บทที่ 7 ลาโง่
กระทั่งวันที่นางถูกฆ่าแท้จริงแล้วสิ่งที่นางทำในตอนนั้นคือการรับดาบแทนแม่ชีผู้หนึ่งจนกระทั่งแม่ชีผู้นั้นหนีไปได้ เป็นเพราะทุกสิ่งนางทำด้วยจิตบริสุทธิ์ไม่คิดถึงชีวิตจึงทำให้นางได้ตบะเซียนมาครอบครอง
นางจะเอาสิ่งที่มีนางมีทั้งหมดมาแลกโดยการขอพบเทพกาลเวลาสักครั้งหนึ่ง
เขาว่ากันว่าวิญญาณของผู้บรรลุเซียนจะสามารถขอร้องสิ่งใดก็ได้ เจ้าอี้เฟยจึงจะขอเรื่องสำคัญกับท่านเทพผู้นี้
กระทั่งผู้นำเชิญวิญญาณของเจ้าอี้เฟยนามซินหรงเอ่ยอย่างอ่อนน้อมว่า
"เจ้าช่างมีจิตใจที่หนักแน่นยิ่งนัก ดีถ้าเช่นนั้นก็ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะพาเจ้าไปหาเทพกาลเวลาตามที่เจ้าต้องการ"
ซินหรงพาเจ้าอี้เฟยเหาะมาถึงหุบเขากาลเวลาซึ่งเป็นที่พำนักของเทพชั้นสูง คือเทพกาลเวลาซ่างเสินนั่นเอง
ซินหรงแจ้งความประสงค์ต่อเทพชั้นผู้น้อยที่เฝ้าหน้าประตู เทพผู้นั้นนำกระจกส่องบุญส่องที่หน้าของเจ้าอี้เฟยก่อนปล่อยให้นางเข้าไป โดยไม่อนุญาตให้ซินหรงเข้าไปด้านในด้วย
"เจ้าอี้เฟยนะเจ้าอี้เฟยในที่สุดก็ดั้นด้นมาจนได้"
เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงดังขึ้นทำให้เจ้าอี้เฟยเดินเข้าไปด้านในด้วยความสงสัย เหตุไฉนเทพกาลเวลาถึงเป็นเพียงเด็กผู้หญิงน่ารักคนนี้ไปได้
"ข้ารู้ในใจของเจ้าคิดสิ่งใด ข้าคือเทพกาลเวลาตัวจริงเสียงจริง หากเจ้าไม่มั่นใจก็จงกลับไปเสีย อย่าทำหน้าตาเช่นคนโง่ให้ข้ารำคาญตาเช่นนี้ ข้าหาใช่คนใจดีอย่างที่เจ้าคิด"
เทพกาลเวลากล่าวอย่างแง่งอนเป็นเด็กๆ เหมือนร่างกายของนาง เจ้าอี้เฟยแย้มยิ้ม ทำความเคารพเด็กผู้นั้นโดยทันที
ว่ากันว่าเทพกาลเวลาไม่มีวันที่ร่างกายร่วงโรย และเขามักจะแปลงกายของตนเป็นเด็กเสมอ ที่นางได้ศึกษามาอย่างละเอียดไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่ประการเดียว
"ซ่างเสินอย่าได้มีโทสะ ข้าเพียงแต่ไม่คิดว่าท่านจะมีร่างกายที่งดงามและอ่อนเยาว์เพียงนี้"
เทพกาลเวลาร้อง เห๊อะ ออกมาคำหนึ่ง เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่านางกำลังเยินยอเขาเพื่อผลประโยชน์กันเล่า ผู้ที่ต้องการพบเขาล้วนมีสิ่งที่มุ่งหวังด้วยกันทั้งนั้น
ตำแหน่งนี้ถึงจะดูน่าเบื่อแต่มองอีกมุมก็สนุกอยู่ไม่น้อย
"ข้าไม่อยากเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระกับเจ้า ส่งตบะเซียนทั้งหมดของเจ้ามาให้ข้าแล้วอยากไปที่ใดบอกข้ามา หากเจ้ารับเงื่อนไขของข้าได้ข้าจะนำเจ้าไปที่นั่น"
เทพกาลเวลากล่าวด้วยน้ำเสียงสนุกสนานคล้ายกับกำลังจะได้ของเล่นใหม่ ตบะเซียนปกติแล้วมีผู้ใดยกให้คนอื่นกันเล่า หากเซียนผู้นั้นไม่ฟั่นเฟือนเสียก่อน เห็นจะมีนังหนูผู้โง่เขลานี้กระทำเป็นคนแรก
ของที่มีค่าที่สุดของเซียนผู้หนึ่งนอกจากของวิเศษที่หายากแล้วก็คือตบะเซียนนี่แหละ เช่นนี้เขาย่อมสามารถสั่งสมบารมีอยู่ชั่วนิรันดร์นับแสนปีแข่งกับมหาเทพผู้นั้นได้เป็นแน่
"ข้ามีชายที่รักอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ข้าอยากไปหาเขาใช้ชีวิตอยู่กับเข้าเจ้าค่ะ"
เทพกาลเวลามองเจ้าอี้เฟยอย่างรู้อยู่แล้ว เขายังทำท่าทางเหมือนว่านางเป็นลาโง่ตัวหนึ่งอีกด้วย
”