2 ตัวละครที่หนึ่ง
นอนพักมาหลายวันจนร่างกายแข็งแรงขึ้นฟ่านจื่ออิงต้องปรับตัวให้เป็นเหยาอิงหลานให้ได้ เวลานี้นางคือเหยาอิงหลาน ไม่ใช่ฟ่านจื่ออิงคนเดิมอีกต่อไป
ยามส่องกระจกถึงได้รู้ว่าใบหน้าของเหยาอิงหลานงดงามเพียงไหน ถูกต้องแล้วที่หวังต้าจูให้นางแต่งกายเป็นชาย อีกทั้งยังต้องอำพรางตัวเองด้วยกลิ่นเครื่องเทศเหม็น ๆ เพื่อไม่ให้ผู้คนที่เข้าใกล้นางรับรู้ถึงกลิ่นกายที่แท้จริง
มีบางช่วงเวลาที่อิงหลานสามารถ ฝืนบทได้อยู่บ้าง จะได้มากหรือน้อยก็แล้วแต่ละครั้ง ถ้าเป็นไม่ใช่ช่วงเวลาที่เป็นบทสนทนาเธอแทบจะไม่ต้องดำเนินตามบทเลย
เพราะอยู่มาหลายวันเกิดเบื่อหน่ายคนงามจึงแต่งตัวเป็นชายเดินสำรวจไปทั่วกำแพงท้ายวัง จนกระทั่งไปพบช่องว่างเล็ก ๆ พอที่ตัวนางจะรอดออกไปได้ อาศัยใบไม้พุ่มหญ้าที่ขึ้นสูงปกคลุมค่อย ๆ มุดร่างบอบบางออกไปทางสุนัขรอดนั้นทันทีโดยไม่มีใครเห็น
ออกมาสู่โลกภายนอกได้อิงหลานก็สูดอากาศเข้าปอดยกใหญ่ ข้างในวังทั้งหนาวทั้งน่าเบื่อ สู้โลกภายนอกไม่ได้สักนิด ที่นี่มีชีวิตชีวาเหลือเกิน เพราะไม่มีเงินติดตัวมาเลยแม้แต่แดงเดียว อิงหลานจึงทำได้แค่มองสินค้าต่าง ๆ รอบตัว เวลานี้แค่มองนางก็มีความสุขแล้ว
หนุ่มน้อยร่างแบบบางเดินเที่ยวเล่นในตลาดไปเรื่อย ๆ โดยหวังว่าจะเจอกับบุคคลที่ชื่อเหมือนกับตัวละครที่สร้างเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าสวรรค์ส่งเธอมายังโลกใดเรื่องใดกันแน่
คนงามได้แต่ทอดถอนใจ
เที่ยวเล่นจนเย็นแต่ก็ยังหาเบาะแสไม่เจอ ตอนเป็นวิญญาณใช้ชีวิตง่ายกว่านี้ แต่ก็ยังหาไม่พบ นับประสาอะไรกับร่างมนุษย์อ่อนแอเช่นอิงหลาน
เช้าวันถัดไป คนตัวเล็กนึกอยากไปเที่ยวเล่นนอกเมืองบ้างจึงเดินลัดเลาะประตูเมืองออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกชมทัศนียภาพของเมือง ตอนเป็นวิญญาณชอบไปนั่งเล่นริมแม่น้ำ อิงหลานมีมุมหนึ่งที่เธอชอบแอบมานั่ง ผู้คนไม่ค่อยรู้จักนัก คนตัวเล็กจึงไปนั่งเงียบ ๆ ชื่นชมผิวน้ำ แต่นึกไม่ถึงจะพบบุรุษผู้หนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“เจ้าเป็นใคร” เมิ่งจินหยวนได้ยินเสียงเดินมาจากทางด้านหลัง จึงตะโกนออกไป
อิงหลานที่ไม่ทันได้ระวังตัวตกใจเสียงตะโกนของใครก็ไม่รู้ลื่นไถลตกน้ำ
“ช่วยด้วย” นางส่งเสียงขอความช่วยเหลือ
เมิ่งจินหยวน เวลานี้ยืนมองอยู่บนโขดหิน เห็นเป็นเพียงเด็กหนุ่มร่างเล็กผู้หนึ่งที่กำลังจะจมน้ำหายไป
“คุณชาย ช่วยข้าด้วย” นางส่งเสียงร้องตะโกน
“บอกมาก่อนเจ้าเป็นใคร ใครส่งเจ้ามา” ชายหนุ่มไม่ไว้ใจ เขาตั้งใจจะให้เด็กนั่นตอบคำถามเขาก่อนที่จะลงมือช่วยเหลือ
อิงหลานมองขึ้นไปบนโขดหินเห็นเงาร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกไม่ไหวติง นางตะโกนเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดจะช่วยนางเลยสักนิด
ความทรงจำตอนก่อนตายผุดเข้ามาอีกครั้ง ตอนเป็นฟ่านจื่ออิงนางก็ตายเพราะพลัดตกน้ำความกลัวก่อขึ้นในจิตใจ
แต่ก่อนที่ลมหายใจของนางจะหมดไป ก็ถูกวงแขนแข็งแกร่งของใครสักคนฉุดขึ้นจากน้ำ
คนตัวเล็กเสื้อผ้าหลุดลุ่ยผ้าแทบที่พันหน้าอกตอนนี้ก็เปียกชุ่มคลายตัว ถุงเครื่องเทศกลิ่นแรงก็หายไปไหนไม่รู้ อิงหลานนั่งหอบหายใจเพราะความเหนื่อย ความหวาดกลัวจากความตายเมื่อครู่ ส่งผลให้ร่างกายเล็ก ๆ ของนางสั่นเทา
เพราะช่วยเด็กนั่นขึ้นจากน้ำได้แล้ว เมิ่งจินหยวนจึงรู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นหญิงสาว แถมยังมีใบหน้าผุดผาดงดงามอีกด้วย รูปร่างอรชรที่เปิดเผยต่อหน้าต่อตา คนตัวสูงจ้องมองนางอย่างไม่วางตา ร่างกายของเขาและนางอยู่ห่างกันเพียงแค่เอื้อม ตอนที่ไปอุ้มนางมาจากในน้ำยังได้กลิ่นเหม็นหึ่งติดกายอยู่เลย ไหนเวลานี้จึงกลายเป็นกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ป่าไปเสียได้
