บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

นิ้วมือเรียวงามรวบรัดอยู่รอบเสาที่ค้ำยันหลังคาเบื้องบนเหนือศีรษะไว้ ประกายเขียวฉาบวาววับอยู่ในดวงตาคู่กลมโต ขณะที่มองกวาดไปตามถนนสายแคบ ๆ ที่ปูลาดไว้ด้วยอิฐสีเข้ม ที่นี่คือวีเออ คาเร่ ถิ่นที่อยู่ของชาวฝรั่งเศสในนิว ออร์ลีนส์ ประกอบด้วยอาคารบ้านเรือนที่ก่อด้วยอิฐ ตกแต่งด้วยเหล็กดัดอันเป็นงานฝีมือของชาวสเปน โดยเฉพาะหน้ามุขด้านบนที่เหล็กเส้นบางถูกดัดเป็นลวดลายอ่อนหวานสวยงาม

แม้จะใช้เวลาในการเที่ยวชมเมืองมาถึงสองวันเต็ม ๆ แล้ว แต่เซเลน่า เมอริค ก็ยังไม่คุ้นชินกับความมหัศจรรย์ใจที่เกิดขึ้น เธอได้วางแผนไว้สําหรับการหยุดพักผ่อนและท่องเที่ยวในครั้งนี้มานานเป็นปี แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย โรบิน มิชเชล เพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งที่จริงแล้วจะต้องร่วมเดินทางมาด้วย แต่ก็ต้องยกเลิกในนาทีสุดท้าย เนื่องจากปัญหาทางบ้าน

เซเลน่า มองไม่เห็นความจําเป็นที่จะต้องยกเลิกการเดินทางในเที่ยวนี้หรือเลื่อนเวลาต่อไป เพียงเพราะโรบินไม่อาจจะมาด้วยได้ ขณะที่เธอกวาดสายตาไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันชวนมองนั้น รอยยิ้มอ่อน ๆ ก็ระบายขึ้นบนเรียวปาก ลึกลงไปในใจแม้จะรู้ว่ามันออกจะเป็นความเห็นแก่ตัวอยู่ แต่ก็ยังอดจะดีใจไม่ได้ที่เที่ยวนี้เธอได้เดินทางมาตามลําพัง เธอสามารถจะเดินชมถิ่นแถบนี้อย่างไรก็ได้ จะดูมากหรือน้อยก็สุดแล้วแต่ความต้องการของตนเอง โดยไม่จําเป็นจะต้องถามความคิดเห็นของใคร เพราะในบางครั้งไม่ว่าโรบินจะเป็นเพื่อนที่ดีสักเพียงไหนก็ตาม ก็ยังมีความไม่เข้าท่าอยู่ไม่น้อย

ทางฟากตรงข้ามของถนน เฉลียงบนของตัวบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยลูกไม้เหล็กดัดสีขาว กระจ่างตาอยู่ในแสงอาทิตย์ยามอัสดงราวถูกฉาบไล้ด้วยสีทอง ความเงียบที่เกิดขึ้น เตือนให้นึกถึงเวลาที่ล่วงเลยไป ซึ่งทําให้เซเลน่าเริ่มขยับเท้าก้าวเดินต่อตามหลังนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ไป และในที่สุดก็ข้ามถนน เดินตรงไปยังที่ตั้งของโรงแรมที่พัก

แสงอาทิตย์ฉายฉานอาบอยู่บนเปลือยไหล่ จนร้อนผ่าว อากาศค่อนข้างอบอ้าวหนักอยู่ด้วยความชื้น ซึ่งทําให้เซเลน่าคิดถึงช่วงฤดูร้อน มากกว่าที่จะเป็นสัปดาห์ปลายเดือนเมษายน เรือนผมที่หยักสลวยตามธรรมชาติชื้นชุ่ม รู้สึกไม่ใคร่สบายตัวด้วยความเหนียวของไรเหงื่อ เธอตั้งใจไว้อย่างเต็มที่ว่าจะต้องอาบน้ำให้สบายตัวเสียก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมารับประทานอาหารค่ำ

ร้านเครื่องดื่มริมทางเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผนวกเข้ากับความคับคั่งของเส้นทางเดินเท้าบนบาทวิถีแคบ ๆ ใครคนหนึ่งเดินผ่านเข้ามาชนไหล่เซเลน่าโดยไม่ได้ตั้งใจ ทําให้เธอเซไปกระแทกกับเก้าอี้เหล็ก ซึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่

“ขอโทษค่ะ” เซเลน่ารีบกล่าวคําขอโทษพร้อมกับยิ้มขออภัยต่อผู้ชายคนที่เธอไปชนเข้า

จากปลายหางตาเธอเห็นศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีดําสนิทผงกเบา ๆ เป็นเชิงรับการขอโทษนั้น เหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นทําให้เซเลน่าต้องเปลี่ยนเส้นทางเดิน หลบเลี่ยงไปตามโต๊ะเก้าอี้ที่ขวางกั้นทางเดินอยู่

เซเลน่าไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ในโต๊ะถัดไป เสียงพูดคุยเสียงหัวเราะที่ดังลั่นคละเคล้าอยู่กับเสียงอึกทึกที่ดังมาจากถนน แม้ว่าเธอจะไม่ได้ให้ความสนใจใครเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนกลุ่มนั้นจะไม่ได้สังเกตเห็นเธอด้วย โดยเฉพาะในเสื้อผ้าชุดฤดูร้อนที่เปลือยช่วงไหล่ กับเรือนผมสีทองแดงงามสลวยนั้น

ขณะที่เธอเดินเข้าไปใกล้โต๊ะที่คนกลุ่มนั้นนั่งอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มก็ผลุดลุกขึ้นยืนขวางทางเดินเธอไว้ เซเลน่าชะงักไป ก่อนที่จะระบายยิ้มขึ้นบนใบหน้าอย่างจะขออภัยไม่ได้ตระหนักเลยแม้แต่น้อยว่าเขามีเจตนาที่จะขวางทางเดินของเธอ ซึ่งการหยุดชะงักดังกล่าวทําให้ผู้คนที่เดินตามมาต้องเดินอ้อมผู้ชายคนนั้นไป

“ทําไมไม่ดื่มกับพวกเราสักแก้วล่ะครับ คุณแดง” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงปร่า ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กรอกเข้าไป สําแดงอิทธิฤทธิ์มากพอที่จะทําให้เขารู้สึกย่ามใจขึ้น

เซเลน่าออกจะตกใจอยู่ แต่ก็เป็นเพียงชั่ววูบเดียว เธอกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่นั่งรวมตัวกันอยู่ตรงโต๊ะนั้น สังเกตเห็นตราอันเป็นเครื่องหมายของสมาคมติดอยู่เหนือกระเป๋าเสื้อนอก แววขบขันเปล่งขึ้นในดวงตา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บุคคลในกลุ่มนี้จะต้องเป็นนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงในสังคม ซึ่งถ้าอยู่ในบ้านเมืองของตนเองแล้ว คงจะไม่กล้าเชื้อเชิญบรรดาดอกไม้ริมทางให้นั่งร่วมโต๊ะในที่สาธารณะเช่นนี้เป็นแน่

“ขอบใจค่ะ แต่เห็นจะไม่ละ” เธอปฏิเสธ ไม่สามารถจะยอมรับการเชื้อเชิญของพวกเขาได้

ใครคนหนึ่งลากเก้าอี้ตัวที่ว่างมาเพื่อให้เธอนั่ง

“มาน่า คนสวย มานั่งคุยกับเราหน่อย” อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“ขอบใจมากค่ะ ขอบใจมากที่คุณกรุณาชวน แต่...” เซเลน่าปฏิเสธซ้ำพร้อมกับยักไหล่ แววขบขันยังฉายประกายอยู่ในดวงตา

“พุทโธ่... คุณแดง...เถอะน่า” ผู้ชายคนแรกพยายามหลอกล่อ “มาดื่มกับเราสักแก้ว แล้วเดี๋ยวผมจะเลี้ยงดินเนอร์คุณด้วยนะ คนสวย” เขาให้คํามั่นสัญญาพร้อมกับกราดมือเป็นการเชื้อเชิญ

ด้วยรอยยิ้มที่ยังฉาบอยู่บนใบหน้า เซเลน่าสายศีรษะปฏิเสธ เธอมองไม่เห็นอาการขู่เข็ญในสถานการณ์ เช่นนั้น ทั้งยังเป็นยามที่กระจ่างด้วยแสงตะวัน บนถนนและบนบาทวิถีคลาคล่ำไปด้วยผู้คนขณะที่เธอเผยอปากจะปฏิเสธซ้ำ ผู้ชายคนนั้นก็โน้มร่างเข้ามาใกล้ ท่าทางคล้ายจะพูดเรื่องลับลมคมนัยอยู่

แต่เขาไม่ได้ลดเสียงลงเลย เมื่อเอ่ยว่า

“คุณจะเรียกเพื่อน ๆ อีกสักสองคนมานั่งกับเพื่อนผมด้วยก็ได้นะ เราจะได้สนุกกันให้เต็มที่ไงล่ะ”

ในตอนแรกเซเลน่าออกจะตกใจอยู่ จึงอุทานออกไปว่า

“เพื่อน.....เพื่อนฉันน่ะรึคะ” แต่ทันใดก็ได้คิดว่า คนกลุ่มนี้กําลังคิดอย่างไรในตัวเธออยู่ เขาจะต้องคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวชาวเมืองนิว ออร์ลีนส์ มากกว่าที่จะเชื่อว่าแท้ที่จริงแล้วเธอก็เป็นนักทัศนาจรคนหนึ่ง เช่นเดียวกับพวกเขานั่นเอง

“คุณก็รู้น่า” เสียงที่สามซึ่งบอกให้รู้ว่าค่อนข้างแก่ดีกรีดังลั่นขึ้น โดยไม่สนใจว่าจะมีใครได้ยินบ้าง “ก็พวกเพื่อนฝูงของคุณไงคุณสุภาพสตรียามค่ำเหมือนคุณนั่นแหละ เออ....ช่วยหาให้สักคนนะ ผมชอบผมบลอนด์” เขารีบบอกถึงรสนิยมของตนเอง

