บทที่ 9
สองพี่น้องเมื่อถึงเรือนก็บังคับรถม้าเข้าไปเก็บด้านในเรือนทันที พร้อมบอกบิดามารดาเรื่องที่อาจจะมีชาวบ้านมาที่เรือนเพื่อดูรถม้า เพียงไม่นานเสียงร้องเรียกหน้าเรือนก็ดังขึ้น
"อาเทียนอยู่หรือไม่" จางเซียนตะโกนเรียกน้องชายเสียงดัง
สี่คนพ่อแม่ลูกเตรียมรับมือไว้พร้อมแล้ว ข้าวของภายในเรือนก็ถูกซินหยานเก็บเข้าไปไว้ในช่องเก็บของ ของนางแล้ว
"มีอันใดหรือขอรับ" จางเทียนที่ถูกจางเหลี่ยงและชุยเหมยพยุงออกมาจากเรือน
จางเซียนเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นอาการของน้องชายยังไม่ได้ดีขึ้น ชาวบ้านที่ตามมาก็ส่งเสียงพูดคุยกันจนจับใจความไม่ได้
"หากเจ้ามีเงินเหตุใดถึงไม่นำไปรักษา" ชาวบ้านในกลุ่มพูดขึ้น
"ต้องรักษาอยู่แล้วขอรับ เพียงแต่ข้าดินทางลำบากจึงให้อาเหลี่ยงซื้อรถม้าไว้ใช้งาน"
"เจ้ามีเงินมากเพียงนั้นทำไมไม่นึกถึงพี่ชายของเจ้าบ้าง" นางจูพี่สะใภ้ของจางเทียนเอ่ยขึ้น
"หากข้าจำไม่ผิด พวกท่านต้องการแยกครอบครัวมิใช่หรือขอรับ อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อะไรที่ข้าควรจะได้มาสักอย่าง" จางเทียนจ้องมองพี่สะใภ้อย่างดุดัน
"เหอะ ในหนังสือแยกบ้าน ท่านลุงเขียนไว้แล้วมิใช่หรือว่าทั้งสองครอบครัวไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน ยามที่ท่านพ่อข้าเกือบพิการ ท่านก็ขับไล่พวกเราออกมา ยามนี้ท่านจะมาเรียกร้องสิ่งใด" ซินหยานมองที่ปลิงสองตัวที่มายืนร้องของเงินอยู่หน้าเรือน
"นังเด็กสารเลว เจ้าจะรู้อันใด อย่างไรอาเทียนก็เป็นน้องชายเมื่อมีเงินก็ควรจะแบ่งให้พี่ชายของตนบ้าง" นางจูยังกล่าวอย่างไม่ยินยอม
"เช่นนั้นหรือ หากท่านอยากได้เงินก็ไม่ร้องกับทางการดู ข้าอยากจะรู้ว่าทางการจะตัดสินเช่นไร" ซินหยานมองทั้งคู่ด้วยสายตาสังหาร
ที่นางกล่าวไม่เกินจริง นางอยากจะรู้ว่าถ้าไปร้องเรียนทางการ ท่านลุงของนางจะได้เงินหรือไม่ หากต้องแบ่งเงินเพราะยังไม่ได้ทำการตัดขาดกัน นางจะได้จัดการทั้งหมดทีเดียว
จางเซียนกับนางจูเมื่อเห็นสายตาของซินหยานที่น่าหวาดกลัวต่างก็เงียบปากไป ยิ่งได้ยินเรื่องให้ไปร้องทางการ ผู้ใดจะกล้าไป
เมื่อมีคนไปแจ้งผู้นำหมู่บ้านก็รีบมาดูเหตุการณ์ เมื่อเห็นสภาพของจางเทียนที่ถูกชุยเหมยและจางเหลี่ยงประคองก็ถอนหายใจออกมา
"มีเรื่องอันใดกัน" ผู้นำหมู่บ้านตงถามขึ้น
"ข้าเห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกันหาเงินมาได้มากก็สมควรจะแบ่งกันจริงหรือไม่ท่านผู้นำหมู่บ้าน" นางจูรีบเอ่ยก่อน
"เหอะ" ผู้นำหมู่บ้านสบถออกมา ตอนที่แยกเรือนเขาก็เอ่ยแย้งไปแล้วว่าจางเทียนมิได้อะไรมาเลย แต่เป็นจางเทียนที่ยินยอมพี่ชายเขาเป็นเพียงคนนอกก็ทำอันใดไม่ได้
แต่มาครั้งนี้ จางเทียนก็ยังไม่หายดี พี่ชายพี่สะใภ้ก็รีบร้อนมาหาผลประโยชน์จากเขาอีก
"เจ้าไม่ละอายใจหรืออาเซียน ตอนแยกเรือนเจ้าก็ไม่ให้ที่ทำกินน้องชาย มายามนี้น้องของเจ้าหาเงินมาได้ก็ยังจะมาเบียดเบียนอีก" ผู้นำหมู่บ้านต่อว่าสองผัวเมียอย่างไม่ไว้หน้า
