บท
ตั้งค่า

เมื่อเวลาใกล้มาถึง

ตอนที่ 5

เมื่อเวลาใกล้มาถึง

“กลับมาแล้ว รีบเข้าไปหาคุณรัฐภูมิเลยออกมาจากห้องประชุมไม่เห็นเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะก็ถามหาวุ่นวายโวยวายใหญ่”

อัปสรด้วยความตกใจกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเธอมัวแต่ไปเที่ยวเล่นที่อื่น รีบเดินไปเคาะประตูแล้วเปิดประตูเข้าไปโดยไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาตก่อน

“ขอโทษค่ะอัปสรไม่รู้ว่าคุณภูมิมีแขก”

ภาพที่หญิงสาวเห็นตรงหน้าคือภาพที่คนรักเก่าของรัฐภูมิกำลังกอดคอนั่งอยู่บนตักของเขา มันเป็นภาพที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะลืมทุกเรื่องที่ตั้งใจจะพูดกับเขาในวันนี้ มือเล็กจับไปที่ท้องก่อนที่มืออีกข้างหนึ่งจะค่อยๆแง้มประตูปิดลง

“เจ้านายว่ายังไงบ้าง” รุ่นพี่คนเดิมรีบเดินมาถาม

“คุณภูมิมีแขกยังไม่ทันได้พูดอะไรกันค่ะ”

“อ๋อ คุณเววิตา ไม่รู้หายไปไหนเป็นปีอยู่ดีๆก็กลับมาสงสัยจะได้เวลารื้อพื้นถ่านไฟเก่า”

รุ่นพี่คนเดิมพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยถูกใจนักเพราะพนักงานที่นี่ทุกคนต่างรู้สึกไม่ค่อยชอบและ ถูกชะตาเววิตาเท่าไหร่เพราะอีกฝ่ายมักจะเจ้ายศเจ้าอย่าง เวลามาหาเจ้านายของเขาที่บริษัท

อัปสรยังคงนั่งทำงานต่อไปด้วยหัวใจที่ล่องลอยคำตอบของคุณหมอยังคงดังก้องอยู่ในหัว ไม่มีใครสักคนที่ตอนนี้เธอจะสามารถระบายความรู้สึก หรือขอคำปรึกษาได้ มีเพียงแค่เขากับเธอที่รู้เรื่องนี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาคงไม่พร้อมที่จะรับฟังข่าวที่เธอต้องการจะบอก ในเมื่อเขากำลังจะกลับไปดีกับคนรักเก่า เวลาของเธอกับเขาก็คงเหลืออีกไม่นาน

“วันนี้รีบกลับบ้านด้วยนะเพราะผมจะไปกินข้าวกับเววิตาคงไม่ได้กลับไปกินข้าวกับคุณแม่”

เจ้านายหนุ่มเดินมาบอกพนักงานของเขาที่โต๊ะพร้อมกับมีคนรักเก่าควงแขน รอยยิ้มที่มีความสุขของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้สนใจกับความรู้สึกคนตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทั้งทางกายและถูกต้องตามกฎหมายเลย

เววิตาเริ่มกลับเข้ามาในชีวิตของรัฐภูมิอีกครั้งยิ่งสร้างความเหินห่างและห่างเหินให้กับอัปสรที่ไม่เคยคิดว่าเธอมีตัวตนในชีวิตของเขาและทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของกมลชนก เธอจึงตัดสินใจที่จะเรียกอัปสรมาคุยถึงเรื่องนี้เพราะเธอเองก็รักหญิงสาวไม่ต่างจากลูกคนหนึ่งจึงอดที่จะรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกไม่ได้

“เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะคบกำหนดแล้วเธอคิดว่าหลังจากนั้นจะจัดการกับชีวิตตัวเองยังไง”

กมลชนกมองทอดสายตาไปยังเด็กสาวที่เธอเลี้ยงดูมาตั้งหลายปี ตั้งแต่พ่อของเธอจากไปเพราะใช้ชีวิตปกป้องสามีของเธอไว้ด้วยความเป็นห่วงและพร้อมจะช่วยเหลือทุกอย่างตามเส้นทางที่อัปสรเลือก

“สรตั้งใจว่าจะออกไปใช้ชีวิตข้างนอก จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ตอนนี้ก็คงขอทำงานที่บริษัทของคุณภูมิไปก่อน มีเงินเก็บสักก้อนก็จะย้ายออกจากที่นี่แล้วก็ไปหางานทำใหม่ค่ะ”

หญิงสาวมองสบตาหญิงสูงวัยตรงหน้า ส่งยิ้มอย่างเก็บซ่อนความรู้สึก เพราะไม่อยากให้กมลชนกรู้สึกไม่สบายใจ

