ทะเบียนสมรส(2)
รัฐภูมิขับรถไปหาคนรักที่บ้าน เขาจอดรถอยู่นานที่หน้าประตูกว่าที่จะตัดสินใจขับเข้าไป เขากลัวความจริงทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ชายหนุ่มนำหลักฐานคือพินัยกรรมเตรียมมาแสดงให้หญิงสาวรู้ว่าทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ไม่ใช่ข้ออ้างและเขาพร้อมจะสัญญาที่จะแต่งงานกับเธอทันที หลังจากที่พินัยกรรมครบ 2 ปีโดยจะไม่สนใจคำทัดทานจากใครทั้งนั้นแต่ทำไมหัวใจกลับไม่เชื่อมั่น เขากลัวว่าเววิตาจะไม่ยอมรอและความรักของเขาจะจบลง
“ภูมิ...จะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อน วิตากำลังจะออกไปข้างนอกพอดี”
หญิงสาวตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อกำลังจะเดินออกจากนอกประตูบ้านไปยังโรงรถแต่กลับเจอเข้ากับคนรักที่ปกติแล้วถ้าเขาจะมาหาเธอที่บ้านจะต้องโทรศัพท์มานัดหมายก่อน
“ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ มันทำให้ผมใจร้อนมาที่นี่โดยลืมคิดไปว่าคุณเคยสั่งให้โทรมาหาก่อน”
รัฐภูมิถึงแม้จะรู้สึกน้อยใจที่คนรักพูดแบบนี้แต่เขาก็เลือกที่จะทำเหมือนตัวเองเป็นคนผิดที่ไม่รักษาคำพูดที่เคยตกลงกันไว้
“วิตามีเวลาให้ภูมิครึ่งชั่วโมงนะคะ มีอะไรก็พูดมาเลย”
ชายหนุ่มส่งสำเนาพินัยกรรมให้กับหญิงสาวตรงหน้าเพื่อให้เธออ่านข้อความทั้งหมดเอาเองเพราะตัวเขาไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าจากตรงไหน
“คุณพ่อ คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่าคะ อยู่ดีๆก็จะให้คุณไปจดทะเบียนสมรสกับคนใช้”
หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวคลุมลงไปจนเลยเข่าซึ่งเป็นชุดที่ปกติเธอไม่ค่อยใส่ปากระดาษลงบนโต๊ะด้วยความโมโห
“ก็แค่จดทะเบียนครบ 2 ปีก็หย่าแล้ว และในพินัยกรรมก็ไม่ได้บอกให้ผมอยู่กับเธอตลอด ไม่ได้บอกให้เรามีความสัมพันธ์กันจริงๆ คุณรอผมนะ ครบ 2 ปีเมื่อไหร่ ผมจะจดทะเบียนกับคุณให้ถูกต้อง เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ผมจะไม่สนใจฤกษ์งามยามดีอะไรทั้งสิ้น เราจะจดทะเบียนกันทันที”
เววิตาเปลี่ยนจากวุ่นวายใจโวยวายเสียงดังเป็นสงบลงเพราะเธอกำลังใช้ความคิดวางแผนว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
“ในเมื่อพินัยกรรมบอกให้คุณจดทะเบียนสมรสแต่ไม่ได้บอกให้คุณแต่งงาน เราแต่งงานกันนะคะ จัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนรู้ว่าเราเป็นสามีภรรยากัน ส่วนเรื่องจดทะเบียนก็ค่อยรอจนครบ 2 ปี แล้วเราค่อยทำมันให้ถูกต้อง เรื่องที่คุณกับอัปสรจดทะเบียนกันก็ไม่ได้มีใครรู้ ก็รู้กันแค่ในครอบครัว วิตาทนได้ค่ะ เราแต่งงานกันเลยนะคะ เตรียมงานสัก 2 สัปดาห์ก็คงจะทัน”
หญิงสาวเริ่มคิดวางแผนทันทีเพราะความจริงแล้วเวลาของเธอก็เหลือไม่นาน ความลับบางอย่างที่เธอกำลังซ่อนไว้คงจะออกมาเปิดเผยให้คนรักได้รู้และวันนั้นเขาคงไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของเธอแน่
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ผมรักคุณมากเกินกว่าจะให้คุณเป็นภรรยาที่แต่งงานโดยที่ผมมีผู้หญิงที่จดทะเบียนอยู่แล้ว รออีก 2 ปีนะวิตา ผมจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง”
หญิงสาวโวยวายขึ้นทันทีเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอวางแผนไว้ เวลาในชีวิตของเธอเหลือไม่มากแล้ว เธอต้องการทำทุกอย่างให้เป็นไปตามแผน หญิงสาวตัดสินใจที่คว้ากระเป๋าเดินออกจากบ้านเพื่อบีบให้ชายหนุ่มทำตามที่เธอต้องการแต่สุดท้ายแล้วเวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์เขาก็เพียงแค่ส่งข้อความมาง้อไม่เคยบอกที่จะยอมทำในสิ่งที่เธอต้องการถึงเวลาแล้วที่เววิตาต้องตัดสินใจ เธออยู่เมืองไทยต่อไปไม่ได้แล้ว
“ทุกอย่างเป็นแบบที่เธอต้องการแล้ว”
รัฐภูมิกลับมาที่บ้านโดยที่ตอนนี้ทั้งบ้านมีเพียงแค่เขากับอัปสรที่อยู่ แม่บ้านที่ทำความสะอาดก็ถูกกมลชนกพาไปที่บริษัทเพื่อขนของใช้และทำความสะอาดห้องทำงานของสามีที่จะให้ลูกชายเข้าไปอยู่ในเร็ววันนี้
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”
อัปสรตกใจจึงตัดสินใจที่จะเดินหนีกลับไปที่ห้องนอนเพราะตั้งแต่หลังวันที่อ่านพินัยกรรมเธอกับรัฐภูมิจดทะเบียนสมรสกันก็จริงแต่เธอก็ยังคงนอนที่ห้องนอนคนใช้เหมือนเดิม
“คุณภูมิปล่อยสร เป็นบ้าอะไรไปคะเนี่ย บอกให้ปล่อยไงคะ ”
หญิงสาวพยายามดิ้นรนโวยวายแต่เหมือน ทุกอย่างจะไม่มีประโยชน์ในเวลานี้เพราะที่นบ้านมีแค่เธอกับเขาไม่ว่าจะส่งเสียงดังแค่ไหนก็คงไม่มีคนมาช่วย
ประตูห้องถูกเปิด รัฐภูมิเลือกที่จะโยนความแค้นกับการหนีไปของเววิตาครั้งนี้ให้กับ หญิงสาวผู้มีชื่อในทะเบียนสมรสคู่กับเขา
“อยากเป็นเมียนักใช่ไหม วันนี้เธอจะได้เป็นเมียฉันแบบที่เธอต้องการ”
สิ้นคำพูดชายหนุ่มก็ซุกไซ้ปากลงกับซอกคอของหญิงสาวที่เขากำลังจับมือทั้งสองข้างของเธอขึงไปกับที่นอน วันนี้เขาลืมไปแล้วว่า เขาตั้งใจว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอเพื่อรอเวลาที่จะครบ 2 ปีเพราะตอนนี้ความโกรธทำให้เขารู้สึกแค่เพียงว่า เขาจะเอา ความล้มเหลวและความเสียใจที่เขาต้องเสียคนรักไปมาลงกับเธอเพื่อให้เธอเป็นคนชดใช้