"ท่านจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร อาเทียนเพียงแค่แยกเรือนยังไม่ได้ตัดขาดกับข้าเสียหน่อย" จางเซียนเอ่ยอย่างหน้าหนา
"เช่นนั้นก็ตัดขาดกันเสียเถิดขอรับ" จางเทียนเอ่ยขึ้น เพราะเขาทนถูกพี่ชายเอาเปรียบไม่ได้อีกแล้ว ถ้ายอมครั้งนี้ต่อไปไม่รู้จะต้องยอมมากน้อยเพียงใด
ยิ่งได้รู้ว่ายู้อวี้เป็นคนที่ผลักบุตรสาวของตนจนตกน้ำจากจางเหลี่ยงที่กระซิบบอกเมื่อครู่ เขาในยามนี้อยากจะเข้าไปทุบตีพี่ชายใจแทบขาด
"เจ้าเอ่ยอันใดออกมารู้หรือไม่อาเทียน" จางเซียนไม่เชื่อหูของตน
"เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่" ผู้นำหมู่บ้านไม่สนใจจางเซียน เขาเอ่ยถามจางเทียนอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าจางเทียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น ผู้นำหมู่บ้านก็ให้คนไปนำกระดาษกับหมึกที่เรือนของเขามาเพื่อเขียนหนังสือตัดขาด นางจูนั่งลงกับพื้นร้องไห้ทุบอกอย่างไม่ยินยอม
หากจางเทียนมีเงินมากขนาดซื้อรถม้าได้ แสดงว่าเขายังต้องมีอีกมาก จะยอมให้เกิดการตัดขาดไม่ได้ ซินหยานเหมือนจะรู้ทัน นางเดินเข้าไปหาท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้แล้วกระซิบเสียงเบา
"ท่านอยากรู้หรือไม่ว่าผู้ใดทำข้าตกน้ำ" ซินหยานแสยะยิ้มออกมา
"เจ้าพูดเรื่องอันใด" นางจูหันไปมองว่ามีผู้ใดได้ยินหรือไม่ นางเค้นถามบุตรสาวตอนที่เขาเมืองแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนางจึงรู้แก่ใจดี
"หรืออยากให้ข้าแจ้งทางการ" ซินหยานก้มหน้าจ้องเข้าไปในดวงตาของนางจูอย่างข่มขู่
"พูดเรื่องอันใดกัน" จางเซียนและผู้นำหมู่บ้านเอ่ยถามเพราะพวกเขาไม่ได้ยิน
"ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ" นางจูลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า ก่อนจะรีบปิดปากซินหยาน เพราะกลัวนางจะหลุดปากพูด
"หึ" ซินหยานปัดมือที่สกปรกของนางจูออกก่อนจะมองสบตาอย่างกดดัน แล้วเดินกลับไปยืนข้างมารดา
ไม่นานคนที่กลับไปนำเครื่องเขียนของผู้นำหมู่บ้านก็กลับมาถึง จางเซียนที่ยังไม่ยินยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะโดนนางจูดึงรั้งไว้ พร้อมทั้งขอให้รีบเขียนหนังสือตัดขาด
ผู้นำหมู่บ้านมองสลับนางจูกับซินหยานอย่างสงสัย เพราะไม่รู้ว่าซินหยานพูดเรื่องอันใด นางจูถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้
จางเทียนรับหนังสือตัดขาดมาอ่านอีกรอบ ซินหยานก็เข้าไปยืนข้างบิดาเพื่ออ่านด้วย
"ท่านพ่อ เขียนลงไปด้วยเจ้าค่ะ หากครอบครัวท่านลุงใหญ่ยังมาวุ่นวายไม่เลิกทางเราจะเรียกเก็บเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงิน" จางเทียนบอกผู้นำหมู่บ้านตามคำพูดของซินหยาน
นับว่าครั้งนี้จางเทียนตัดขาดกับพี่ชายโดยสิ้นเชิง จางเซียนมองหนังสือตัดขาดในมืออย่างไม่อยากเชื่อ เขาก้มหน้ากลับเรือนอย่างจำใจ เพราะนางจูไม่อยากจะอยู่เห็นหน้าซินหยานแม้แต่เค่อเดียว (1เค่อ=15นาที)