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้มีความสุขกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ ฉันเองก็ไม่เข้าใจสามีฉันเหมือนกัน แต่คิดว่าเขาคงมีเหตุผลเอาเป็นว่าเธอรับเงินก้อนนี้ไปอย่างน้อยเธออาจจะใช้มันดาวน์บ้านสักหลังแล้วค่อยทำงานผ่อนต่อเอา ห้ามปฏิเสธเด็ดขาดเพราะการที่เธออยู่กับลูกชายฉันมานานแบบนี้มันก็เสียเวลาชีวิตมากพอแล้วถือเสียว่าฉันชดเชยให้เธอเป็นของขวัญกับการเริ่มต้นชีวิต”

อัปสรก้มกราบลงไปที่เท้าของผู้มีพระคุณถึงแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวนี้เลี้ยงดูเธอมาด้วยเหตุผลอะไรแต่เธอก็ถือว่ามันคือบุญคุณที่ยิ่งใหญ่เพราะทั้ง กมลชนกและสามีให้ความรักและดูแลเธอเหมือนลูกแท้ๆคนหนึ่ง

“คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าครับถึงมานั่งรอผมดึกดื่นป่านนี้”

รัฐภูมิกลับมาถึงบ้านเป็นเวลาใกล้เที่ยงคืนแล้วตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะเดินไปหาอัปสรที่ห้องของเธอแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเห็นมารดานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก

“ก็ช่วงนี้เราสองคนไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันเลย ตั้งแต่เววิตากลับมาจากต่างประเทศแม่ก็เลยต้องมาดักรอแบบนี้มีเรื่องสำคัญที่เราต้องคุยกัน”

รัฐภูมิคาดเดาได้ไม่ยากว่าเรื่องที่มารดาอยากจะคุยน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอัปสรแต่เขาก็แค่คาดเดาไม่ออกว่ามันจะเป็นเรื่องไหน

“แม่คุยก็อัปสรเมื่อเย็นแล้ว เธอตั้งใจว่าจะออกไปอยู่ข้างนอก ขอเก็บเงินสักพักเพื่อเตรียมตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากที่ครบ 2 ปีแล้วหย่าให้ลูก แม่เองก็เลยอยากจะถามตัวลูกเหมือนกันว่าแล้วลูกจะทำยังไงกับชีวิตหลังจากที่ได้ใบหย่าจะแต่งงานกับ เววิตาเลยไหมให้สมกับที่ลูกรอคอยมานานและเธอก็อุตส่าห์กลับมาหาอีกครั้ง”

กมลชนกอดไม่ได้ที่จะทำน้ำเสียงประชดประชันเพราะเธอรู้สึกไม่ค่อยถูกใจในตัวคนรักของ ลูกชายที่อยู่ดีๆก็หายตัวไปอยู่ต่างประเทศโดยไร้ การติดต่อแต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายใกล้จะครบ 2 ปีก็กลับมาหาและดูเหมือนจะมาทวงความสัมพันธ์คืนและที่สำคัญเธอก็ได้ข่าวเกี่ยวกับเววิตามาไม่ค่อยดีเพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานเธอจึงไม่คิดที่จะบอกลูกชาย

“ผมยังไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ดูเหมือนลูกสาว คุณแม่จะคิดถึงแต่เรื่องหย่านะครับ ส่วนเรื่องผมกับ เววิตาเราก็แค่กลับมาคุยกันในฐานะเพื่อน ไม่ได้มีอะไรเหมือนแต่ก่อน ผมเองก็เริ่มลืมเธอไปแล้ว คนไม่ได้เจอกันเป็นปี ตอนแรกก็ยอมรับว่าคิดถึง นานๆไปมันก็ชินจนเริ่มไม่รู้สึกอะไรเลย”

รัฐภูมิตั้งใจจะพูดให้แม่ของเขาได้รู้ว่า เขาเองไม่ได้เป็นคนที่มีคนอื่นแล้วก็ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากคบสัญญา 2 ปีมีแต่อัปสรเท่านั้นที่ดูเหมือนจะเฝ้ารอวันเวลานั้น

“ดีนะที่ระหว่าง 2 ปีลูกกับอัปสรไม่ได้เป็นอะไรกันมากกว่าสามีภรรยาทางกฎหมาย เมื่อครบกำหนดก็จะได้ต่างคนต่างไป แม่อยากเห็นอัปสรมันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ นี่ก็ว่าจะหาเวลาไปดูบ้านให้มันสักหน่อย ได้เมื่อไหร่ก็จะให้ย้ายออกไปเลยจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางหน้าขวางตาลูกชายแม่”

กมลชนกพูดจบก็รีบลุกออกจากโซฟาเพราะกลัวจะเผลอยิ้มต่อหน้าลูกชายเพราะจากที่คุยวันนี้เธอเริ่มแน่ใจว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกชายเธอเองก็มีใจให้กับอัปสรถึงแม้จะทำเป็นปากแข็งไม่ยอมรับเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงต้องรีบคุยเรื่องการแต่งงานกับเววิตาแต่ดูเหมือนสิ่งที่ลูกพูดวันนี้ทั้งคู่น่าจะไม่มีอะไรมากกว่าความเป็นเพื่อนกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel