บทที่ 13 ท่านพี่
โจวเจี๋ยหลุนทำตามที่รับปากมารดา เขาเป็นหมอประจำตัวเธอและคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด
นั่นยิ่งทำให้เจ้าอี้เฟยมีกำลังใจที่ดีแม้ร่างกายยังไม่สมบูรณ์แต่พลังของเธอก็นับว่าไม่เลว
เสียงคนสองคนพูดคุยกันเบา ๆ ดังอยู่ด้านนอกทำให้เฉียนเฟยเฟยต้องเปล่งเสียงร้องเรียกออกมาอย่างหวาดๆ
“เฟยเอ๋อมีคนกำลังมา เฟยเอ๋อ เฟยเอ๋อ”
เฉียนเฟยเฟยพยายามร้องเรียกเมื่อเห็นว่าเจ้าอี้เฟยยังคงนั่งนิ่ง เวลาที่เธอดำดิ่งอยู่ในห้วงสมาธิหลายครั้งที่เธอไม่ได้ยินเสียงใด
เสียงเปิดประตูเบาๆ ดังขึ้น เฉียนเฟยเฟยหันขวับไปมองตามเสียงนั้น แต่ไร้คนก้าวเท้าเข้ามาและประตูหน้าห้องก็ถูกปิดลงอย่างเงียบกริบ
เจ้าอี้เฟยค่อยๆ ลืมตาขึ้นเห็นใบหน้าผีของเฉียนเฟยเฟยขาวยิ่งกว่าเดิมจนคล้ายจะโปร่งแสงแล้วของเฉียนเฟยเฟยก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง
“เธอเป็นอะไรเฟยเฟย เกิดอะไรขึ้น”
“เหมือนมีคนกำลังมาฉันเห็นประตูเปิดแต่ไม่มีใครเข้ามา ฉันกลัวว่าเขาจะจับเธอได้ถ้าเป็นคุณหมอสุดหล่อคนนั้น”
เจ้าอี้เฟยมองไปที่ประตูยังไม่ทันจะถามเฉียนเฟยเฟยก็ลอยทะลุผนังออกไปพร้อมเสียงแล้ว
“ฉันไปดูก่อนดีกว่า เธอรออยู่นี่”
เมื่อทะลุออกไปก็พบว่าโจวเจี๋ยหลุนกำลังคุยธุระกับเลขาของเขาอยู่ เธอจึงโล่งอกที่เขาไม่พรวดพราดเข้ามา
เฉียนเฟยเฟยลอยกลับเข้ามาในห้อง
“คุณหมอยอดรักของเธอน่ะ”
“พี่เจี๋ยหลุนเหรอ วันนี้ทำไมมาเร็วล่ะ ปกติมาช่วงเย็นนี่”
เจ้าอี้เฟยรีบนอนลงบนเตียงอย่างร้อนรน “เขาเห็นฉันเดินลมปราณหรือเปล่า ถ้าเขาเห็นเขาต้องสงสัยแน่เลย
“ไม่เห็นหรอกคุณเลขาคนสวยคงเรียกเขาก่อนน่ะ” เฉียนเฟยเฟยลอยขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไม่มีรอยยุบแม้แต่น้อย
เจ้าอี้เฟยถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วมองไปยังประตูที่เปิดเข้ามา เธอยิ้มกว้างให้เขาอย่างสดใส พลังชีวิตของเธอมาแล้ว
“พี่เจี๋ยหลุนวันนี้ทำไมมาตรวจเร็วจังเลยค่ะ”
“ผมต้องไปธุระสองสามวัน”
เขาว่าพลางใส่หูฟังแล้วบอกให้เธอหายใจลึกๆ พร้อมเอาเครื่องมือมาแนบที่บริเวณหน้าอกบอบบางของเธอ
เจ้าอี้เฟยปล่อยให้เขาตรวจร่างกาย พยาบาลและหมออีกคนที่ตามเขามาก้มลงไปจดตามคำพูดของเขา
“ความดันดี ไข้ไม่มี เดี๋ยวเจาะเลือดไปตรวจอีกสักหน่อยถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกจากโรงพยาบาลได้”
เจ้าอี้เฟยจ้องมองใบหน้าคมที่ตั้งหน้าตั้งตาตรวจเธอจนเรียบร้อย เธอยังถือโอกาสจับมือเขาด้วย
โจวเจี๋ยหลุนดึงมือออกอย่างสุภาพ ใบหน้าเฉยชาจนเธอชินเสียแล้ว ไร้แววตาอ่อนโยน ไม่มีเลยสักนิด
“พี่เจี๋ยหลุนจะไปไหนคะ”
หญิงสาวเลิกคิ้วถามอย่างสนิทสนม เห็นใบหน้าของเขาดูนิ่งเฉยขึ้นกว่าเดิมหญิงสาวจึงรีบกล่าวตะกุกตะกักออกมาอย่างรวดเร็ว
“เฟยเอ๋อไม่ได้ตั้งใจยุ่งเรื่องส่วนตัวนะคะ แต่เอ้อถามเพราะเคยชิน”
เธอเกาศีรษะเมื่อรู้สึกว่ายิ่งแก้ตัวก็ยิ่งแย่ ใบหน้าเล็กก้มต่ำลงพลางกัดปากพยายามหาคำพูดที่ดูดีกว่านี้
“เฟยเอ๋อเธอถามแบบนั้นเดี๋ยวเขาก็โกรธหรอก”
เฉียนเฟยเฟยที่กระโดดมาอยู่ข้างเตียงเหลือบมองคุณหมอโจวคุณหล่ออย่างเกรงๆ ผู้ชายคนนี้ช่างเคร่งขรึมจนดูน่ากลัวจริงๆ
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ตั้งใจก้าวก่าย”
หญิงสาวกล่าวออกไปเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมตอบคำถาม แถมยังหน้าตึงขึ้นมาอีก
“ไม่เป็นไร ผมมีประชุมทางการแพทย์เป็นงานของรัฐบาล แต่ไม่ต้องห่วงผมได้มอบหน้าที่ให้คุณหมอท่านอื่นดูแลคุณแล้ว อีกอย่างผมเห็นว่าร่างกายของคุณแข็งแรงและฟื้นตัวได้เร็วมากไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลยในตอนนี้”
คำอธิบายของเขาทำให้พยาบาลสองคนที่ติดตามแปลกใจ ปกติท่านประธานไม่เคยบอกเรื่องส่วนตัวกับใครมาก่อนโดยเฉพาะคนไข้ แต่ก็ว่าแหละนี่คือคนไข้วีไอพีที่สุดของโรงพยาบาลแล้ว
“พี่เจี๋ยหลุนคะ แต่เฟยเอ๋อยังเจ็บตรงนี้ไม่หายเลยค่ะ”
เจ้าอี้เฟยจับมือเรียวของเขาไว้แล้วเอามาแนบอกตัวเองมือเล็กลูบมือเขาอย่างถือวิสาสะ หญิงสาวเห็นอาการกระตุกของเขาเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ชักมือออกให้เธอต้องเสียหน้า