เซเลน่าแทบจะสําลักเสียงหัวเราะออกมา เธอมองเห็นเหตุการณ์ที่กําลังเกิดอยู่กับตัวเองในยามนี้เป็นเรื่องตลกขบขันเกินกว่าที่จะคิดว่าพวกเขากําลังดูหมิ่นเหยียดหยาม ขณะเดียวกันเธอก็ได้ตระหนักว่า คนพวกนี้จะต้องไม่เชื่อแน่ ถ้าเธอจะปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้มีอาชีพเช่นนั้น การที่จะแสดงตนว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบาทหลวงคนหนึ่ง ยิ่งจะทําให้คนกลุ่มนี้ฝันเฟื่องมากยิ่งขึ้นหรือไม่ก็จะต้องคิดว่าเธอสามารถหาเรื่องมาหลอกเขาอย่างแน่นอน

ดูเหมือนผู้ชายทุกคนในกลุ่มนั้น จะรอฟังคําตอบของเธออยู่อย่างกระหาย เธออดคิดไม่ได้ว่า พวกเขาไม่ได้ต่างไปกว่าเด็กผู้ชายที่เพิ่งโตเป็นหนุ่มเลย ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดที่ดีที่สุด ผูกเน็คไทเรียบร้อย เสื้อผ้าชุดนั้นตัดเย็บด้วยผ้าเนื้อดีและจากช่างผู้มีฝีมือ อย่างน้อยเธอก็มีความชํานาญในเรื่องการดูเสื้อผ้า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาถึงสี่ปี ในฐานะพนักงานสั่งซื้อของห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ใน เดส มอยเนส เท่าที่ผ่านมานั้นเธอออกจะเบื่อหน่ายในงาน ที่ทําอยู่ แต่เมื่อมาถึงวันนี้ก็ออกจะดีใจอยู่ ที่ตนเองพอมีประสบการณ์ในเรื่องนี้อยู่บ้าง

“เสียใจค่ะ” น้ำเสียงของเธอกลั้วหัวเราะแม้จะพยายามกลั้นไว้ ดูเหมือนจะมีทางเลือกอยู่เพียงทางเดียว และเซเลน่าก็ตัดสินใจที่จะใช้หนทางนั้น เพราะมองไม่เห็นอันตรายกับการที่จะแสร้งทําตัวให้เป็นไปตามที่พวกเขาคิดกัน “ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทําให้คุณไม่พอใจหรอกนะ แต่ฉันคิดว่าคุณสู้ราคาฉันไม่ไหวมากกว่า”

คําตอบของเธอทําให้ทุกคนถึงกับกระแทกหลังกับพนักเก้าอี้ นอกเสียจากผู้ชายคนที่ยืนอยู่ข้างตัวเธอ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความใคร่รู้

“เท่าไหร่” เขาถามเสียงเบาลง และรอฟังคําตอบอยู่

เซเลน่าเอ่ยจํานวนเงินแรกที่แวบขึ้นมาในสมอง ซึ่งทําให้ผู้ชายคนนั้นถึงกับอ้าปากกว้าง เซเลน่า พยายามกลั้นหัวเราะ ไว้อย่างสุดความสามารถ

“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงรื่นเริง

ขณะที่เธอหมุนตัวเพื่อจะเดินแทรกเข้าไปในแถวของนักทัศนาจรที่เบียดเสียดกันอยู่ เซเลน่าก็ประสานสายตาเข้ากับผู้ชายผมดําที่มองมายังเธออย่างชาเย็นอยู่ เขายังคงนั่งอยู่เพียงลําพังในโต๊ะตัวต่อไปและเป็นคนเดียวกับที่เธอเซไปชนเข้า เธอมองเห็นคิ้วเข้ม ๆ คู่นั้น ที่เลิกสูงขึ้นเป็นเชิงเยาะ และสนใจอยู่ในที

ออกจะโชคร้ายอยู่ที่ผู้ชายคนแรกเพิ่งจะหาเสียงของตนเองพบ เมื่อเพื่อนของเขาเอ่ยถามขึ้นว่า

“เท่าไหร่” เขาสูดลมหายใจลึก เมื่อตอบกลับไปว่า

“ห้าร้อย”

ดูเหมือนคิ้วเข้ม ๆ คู่นั้นจะเลิกสูงขึ้น เซเลน่ารู้สึกเกร็งขึ้นมาในช่องท้อง เนื้อตัวร้อนผ่าว ขณะที่พยายามแทรกตัวเข้าไปในฝูงคน ดูเหมือนมันไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเลย น่าจะเป็นความสนุกเสียด้วยซ้ำที่แสร้งทําตัวเป็นนางบังเงาที่บรรดาสุภาพบุรุษทั้งหลายแสวงหา และเซเลน่าก็ได้พบว่า เธอไม่ได้รู้สึกแคร์เลย ที่ผู้ชายผมดําคนนั้นจะมองเธอไปในลักษณะนั้นด้วยอีกคน เพียงแต่มันมีความรู้สึกคล้ายความกังวลใจลึก ๆ แฝงอยู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel