บทที่ 2
เพียงไม่กี่ช่วงตึก เธอก็ถึงโรงแรมที่พัก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอพยายามจะปิดบังความรู้สึกรบกวนใจให้พ้นไปเสียจากความคิด โดยเฉพาะกับเหตุบังเอิญที่แฝงฝังอยู่ ขณะเดียวกันก็สัญญากับตนเองว่าจะต้องเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ ฟังเมื่อกลับจากการท่องเที่ยวครั้งนี้ มันเป็นเรื่องของการผจญภัย ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนุกในเวลาเดียวกัน
แต่มันก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทําให้เธอต้องเดินไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้ากระจกในห้องพัก บังเกิดความใคร่รู้ขึ้นมาว่ามีอะไรในตัวเธอที่ทําให้บรรดานักธุรกิจกลุ่มนั้น กับ...ผู้ชายคนนั้น ที่เชื่อว่าเธอเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ค้าของเก่าไปได้
มันเป็นเพราะเรือนผมสีน้ำตาลอมแดงนี้ใช่หรือไม่ เธอให้บังเกิดความใคร่รู้ยิ่งนัก พวกเขาเรียกเธอว่า “คุณแดง” หมายถึงสีทองแดงของเรือนผมนี่ใช่หรือไม่...ความชื้นของอากาศ ดูเหมือนจะเพิ่มลอนคลื่นให้กับเรือนผมสลวยงามนี้ยิ่งขึ้น และยังการแต่งกายด้วยเสื้อกระโปรงชุดเปลือยไหล่นี้อีกเล่า
ด้วยอาการทอดถอนใจ ที่เซเลน่าปัดความคิดเกี่ยวกับเรื่องของสีผม ที่อาจเป็นสาเหตุนั้นออกไปจากสมอง บางที อาจจะเป็นประกายสีเขียวขาบที่พราวแพรวอยู่ในดวงตาคู่กลมโตนี่กระมัง แต่มันก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว เปล่งประกายวาววามอยู่เบื้องหลังแผงขนตางอนช้อยมานับแต่เกิด
สาธุคุณแอนดรูว์ เจมส์ เมอริค บิดาของเธอเคยต่อว่าเซเลน่าอยู่เสมอ ที่ใช้ชีวิตอย่างระเริงหลงในตนเองมากเกินไป จริงอยู่ที่บิดาของเธอไม่ได้มีความหมายไปในทางที่ว่า เธอใช้ชีวิตไปในทางเสื่อมเสียแต่อย่างใด เพียงแต่หมายถึงว่า เธอเป็นลูกผู้หญิงที่ไม่ใคร่จะเกรงกลัวในอะไรทั้งสิ้น ความรู้สึกโน้มเอียงของเซเลน่าดูจะชอบเรื่องการผจญภัยมากกว่าที่จะกลัวเสียด้วยซ้ำ
ออกจะเป็นเรื่องน่าแปลกอยู่ ที่ความรู้สึกโน้มเอียงดังกล่าวดูจะหมดอิทธิพลลงได้ เมื่อมาถึงเรื่องของความสัมพันธ์ต่อเพศตรงข้าม ถ้าเป็นเรื่องของเพื่อนแล้ว เซเลน่าสามารถจะทําทุกสิ่งให้กับใครก็ได้ ถ้านั่นหมายถึงผลประโยชน์ของผู้อื่น แต่เมื่อมาถึงเรื่องอารมณ์และความรู้สึกของตนเองแล้ว เธอกลับระมัดระวังตัวเองอยู่มาก
ไม่มีอื่นใดบนใบหน้าของเธอที่จะงามเด่นเป็นพิเศษ ทั้งหน้าผาก จมูก โหนกแก้ม และคางที่กลมมน ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่ทําให้ใบหน้าสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น บางที อาจจะเป็นริมฝีปากคู่นี้กระมังครั้งหนึ่งเพื่อนของเธอเคยชมว่า มันเป็นริมฝีปากคู่ที่อิ่มเอิบ เย้ายวนใจยิ่งนัก ซึ่งเธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการตั้งข้อสังเกตนั้นเท่าไรนัก แต่เมื่อพินิจดูเรียวปากของตนเองในยามนี้ซึ่งฉาบไว้ด้วยลิปสติก สีสวย เป็นมันละเลื่อม เซเลน่าก็ยอมรับว่า ริมฝีปากของเธอนั้นเรียวงามได้รูปและเย้ายวนใจอยู่ไม่น้อย
