๒ ข่าวคราวการเลิกรา (๒)
ม่านหนาถูกเปิดออกทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาในห้อง ผ้าปูสีขาวสะอาดคลุมกายแบบบางที่เปล่าเปลือย ไหล่เนียนโผล่พ้นขอบผ้าเห็นรอยสักรูปปีกนกขนาดเล็กที่มีเส้นคมชัด เพราะนอนคว่ำหน้าแสงจากแดดจึงไม่ได้รบกวนการนอนมากนัก
ทว่าสิ่งที่ทำให้หล่อนตื่นคือเสียงฝีเท้าหนักก้าวเข้ามาใกล้เตียง พร้อมหยิบของสำคัญอย่างนาฬิกาซึ่งวางอยู่โต๊ะเล็กข้างหัวเตียงมาสวม พร้อมหยิบโทรศัพท์มาดูนัดว่าวันนี้ตนต้องทำอะไรบ้าง ใบหน้าคมเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์
จากนั้นจึงคิดเดินออกจากห้องโดยไม่บอกกล่าวคนนอนหลับ จนหล่อนต้องคว้าแขนหนาเอาไว้เพื่อเป็นการรั้ง อุตส่าห์รอให้เขาจุมพิตแล้วแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมทำเสียอย่างนั้น
แน่ล่ะ...เธอก็แค่คู่นอนนี่นา จะไปสำคัญได้อย่างไร
“คุณชายจะไปแล้วเหรอคะ” ภาษาไทยที่คุ้นเคยถูกเอ่ยจากปากหยัก เธอยังไม่ยอมปล่อยมือเขาแต่กลับพลิกกายแล้วลุกนั่ง ผ้าห่มร่นไปกองอยู่เอวเผยให้เห็นสองเต้าอวบอิ่มที่เขาครอบครองยามค่ำคืน
หวังให้เขาเปลี่ยนใจอยู่กับตนต่อ อยากปรนนิบัติชายหนุ่มทั้งวัน มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับหม่อมราชวงษ์กษิดิศ เมื่อก่อนได้แค่แอบมองแล้วเพ้อพกเพราะอีกฝ่ายมีหญิงข้างกาย แต่วันนี้เมื่อร่างหนาโสดก็รีบเสนอตัวทันที
โชคดีที่การอกหักครั้งนี้เขาตอบรับผู้หญิงแทบทุกคน แต่อยู่ไม่นานเท่าหล่อนเลยสักคน...
เชื่อว่าตำแหน่งภรรยาของคุณชาย...คงหนีไม่พ้นเธอหรอก
“อือ วันนี้มีประชุม” เบนสายตาออกจากร่างแบบบาง รู้ว่าเธอพยายามจะรั้งตนเอาไว้แต่ก็ไม่อาจปล่อยผ่านงานสำคัญได้
กว่าตนจะเข้ามาอยู่บริษัทก่อสร้างชั้นนำของนครนิวยอร์กไม่ง่ายสักนิด แข่งกับผู้คนมาเท่าไหร่ ต้องสร้างผลงานยากเย็นแสนเข็ญถึงได้มีชื่อเสียงโด่งดัง จนบริษัทในประเทศไทยมาทาบทามตัวไปทำงานด้วยหลายแห่ง แต่เขายังไม่อยากกลับไป
ไม่ต้องการได้ยินคำดูถูกถากถาง หรือวาจาเยาะเย้ยที่แฟนสาวไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่เหมาะสมมากกว่า ทุกวันนี้เขาก็เจ็บปวดมากพอแล้ว
“น่าจะอยู่ต่ออีกหน่อย ปัดไม่ค่อยได้มานิวยอร์กก็อยากตักตวงความสุขที่มีกับคุณชายให้มากที่สุด...ว่าแต่ตอนไหนคุณชายจะไปหาปัดที่แคลิฟอร์เนียบ้างคะ” อ้อนเสียงหวาน พยายามจับมือเขามาวางที่หน้าอกของตนอย่างไม่อาย
คุณชายกษิดิศพรูลมหายใจเสียงเบาอย่างนึกรำคาญ หากไม่ใช่เพราะเธออยู่ในที่ของตัวเอง ไม่ค่อยก้าวก่ายเรื่องของเขา และมอบเซ็กส์ที่แสนสนุกให้ล่ะก็...คงตัดเยื่อใยไปแล้ว
“ถ้ามีงานที่นั่นก็ไป” พวกเขาพบกันตอนที่ชายหนุ่มไปทำงานที่แคลิฟอร์เนีย เพื่อนชวนเขาไปงานเลี้ยงพบปะคนไทยในต่างแดน เลยมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยน ทั้งยังเป็นช่วงที่คุณชายอกหัก แผลสดใหม่ค่อนข้างเจ็บจากการถูกทิ้ง
ไม่น่าเชื่อว่าคบกันมาปีกว่า เธอจะทิ้งเขาเพื่อไปแต่งงานกับคนอื่นได้อย่างไร้เยื่อใย เหมือนไม่เคยรักกันมาก่อน
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน...ฉันไปก่อนล่ะ” ปลดมือของเธอออกพร้อมหยิบกระเป๋าสตางค์ หล่อนเห็นอย่างนั้นก็รีบถามเพื่อให้ได้พูดคุยกันต่ออีกสักนิด
“ค่าโรงแรมไม่หารกันเหรอคะ”
“ไม่ต้อง” เขาจ่ายเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว และไม่คิดจะแชร์กับหล่อนสักครั้ง เรื่องระหว่างเรามันมีแค่เซ็กส์ ถึงจะนอนด้วยกันหลายครั้งแต่แปลกที่ไร้ความเสน่หาในตัวของเธอ
อาจเพราะขีดเส้นเอาไว้ชัดเจน...หรือเขายังไม่ลืมแฟนเก่ากันแน่
“ปัดจะรอโทรศัพท์จากคุณชายนะคะ” ตะโกนตามหลังไม่ยอมแพ้ แต่ประตูห้องก็ปิดสนิทเสียก่อนจนหล่อนถอนหายใจ อีกนานแค่ไหนเขาถึงจะรักนะ
หรือบางทีเธอควรใช้แผนอื่นเพื่อรั้งชายหนุ่มเอาไว้...
ปาริมา พัชรดานันท์คิดอย่างหมายมาดจะจับคุณชายกษิดิศให้อยู่หมัด หล่อนไม่สนใจว่าแม่ของเขาจะเป็นเพียงบ่าวก้นครัว อย่างไรเสียชายหนุ่มก็เป็นถึงหม่อมราชวงศ์ หน้าที่การงานไม่น้อยหน้าใคร ยิ่งหน้าตาหล่อเหลาเป็นที่สนใจของสาวๆ
เหตุผลแค่นี้เพียงพอที่จะครอบครองเขาแล้ว เหลือแต่ว่าต้องทำอย่างไรร่างสูงจึงจะยอมรับเธอ
ร่างหนาเดินเข้ามาในบริษัทหลังออกไซต์ก่อสร้าง เขาต้องกลับมาเคลียร์งบประมาณและประชุมกับทีมเพื่อวางแผนในขั้นตอนต่อไปเมื่อเริ่มโครงการ ถึงจะเป็นเอเชียเพียงผู้เดียวในบริษัทแต่ก็ทำงานเก่งจนเป็นที่เชื่อใจ เขาสามารถไต่ระดับจากวิศวกรหน้าใหม่ เป็นผู้ช่วยหัวหน้าวิศวกรแล้ว ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น
เพราะปลายทางคือโต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่ชั้นสาม จึงไม่ได้สนใจว่ามีหนุ่มร่างเล็กมานั่งรออยู่โซฟาโซนล็อบบี้ของบริษัท กระทั่งอีกฝ่ายต้องรีบวิ่งมาขวางพร้อมทักทายด้วยรอยยิ้ม
“เฮ้! ฉันรอนานตั้งนานนึกว่าจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว” ความสูงที่ค่อนข้างต่างทำให้คนมาใหม่ต้องเงยหน้ามองวิศวกรหนุ่มหล่อ ปากหยักแย้มยิ้มในรอบสัปดาห์เมื่อเห็นคนเข้ามาทัก เขาแทบไม่ได้เจอเพื่อนสนิทเลยหลังจากเรียนจบแล้วแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ของตัวเอง
ทรงคุณ วิเศษเจริญ เพื่อนชาวไทยเพียงคนเดียวที่สนิทสนมด้วย ถึงอีกฝ่ายจะมาเรียนบริหารไม่ใช่สายอาชีพเดียวกันก็ตาม แต่เพราะคุยกันเข้าขาจึงได้คบมาจวบจนทุกวันนี้
“คุณ มาได้ยังไง...แล้วนี่มารอฉันโดยเฉพาะเลยเหรอ” ตกใจไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาหาตน เขารีบถามทันทีพลางตบบ่าของคนตัวเล็กกว่า สร้างความสงสัยให้แก่คนในบริษัทที่เดินเข้าออก อยากรู้ว่าใครกันทำให้ชายเอเชียหน้านิ่งยิ้มได้
“ใช่สิ...จะมาเจอวิศวกรคิวทองก็ต้องมารอครึ่งค่อนวันซะหน่อย ว่างหรือยังขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม ฉันมีข้อเสนอแสนพิเศษมาให้นายพิจารณา” เขามาถึงบริษัทตอนเช้าทว่าไม่เจอเพื่อนสนิท ต้องรอนานเกือบห้าชั่วโมง มองประตูทางเข้าตลอดเวลา ถึงอยากเข้าห้องน้ำมากแค่ไหนก็ไม่กล้าลุกกลัวขลาดกัน
จนตอนนี้ความพยายามสัมฤทธิ์ผลแล้ว ได้เจอคุณชายกษิดิศที่หาตัวยากสักที!
“ข้อเสนอเหรอ” ถามย้ำด้วยความสงสัย
“ใช่ เป็นข้อเสนอที่นายอาจจะคิดหนักหน่อย เพราะมันค่อนข้างเป็นผลดีกับตัวนายแล้วก็เป็นผลดีมากกับฉันที่เพิ่งเปิดบริษัทได้ไม่นาน” ถึงจะตัวเล็กกว่าแต่ก็เขย่งปลายเท้าเพื่อให้สามารถกอดคอเพื่อนสนิทได้...ด้วยความพยายามเป็นอย่างมาก
“ชักอยากรู้แล้วล่ะ...เข้ามาเลย” พากันเข้าไปในลิฟต์เพื่อจะได้ไปคุยธุระต่อที่โต๊ะทำงานของเขา โดยไม่คิดว่าอีกไม่นานตนจะต้องกลับเมืองไทย