บท
ตั้งค่า

5 จะพยายามเปิดใจ

ภาคินมายังร้านอาหารที่พลอยลลินณ์จองไว้ให้ เขามองหาผู้หญิงตามที่เห็นในรูปก่อนจะยิ้มเมื่อพบว่าเธอมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีครับคุณแก้วใช่ไหมครับ ผมภาคินครับ” เขาทักทายพร้อมทั้งส่งดอกไม้ที่เตรียมมาให้กับหญิงสาว

“สวัสดีค่ะคุณภาคิน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นและยกมือไหว้ทักทายอย่างสวยงามก่อนจะรับดอกไม้มาถือไว้

“นั่งเถอะครับ คุณแก้วมาถึงนานหรือครับ”

“แก้วมาถึงก่อนหน้านี้ 10 นาทีเองค่ะ”

“หิวไหมครับ ผมขอโทษที่มาช้าพอมีดีงานเร่งนิดหน่อยครับ”

“ยังไม่หิวเลยค่ะ ท่าทางงานคุณภาคินคงจะยุ่งนะคะ”

“ก็ยุ่งนิดหน่อยครับมีโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องดูแลอยู่หลายโปรเจกต์”

“คุณป้าบอกว่าช่วงนี้คุณภาคินทำงานหนักมาก”

“มันก็แล้วแต่ช่วงครับ ถ้าโครงการเริ่มเปิดก็จะเหนื่อยหน่อยแต่สักพักก็จะเข้าที่”

ภาคินหยุดคุยเมื่อเห็นว่าพนักงานกำลังเดินมารับออเดอร์

“คุณแก้วอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”

“ไม่ค่ะแก้วทานอะไรก็ได้”

“ที่นี่มีอาหารอะไรขึ้นชื่อบ้างครับ” เขาหันไปถามพนักงานเพราะปกติเวลามาทานกับพลอยลลินณ์หญิงสาวจะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้โดยเขาไม่ต้องสั่ง

“ที่ลูกค้านิยมสั่งกันก็มีแกงเผ็ดเป็ดย่าง ยำถั่วพู ต้มยำกุ้งแม่น้ำค่ะ ถ้าเป็นอาหารที่ไม่เผ็ดก็จะเป็นไข่เจียวปู ต้มจืดปลาหมึกยัดไส้แล้วก็กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาค่ะ”

“คุณแก้วทานเผ็ดได้ไหมครับ"

“ได้ค่ะ แต่ขอแบบไม่เผ็ดมากนะคะ”

“ผมเอาทุกอย่างที่พูดมาเลยครับ แต่ขอแบบเผ็ดไม่มาก” ภาคินบอกกับพนักงาน

“ได้ค่ะ คุณลูกค้ารออาหารประมาณ 15 นาทีนะคะ”

“ได้ครับ”

ระหว่างนั่งรออาหารภาคินก็ชวนอัจจิมาคุยเพราะอยากจะทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้น

“คุณแก้วกลับมาเมืองไทยนานหรือยังครับ”

“กลับมาได้เดือนหนึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะเริ่มหางานทำค่ะ"

“ผมทราบมาว่าที่บ้านก็มีธุรกิจนี่ครับ ทำไมไม่ทำกับที่บ้าน”

“ใช่ค่ะที่บ้านแก้วมีธุรกิจ พี่ๆ ของแก้วก็เข้าไปทำที่นั่นกันทุกคน แต่แก้วอยากลองหาประสบการณ์จากที่อื่นบ้าง ไม่ทราบว่าที่บริษัทของคุณพอจะมีงานให้แก้วทำบ้างไหม”

“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับเดี๋ยวจะถามฝ่ายบุคคลให้”

“คุณเป็นถึงผู้บริหารและรับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ๆ จะรับคนเข้าทำงานยังต้องถามฝ่ายบุคคลอีกเหรอคะ”

“เพราะผมเป็นผู้บริหารไงครับ จะทำอะไรก็ต้องโปร่งใสเดี๋ยวคนอื่นรู้จะว่าเอาได้”

“แก้วชอบความคิดของคุณจังค่ะ แล้วแบบนี้แก้วจะได้ไปทำงานกับคุณไหม คุณป้าบอกว่าคุณยังขาดผู้ช่วย แก้วอยากไปเป็นผู้ช่วยของคุณค่ะ”

อัจจิมาคุยเรื่องนี้กับมารดาของชายหนุ่มแล้ว ท่านอยากให้เธอมาทำงานเป็นผู้ช่วยของลูกชาย

“ผมมีผู้ช่วยอยู่แล้วนะครับ”

“คุณป้าบอกแล้วล่ะค่ะ ว่าคุณภาคินมีเลขาอยู่แล้ว แต่แก้วไม่ได้จะไปทำหน้าที่เลขานี่คะ แก้วจะไปทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของคุณคอยแบ่งเบาภาระของคุณ"

“ผมจะลองคิดดูนะครับ” ภาคินไม่เคยคิดถึงตำแหน่งนี้เพราะพลอยลลินณ์ก็ทำหน้าที่ตามที่อัจจิมาพูดได้ดีจนเขานึกไม่ออกว่าจะต้องให้เธอมาทำงานด้วยทำไม

“แก้วหวังว่าจะได้ยินคำตอบเร็วๆ นี้นะคะ” เธอยิ้มให้เขาอย่างมีความหวัง

อัจจิมาไม่ได้อยากทำงานเท่าไหร่ แต่เธอก็ขัดคำสั่งของมารดาไม่ได้ตอนนี้ธุรกิจส่งออกของที่บ้านกำลังมีปัญหาและที่บ้านของเธอก็อยากได้เม็ดเงินจากครอบครัวของภาคินเพื่อช่วยพยุงให้ธุรกิจได้ไปต่อ แต่ส่วนตัวเธอนั้นไม่ได้คิดอะไรกับชายหนุ่มเพราะตนเองมีคนรักอยู่แล้ว แต่ครอบครัวก็บอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับไปก่อน