กว่าอิงหลานจะรู้ตัวก็ถูกคนผู้นั้นมองจนทะลุปรุโปร่ง
เพี๊ยะ!! อิงหลานตบหน้าคนผู้นั้นไปหนึ่งที ชายผู้นั้นยิ้มอ่อนโยนให้นางก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ขึ้น
“ท่านมองอะไรกัน” คนตัวเล็กรีบห่อหุ้มร่างกายตัวเองให้เรียบร้อย ความลับที่นางเป็นสตรีถูกเปิดเผยต่อหน้าชายผู้นี้ หรือว่าจะเป็นหนึ่งในตัวละครของนาง
เมิ่งจินหยวนยิ้มเจ้าเล่ห์ ในหล้านี้มีด้วยหรือสตรีที่ไม่รู้จักเขา
“เจ้าไม่รู้จักข้าจริง ๆ หรือว่าแกล้งเสแสร้งกันแน่”
มือเล็ก ๆ ของนางเงื้อจะฟาดหน้าเขาอีกครั้ง กล้าดีอย่างไรมาดูถูกนางกัน แต่คนผู้นั้นไวกว่า คว้ามือนางเอาไว้ได้ทัน
“ปล่อย” อิงหลานพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการควบคุมของคนผู้นั้น
“หากคิดตบข้าอีกที ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเสียตรงนี้” เมิ่งจินหยวนข่มขู่
“จะฆ่าก็ฆ่า ข้าไม่กลัวเจ้า” อิงหลานเชิดหน้า ตายอีกครั้งจะเป็นไรไป ถ้าตายแล้วเผื่อเรื่องราวจะได้จบ ๆ ไป
คนตัวสูงดึงให้นางลุกขึ้น สตรีตัวเล็กนี่สูงเพียงระดับไหล่เขาเท่านั้น เส้นผมที่ผูกมัดเอาไว้แบบผู้ชาย ร่วงหล่นล้อมกรอบหน้าได้รูป รูปร่างอรชรบอบบาง หน้าตางดงามหาผู้ใดเปรียบไม่ได้ งามจนไม่คิดว่าจะมีสตรีใดสวยงามเท่านี้อีก กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของนางกระตุ้นความรู้สึกภายในยากที่จะอดกลั้น
อยากรู้จริง ๆ ว่าใครเป็นคนส่งนางมากันแน่ รอบตัวเขาล้วนมีแต่ผู้ไม่หวังดี คราวนี้ถึงขั้นส่งหญิงงามมาหลอกล่อเขาเชียวหรือ
“ท่านอ๋อง” องครักษ์นายหนึ่งเห็นว่าท่านอ๋องเงียบไป พร้อมกับได้ยินเสียงของสตรี จึงรีบเข้ามาดู
อิงหลานเห็นว่ามีบุรุษอีกคนเดินเข้ามากลัวว่าจะเห็นตนเองที่แต่งกายไม่เรียบร้อยเตรียมจะโดดน้ำอีกครั้งแต่ เมิ่งจินหยวนกลับรั้งร่างนางมาโอบกอดเอาไว้แทน
“ไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไร ข้าจัดการได้” เมิ่งจินหยวนกล่าว พร้อมกับสงสัญญาณให้องครักษ์หนุ่มเดินออกไป
“เขาไปหรือยัง” คนตัวเล็กร้องถามคนที่กดหัวนางแนบอก
“อยู่นิ่ง ๆ” เมิ่งจินหยวนยังคงกอดนางเอาไว้ไม่ปล่อย ตั้งใจฉกฉวยโอกาสจากร่างกายนุ่มนิ่มนิดหน่อย
เพราะตัวสูงกว่าเขาจึงมองเห็นตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์บริเวณต้นคอของนาง นิ้วมือหยาบค่อย ๆ ลูบไล้ผ่านตราสัญลักษณ์นั่น อย่างหลงใหล กลิ่นกายหอมประหลาดทำให้เวลานี้เขาเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
คนเมื่อครู่ดูเหมือนว่าจะออกไปแล้ว แต่ผู้ชายกักขฬะนี่ไม่ยอมปล่อยตัวนางสักที แถมยังใช้มือลูบไล้ต้นคอนางอย่างหยาบคาย ร่างกายของอิงหลานมีปฏิกิริยาบางอย่างที่แม้แต่ตนเองก็ไม่เข้าใจ
“นี่...เจ้า” คนตัวเล็กหายใจหอบถี่ มีน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ปล่อย”
“ข้าปล่อยเจ้าแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้าต่างหากที่ไม่ยอมปล่อยมือจากข้า” เมิ่งจินหยวนยกแขนออก
เป็นสตรีตัวเล็กนุ่มนิ่มนี่ต่างหากที่ไม่ยอมปล่อยมือจากเขา
ใบหน้าของนางแดงก่ำ ร่างกายร้อนจัด ความรู้สึกนี้อิงหลานเองก็ยากจะอธิบาย เวลาเช่นนี้นางจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ต้องกลับวังแล้ว
“ข้าจะกลับบ้าน”
คนตัวเล็กพูดก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นหิน