แต่เธอก็ยังไม่ได้เข้าใกล้คําตอบที่ว่าอะไรคือสิ่งที่ทําให้สุภาพบุรุษเหล่านั้นเข้าใจผิดไปได้ ได้แต่ส่ายศีรษะด้วยความไม่เข้าใจ และถอยห่างออกมาจากกระจกซึ่งตอนนั้นเอง ที่เธอได้มองเห็นภาพของตัวเองชัดเจนขึ้น
ความงามทั้งมวลที่ประสมประสานอยู่ทั้งดวงตาที่กลมโต เรียวปากที่อิ่มเต็มเย้ายวนใจ เรือนผมสีทองแดงที่ขับนวลหน้าให้บรรเจิด แม้ไม่มีสิ่งใดที่เด่นเป็นพิเศษ แต่บางทีมันอาจจะเป็นแต่ละสิ่งที่ผู้ชายมองหา คล้ายกับเขาได้เห็นในสิ่งที่ตนเองต้องการจะเห็นนั่นเอง
ออกจะเป็นความโล่งใจเสียด้วยซ้ำที่ได้พบว่าไม่มีสิ่งใดบนใบหน้าที่ดูขี้ริ้วจนเกินไป เสน่ห์ที่ดึงดูดใจชายก็พอมีอยู่ และยังเรือนร่างที่สมสัดส่วน ประกอบด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าที่สมรูปนั้นด้วย
เซเลน่าเปล่งเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างนึกขันตนเอง เดินออกจากหน้ากระจก ลงมือปลดเปลื้องเสื้อชุดฤดูร้อนออกจากเรือนกาย มองเห็นภาพโรบิน ที่จะต้องแสดงความตระหนกถ้าได้เห็นเธอมายืนวิเคราะห์สรีระของตนเองในลักษณะนี้ และแน่นอน ถ้าเหตุการณ์อย่างเช่นเมื่อครู่ที่ผ่านมาเกิดขึ้นกับโรบิน เพื่อนสาวของเธอคงจะต้องตกใจไม่น้อยทีเดียว
แต่คงจะไม่หรอก....เซเลน่าเถียงตัวเอง โรบินน่าจะแสดงความกราดเกรี้ยวออกมาเพราะถูกเข้าใจผิดมากกว่า และคงจะไม่มีวันถือว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจแน่ อย่าว่าแต่จะเห็นเป็นเรื่องตลกเลย ดังนั้นจึงเป็นการดีแล้วที่โรบินไม่ได้มากับเธอในการท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วย บางครั้งการเที่ยวคนเดียวก็ดูจะสนุกกว่า
หลังจากอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสําหรับ รับประทานอาหารค่ำแล้ว เซเลน่าก็ยังอดที่จะคิดต่อไม่ได้ว่า บางทีมันอาจจะสนุกกว่านี้ถ้าโรบินมาด้วย เพราะไม่ว่าจะดํารงความเป็นอิสระสักเพียงไรก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้คนที่เลิกคิ้วมองอยู่เมื่อผู้หญิงเดินเข้าไปในบาร์หรือไนท์คลับเพียงลําพังและเซเลน่าก็แน่ใจว่าจะต้องมีสายตาที่มองมาด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อเห็นเธอเข้าไปนั่งในร้านอาหารตามลําพังแน่
นิว ออร์ลีนส์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านแสงสี และความรื่นรมย์ยามราตรีวินิจฉัยจากโปสเตอร์และโฆษณาต่าง ๆ ที่เซเลน่าได้เห็นบนถนนเบอร์เบิ้น มีคลับบางแห่งที่เธอไม่คิดจะสนใจใคร่รู้ว่าภายในมีการแสดงอะไรกันบ้าง แต่ก็ยังมีอีกมากมายหลายแห่งที่เธออยากจะได้เข้าไปหาประสบการณ์
เมื่อตกแต่งใบหน้าเป็นครั้งสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว เซเลน่าก็เอื้อมไปหยิบผ้าคลุมไหล่สามเหลี่ยม ที่เข้ากับเสื้อกระโปรงชุดแดงแถบส้ม ซึ่งดูจะเน้นสีสันของเรือนผมให้เจิดจ้ายิ่งขึ้นกว่าเดิมขึ้นมาคลุมไหล่ พันผูกตรงชายไว้เป็นปมหลวมๆ
จากนั้นเธอก็ก้าวออกจากประตูห้องมาหยุดอยู่ตรงห้องโถงทางเดิน ตรวจกระเป๋าถือให้แน่ใจอีกครั้งว่า ได้เอากุญแจห้องใส่ไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะปิดล็อคลง และเดินไปตามทางเดินที่ปูลาดไว้ด้วยพรม แต่ไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ประตูห้องที่อยู่เลยไปทางด้านใต้ของห้องโถงก็เปิดออก พร้อมกับมีร่างของผู้ชายคนหนึ่งก้าวออกมา
เซเลน่าต้องใช้เวลาในการทบทวนความทรงจําอยู่บ้าง จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน เรือนผมสีดําสนิทนั่นเองที่ทําให้เธอจําเขาได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือผู้ชายคนเดียวกันกับที่เธอเซไปชนเข้า ก่อนที่จะพบกับนักธุรกิจกลุ่มนั้นนั่นเอง
ความคิดแรกที่ผ่านวูบเข้ามาในใจก็คือ ทําไมตัวเองจึงได้เลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันบาดตาเช่นนี้ ทําไมจึงไม่เลือกเสื้อผ้าชุดอื่นที่รูปแบบและสีสันอ่อนโยนกว่า เธอต่อสู้อยู่กับความคิดที่จะเดินกลับเข้าห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อีกครั้ง แต่ขณะเดียวกันเท้าก็ก้าวไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินในห้องโถงนั้น ท่าเดินที่กระฉับกระเฉงค่อย ๆ ซ้าลง ขณะที่เฝ้าหวังอยู่ในใจว่าเขาจะเลยละความสนใจจากเธอเสีย และไปตามทางของเขา
แต่ปรากฏว่า เขาไม่ได้ทําตามที่เธอหวังไว้เลยแม้แต่น้อย กลับยืนคอยอยู่ตรงหน้าห้องด้วยสีหน้าและแววตาที่บอกถึงความมาดหมาย และสายตาคู่นั้นก็กวาดไปทั่วร่าง นับแต่ศีรษะจรดเท้าราวจะสํารวจให้ทั่วทั้งตัว เซเลน่ามีความรู้สึกเหมือนถูกประทับตราด้วยแผ่นเหล็กร้อน ๆ ที่เผาไฟจนแดงฉาน
“เฮลโล....คุณแดง” เขาทักทายด้วยน้ำเสียงห้วนห้าว แฝงสําเนียงขบขันแกมสนใจอยู่
ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะแสร้งทําเป็นเมินเลย หรือทําเป็นว่าจําเขาไม่ได้ เซเลน่าออกจะแน่ใจว่า เขาจะต้องรู้ว่าเธอเองก็จําเขาได้เช่นกัน.... ‘ช่างให้บังเอิญเหลือเกินนะที่ต้องมาพบกันตอนนี้’ เธอครุ่นคิดอยู่ในใจ
“เฮลโล....” เธอตอบรับ ระบายยิ้มอ่อน ๆ ฉาบอยู่บนใบหน้า ไม่ได้แสดงท่าว่าสนใจในตัวเขาเท่าไรนัก
การที่เธอมองเห็นเขาอย่างผาด ๆ ที่ร้านเครื่องดื่มข้างทางนั้น ทําให้เซเลน่าไม่ได้ตระหนักถึงเรือนกายที่ค่อนข้างสูงใหญ่ แม้ว่าเธอจะสูงห้าฟุตหกนิ้ว แต่เขาก็ยังสูงกว่าเธอมาก ค่ำนี้เขาอยู่ในสูทสีเนื้อ เสื้อนอกไม่ได้กลัดกระดุมทําให้มองเห็นเสื้อกั๊กสั้นตัวใน ที่แนบกระชับอยู่กับแผงอก เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าราคาแพงเช่นเดียวกับบุคลิกลักษณะของเขา ที่บอกถึงความเป็นผู้ “มีเงิน” อยู่
“คุณเพิ่งกลับมาหรือกําลังจะออกไปล่ะ” เขาเอ่ยถามขึ้น ขณะที่ประสานสายตาอยู่กับเธอ มุมปากเผยอเป็นรอยยิ้ม
ที่ลึกล้ำอยู่เบื้องหลังดวงตาคู่สีดําสนิทนั้น เซเลน่ามองเห็นสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้กล่าวออกมาจากการพบกันตรงทางเดินนอกโรงแรมนั้น ทําให้เขาจะต้องคิดไปว่า เธอจะต้องออกมาจากการให้บริการกับผู้ชายคนใดคนหนึ่งที่พักอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ แววในดวงตาของเขาคล้ายจะบอกว่า เขารู้ทันอยู่ว่าเธอเข้าไปทําอะไรในห้องนั้น
เธอเกือบจะเผยความรู้สึกอุ่นใจออกมาให้เขาเห็น แต่เซเลน่าก็พยายามสะกดกลั้นไว้ไม่อาจจะโทษใครได้นอกจากตัวเองที่ทําให้เขาคิดไปเช่นนั้น