“อาหารมาแล้วผมว่าเรารีบทานกันดีกว่านะครับ”

ภาคินนั่งทานอาหารและคุยเรื่องทั่วไปกับอัจจิมา แต่เขารู้สึกว่าเธอคนนี้จะจู่โจมเขามากจนเกินไป เขาเป็นนักล่าจึงไม่ค่อยชอบผู้หญิงลักษณะนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากด่วนตัดสินใจจนเกินไปชายหนุ่มอยากให้โอกาสเธออีกสักนิด

เขานั่งทานอาหารกับอัจจิมาเสร็จแล้วก็พาเธอไปส่งที่บ้าน จากนั้นก็ขับรถกลับไปยังบ้านของตัวเอง ภาคินรู้ว่าถ้าหากคืนนี้ไม่กลับบ้านมารดาก็จะต้องโทรตามอย่างแน่นอน

“แม่นึกว่าเราจะกลับดึกเสียอีก พาหนูแก้วไปกินข้าวแล้วไม่ได้พาไปไหนต่อเลยเหรอ”

“แม่หมายถึงไปต่อที่ไหน”

“ก็พาไปฟังเพลงหรือดูหนังอะไรทำนองนั้น คินว่าหนูแก้วเป็นยังไงบ้าง”

“ก็ดีครับแม่”

“อธิบายความหมายของคำว่าดีให้แม่ฟังหน่อยสิลูก หนูแก้วน่ารักไหมนิสัยเป็นยังไงบ้าง เข้ากับลูกของแม่ได้ดีใช่ไหม”

“เราเพิ่งเจอกันไม่ถึงสองชั่วโมงนะครับแม่ ผมมองไม่ออกหรอกครับ”

“แต่แม่ว่าเธอเหมาะสมกับลูกดีนะ หน้าตาสวย เรียนจบถึงปริญญาโท ครอบครัวเขาก็เป็นผู้ดีและทำธุรกิจมานาน”

“ดูท่าแม่จะชอบเธอมากนะครับ”

“ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติดีๆ แบบนี้หายากนะ ถ้าคินมัวช้าแม่กลัวว่าคนอื่นจะมาคว้าเอาไปเสียก่อน”

“เราเพิ่งเริ่มคุยกันผมยังไม่มองไกลขนาดนั้นหรอกครับแม่ ผมยังไม่รู้เลยว่านิสัยจะเข้ากันได้หรือเปล่า”

“ถ้าคินยังไม่รู้นิสัยหนูแก้วว่าจะเข้ากับคินได้ไหม คินก็นัดน้องมาทานข้าวด้วยบ่อยๆ สิ ส่วนเรื่องนางแบบอะไรนั่นแม่ว่าเลิกได้ก็เลิกนะ เธอกับลูกไม่เหมาะสมกันหรอก”

“ทำไมล่ะครับแม่ผมว่านก็สวยดีออก”

“เธอมีรูปสมบัติที่ดีแต่คุณสมบัติที่จะมาเป็นสะใภ้แม่มันไม่มีเลย” เพราะไม่ชอบวาริสาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอได้โอกาสคุณสายชลเลยยุให้ลูกชายเลิกกับเธอ

“สะใภ้แม่ต้องเป็นยังไงเหรอครับ” ภาคินไม่เคยถามมารดาอย่างจริงจังแบบนี้มาก่อน แต่ในเมื่อมารดาเปิดประเด็นมาแบบนี้เขาก็อยากจะรู้ขึ้นมาบ้าง

“สะใภ้แม่ก็ต้องเป็นคนน่ารัก เรียนจบสูงๆ ครอบครัวมีพื้นฐานที่ดี อยู่ในสังคมระดับเดียวกับเรา น่ารักอ่อนหวานไม่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดเหมือนแม่นางแบบนั่น”

“ผู้หญิงแบบที่แม่พูดหายากนะครับ”

“หายากที่ไหนล่ะก็หนูแก้วนั่นไง เธอตรงใจแม่ทุกอย่าง”

“แม่จะไม่รอให้ผมศึกษานิสัยใจคอกับเธอหน่อยเหรอครับบางทีเราอาจจะเข้ากันไม่ได้”

“แม่ก็ไม่ได้จะบังคับให้คินแต่งงานกับหนูแก้วตอนนี้สักหน่อย ก็แค่อยากให้ลองเปิดใจและคบหากันดู น้องน่ารักขนาดนั้นแม่เชื่อว่าไม่นานคินจะต้องรักน้องได้ง่ายๆ”

“ผมจะลองดูครับ”

“หยุดยาวตั้งสี่วันไม่ว่าคินพาหนูแก้วไปเที่ยวดีกว่าไหม จะได้เรียนรู้กันได้เร็วขึ้น”

“ผมไม่ว่างครับแม่ เรื่องไปเที่ยวเอาไว้คราวหน้านะครับ”

“อย่าให้หนูแก้วต้องรอนานนะลูก ผู้หญิงสวยๆ การศึกษาดีชาติตระกูลดีแบบนั้นเดี๋ยวคนอื่นจะคว้าไปเสียก่อน” เธอย้ำกับลูกชายอีกครั้ง

“ครับแม่” ชายหนุ่มรับคำ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าตนเองจะเรียนรู้อัจจิมาได้นานแค่ไหน เพราะเท่าที่ได้คุยมาสองชั่วโมงเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไรกับเลยสักนิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel