต่ละอย่างมันไม่มากเลยนะ แต่ถ้ารวมทุกอย่างก็หลายล้าน ผมไม่รู้ว่าที่กระเบื้องแตกออกนั้นเป็นเพราะมีคนเปลี่ยนสเปกกระเบื่องหรือเปล่า”
“นั่นสิคะ”
“คุณโทรบอกฝั่งนู้นหรือยังว่าเราจะเข้าไป”
“เมื่อกี้ระหว่างรอบอสมารับมัดหมี่ประสานงานไปแล้วค่ะ เขาไม่ยอมส่งทางเมล เขาอยากเจอบอส”
“ได้สิไม่มีปัญหาบริษัทอยู่ตรงไหนนะ ผมจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ คุณกด GPS ให้ผมหน่อย”
พลอยลลินณ์กด GPS เพื่อไปยังบริษัทซัพพายเออร์ใช้เวลาฝ่ารถติดเกือบหนึ่งชั่วโมงจึงจะมาถึง
“เชิญทางนี้ค่ะคุณภาคิน” พนักงานต้อนรับของบริษัทคู่ค้ายืนรออยู่ก่อนแล้ว พอชายหนุ่มขึ้นไปถึงด้านบนก็ได้เจอกับคุณอลงกรณ์เจ้าของบริษัทที่รอต้อนรับด้วยตัวเอง
“สวัสดีครับคุณกรณ์ไม่เจอกันนานเลยสบายดีนะครับ”
“ผมสบายดีคุณล่ะ ช่วงนี้งานเยอะเลย ผมเองก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย”
“ก็เราคู่ค้ากันนี่ครับ ว่าแต่ผมมารบกวนคุณหรือเปล่า”
“ไม่หรอกครับ ผมดีใจด้วยซ้ำที่ได้เจอคุณสักที”
“คุณกรณ์พูดเหมือนอยากเจอผมเลยนะครับ”
“ครับ ผมเคยติดต่อคุณไปเรื่องสินค้าที่สั่งแต่เลขาของคุณบอกว่าคุณรู้เรื่องแล้วละให้จัดการตามนั้นได้เลย”
“ขอโทษนะคะ ฉันขอถามหน่อยว่าทางคุณติดต่อกับเลขาที่ชื่ออะไรคะ” พลอยลลินณ์ถามขึ้นเพราะจำได้ว่าตัวเองไม่เคยได้รับการติดต่อจากบริษัทนี้เลยสักครั้ง
“นิติดต่อกับคุณพรนภาค่ะ”
“ผมเกรงว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดนะครับ เลขาของผมชื่อพลอยลลินณ์คนที่ผมพามาด้วย แต่คนที่คุณพูดถึงเป็นเลขาของคุณสุวิจักขณ์”
“แต่นิบอกประชาสัมพันธ์ให้ต่อสายไปที่หน้าห้องคุณภาคินนะคะ”
“ผมพอจะเดาออกแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้ายังไงผมรบกวนขอรายละเอียดสินค้าที่คุณส่งให้เราทั้งหมดได้ไหมครับ”
“ขอโทษนะครับคุณภาคิน ทางเราไม่รอบคอบเลยทำให้คุณเกิดความเสียหาย”
“คุณไม่ผิดหรอก ผมว่าคนของผมมากกว่าที่ผิด”
“แล้วคุณจะเอายังไงต่อ จะให้ผมเป็นพยานก็ได้นะครับ”
“ผมคงต้องขอข้อมูลไปเป็นหลักฐานก่อนจากนั้นก็หาพยานบุคคลอีกที เรื่องนี้คงไม่ยากเท่าไหร่เพราะถ้าถึงตาจนแล้วคนที่อยู่ด้านล่างสุดของห่วงโซ่นี้ก็จะต้องรับแสดงตัวเพราะกลัวความผิด”
“ผมขอให้คุณจัดการปัญหาภายในได้นะครับ”
“ขอบคุณครับ”
“ผมขอถามหน่อยเถอะคุณภาคิน ว่าคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
“บ้านในโครงการมีปัญหานิดหน่อย ผมเลยให้เลขารวบรวมข้อมูลพวกวัสดุอุกรณ์ที่ใช้แล้วเธอก็สังเกตเห็นความผิดปกติ”
“เลขาคุณช่างสังเกตจริงๆ” คุณอลงกรณ์เอ่ยชมอย่างจริงใจ
“ขอบคุณค่ะ” พลอยลลินณ์ยกมือไว้
“คุณกรณ์เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับนะครับ ผมไม่อยากให้คนอื่นรู้ไม่ว่าจะบริษัทคุณหรือบริษัทผม”
“ได้สิครับไม่มีปัญหา
“ผมขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูล วันนี้ผมขอตัวก่อน”
“ถ้าอยากให้ผมช่วยอะไรก็ติดต่อมาได้ตลอดนะครับ”
ภาคินออกจากบริษัทของคุณอลงกรณ์ก็ตรงไปยังโครงการหมู่บ้านจัดสรรทันที หัวหน้าวิศวกรตกใจอย่างมากที่จู่ๆ ผู้บริหารระดับสูงก็เดินทางมาเยี่ยมชมโคงการโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า”
“สวัสดีครับคุณภาคิน จะมาชมโครงการก็น่าจะติดต่อมาก่อนผมจะได้เตรียมต้อนรับ”
“ไม่ต้องทำให้ยุ่งยากหรอกครับ ผมแค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้นเอง”
“เชิญนั่งด้านในก่อนครับ”
“ผมว่าจะเดินดูรอบสักหน่อย ดูเหมือนว่าจะสร้างเกือบเสร็จแล้วนะครับ”
“เหลืออีกไม่ถึง 20 % ก็จะส่งมอบให้ลูกค้าได้ทั้งหมดครับ”
“เสร็จเร็วดีเหมือนกันนะ”
“ครับน่าจะเสร็จก่อนกำหนดนิดหน่อย”
“แบบนี้โครงการหน้าเราคงได้ร่วมงานกันอีกนะคุณปรีชา”
“ยินดีเลยครับ”
“แล้วบ้านที่นี่มีปัญหาอะไรไหม”
“ไม่มีครับ”
“ผมโชคดีจริงๆ ที่มีคุณอยู่ในบริษัทเรา”
“ผมต่างหากละครับที่โชคดีได้ทำงานกับบริษัทใหญ่โต”
“ผมจะกลับแล้วคุณไปทำงานของคุณต่อเถอะนะ”
“ครับคุณภาคิน”
ภาคินกลับขึ้นมานั่งบนรถอีกครั้งพลอยลลินณ์ก็รีบส่งผ้าเย็นที่เธอเตรียมให้กับเขาอย่างรู้ใจ
“เราจะเอายังไงกันต่อคะ เขาไม่บอกปัญหาที่เจอแล้วถ้าจู่ๆ เราขอไปดูบ้านมัดหมี่กลัวว่าพี่รปภ.จะเดือดร้อน”
“ผมว่าจะวนไปด้านหลังโครงการ”
“ค่ะ ทางนั้นต้องออกไปหน้าโครงการแล้ววนเข้ามาอีกที แถวนั้นมีบ้านคนอยู่ด้วยค่ะ บางทีเราอาจจะถามว่าเขาได้ยินเสียงอะไรผิดปกติไหม”
“คุณรู้ใช่ไหมบ้านหลังที่เกิดปัญหาอยู่ตรงไหน”
“รู้ค่ะค่ะพี่รปภ. บอกแล้ว”
ภาคินและพลอยลลินณ์มาถึงบ้านหลังที่รปภ. แจ้งไปเมื่อคืน ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้าน ส่วนพลอยลลินณ์เดินไปถามชาวบ้านแถวนั้นว่าได้ยินเสียงอะไรไหมก่อนจะกลับมาอีก
“ได้เรื่องไหม”
“ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงเหมือนอะไรลั่น มันดังขึ้นหลายครั้ง มัดหมี่ได้คลิปเสียงที่ชาวบ้านอัดไว้ด้วยค่ะ บวกกับคลิปที่พี่รปภ.ถ่ายไว้ก็น่าจะพอเป็นหลักฐานได้
“คุณดีนี่สิ” เขาชี้ไปบนกระเบื้องที่แตกซึ่งไม่ใช่แค่แผ่นสองแผ่นแต่มันแตกเป็นแนวยาว
“เยอะเหมือนกันนะคะ แล้วเป็นแบบนี้ทุกหลังไหมคะ” เธอมองไปตามที่เขาชี้และก็ต้องตกใจเพราะมันเยอะกว่าที่คิดไว้
“เป็นสี่หลังริมอย่างที่ได้รับแจ้งนั่นแหละ ดูเหมือนจะทำไว้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ภาคินหยิบกระเบื้องแผ่นที่แตกขึ้นมาดูก็พบว่าทางด้านล่างมีกาวซีเมนต์ติดอยู่แผ่นละไม่มากซึ่งปกติแล้วจะต้องทากาวให้เต็มแผ่นและยาแนวจะต้องห่างกว่านี้เพื่อป้องกันการแตกกะเทาะของกระเบื้องเวลาที่อุณหภูมิเปลี่ยน
“คุณว่ากระเบื้องหนาถึง 8 มิลไหม”
“ไหนคะ อุ๊ย...” พลอยลลินณ์ตกใจจนสะดุ้งเมื่อเศษกระเบื้องที่เขายื่นให้บาดปลายนิ้วชี้