บทที่ 13
เมื่อจางเหลี่ยงเดินออกมาจากประตูข้างกำแพงเรือนก็พบน้องสาวในชุดสีดำ แขนข้างซ้ายของนางยังมีเลือดไหลออกมา แล้วยังมีบุรุษมาจากที่ใดไม่รู้ยืนอยู่ด้านหลัง
"หยานเออร์เจ้าไปที่ใดมา เหตุใดทั้งบาดเจ็บเช่นนี้" ซินหยานกลอกตามองบน
"ไว้ข้าเล่าให้ท่านฟังทีหลังเจ้าค่ะ" ซินหยานตบไปที่หลังมือของจางเหลี่ยง เพราะยามนี้พี่ชายของนางเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมาแล้ว
"แล้วนี่ผู้ใด" จางเหลี่ยงชี้ไปที่ด้านหลังของซินหยาน
"คนผ่านทางเจ้าค่ะ ขอพักที่เรือนหนึ่งคืน ฝากท่านพี่ดูแลด้วยเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อน" ซินหยานตบบ่าของพี่ชายก่อนที่นางจะเดินเข้าเรือนไป
จางเหลี่ยงมองไปที่มู่หยางอย่างงงงวย เพราะน้องสาวทิ้งเรื่องที่ทำไว้แล้วให้เขาจัดการ
"เช่นนั้นท่านตามข้ามาขอรับ" จางเหลี่ยงเดินนำมู่หยางไปที่ห้องรับรองภายในเรือน
"ท่านต้องการอะไรเรียกข้าได้ขอรับ ข้าอยู่ห้องด้านข้างของท่าน" จางเหลี่ยงเมื่อส่งมู่หยางแล้วก็ออกจากห้องไป
ก่อนที่เขาจะไปเข้าได้บอกวิธีใช้ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำให้มู่หยางไว้แล้ว หากน้องสาวกล้าพามาก็คงไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องใด นี่คือสิ่งที่จางเหลี่ยงคิดไปเอง
มู่หยางมองสิ่งของที่อยู่ในห้องอย่างประหลาดใจ เครื่องเรือนและที่นอนเขาที่มาจากตระกูลใหญ่ยังไม่เคยได้พบเห็น ห้องน้ำภายในห้องนอนก็ชวนให้คนตกตะลึงยิ่งนัก
โถส้วมเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องมีบ่าวคอยยกไปทิ้งเลย อ่างอาบน้ำเพียงแค่หมุนที่ปิดเปิดก็มีน้ำไหลออกมาแล้ว ไม่ต้องเรียกให้บ่าวจัดเตรียมน้ำให้ยุ่งยาก แต่เหตุใดถึงมีน้ำอุ่นออกมาได้เขาก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน
จางเหลี่ยงกลับมาที่ห้องของมู่หยางอีกครั้งเพื่อนำเสื้อผ้าของบิดามาให้มู่หยาง และนำอาหารมาให้เขาด้วย
"ขอบคุณท่านมาก" มู่หยางกล่าวขอบคุณจางเหลี่ยง
"ไม่ต้องขอบคุณข้าขอรับ ท่านเป็นแขกของหยานเออร์ข้าย่อมต้องดูแลท่านอย่างดี" จางเหลี่ยงกล่าวจบก็เตรียมจะออกไป
"ประเดี๋ยว นางมิได้ชื่อสืออีหรือ" มู่หยางเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
"สืออีหรือ น้องสาวข้าจางซินหยานขอรับ สืออีคือผู้ใด" จางเหลี่ยงมองมู่หยางเหมือนมองคนโง่ มากับน้องสาวตนแม้แต่ชื่อยังเรียกผิด
จางเหลี่ยงทิ้งให้มู่หยางยืนอึ้งอยู่ที่หน้าห้อง ตัวเขาเดินกลับไปนอนที่ห้องของตน
ซินหยานเมื่อกลับมาถึงห้องของตนนางก็เข้าไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย
"เชาชื่อ เจ้านำน้ำออกมาให้ข้าก่อนได้หรือไม่" เพราะยังมีมู่หยางอยู่ในเรือน ซินหยานจึงไม่อยากนำบ่อน้ำวิเศษออกมาในตอนนี้
"ได้ขอรับ" เชาชื่อนำน้ำวิเศษออกมาใส่ในอ่างอาบน้ำของซินหยาน
ซินหยานถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปแช่ในอ่างน้ำ ความอุ่นของน้ำทำให้ซินหยานผ่อนคลายยิ่งเป็นน้ำวิเศษด้วยแล้วก็ยิ่งช่วยให้ร่างกายของนางที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
บาดแผลตามตัวของซินหยานก็ค่อยๆ เลือนหายไป ซินหยานหลับตาลงแช่น้ำอย่างสบายใจนางจึงยังไม่ได้รับรู้ว่าร่างกายของนางในยามนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อขึ้นจากน้ำซินหยานนางก็เช็ดผมจนแห้งแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว
วันต่อมาซินหยานนางจึงตื่นสาย เมื่อชุยเหมยนางจะเดินมาดูบุตรสาวก็พบว่านางยังไปตื่นจากที่นอน พอจะเรียกจางเหลี่ยงก็เอ่ยห้ามไว้ พร้อมทั้งพามู่หยางมาแนะนำตัวกับบิดามารดา
"เอ่อ คุณชายมู่ท่านว่าหยานเออร์ไปช่วยชีวิตท่านไว้เมื่อคืนหรือขอรับ" จางเทียนกว่าจะหาเสียงเจอแล้วเอ่ยถามมู่หยางเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
"ขอรับ" มู่หยางมองทุกคนอย่างแปลกใจ
คนในครอบครัวของนางไม่รู้ว่านางออกไปช่วยชีวิตเขา จะเป็นไปได้อย่างไร
"เช่นนั้น ทานอาหารกันเสียก่อนเถิด ของหยานเออร์ข้าเก็บไว้ให้นางแล้ว" ชุยเหมยไม่เหมือนจางเทียนที่ยังตกตะลึงเรื่องของบุตรสาว
หากมีเรื่องอันใดที่สงสัยสู้เก็บไว้ถามบุตรสาวเสียดีกว่า จางเหลี่ยงเดินตามมารดาไปที่ห้องครัวเพื่อยกอาหารมาขึ้นโต๊ะ มู่หยางกำลังจะเดินตามไปแต่ถูกจางเทียนเอ่ยห้ามไว้เสียก่อน
"ท่านแม่ มีอะไรกินบ้างเจ้าค่ะ" ระหว่างที่ทุกคนกำลังทานอาหาร ซินหยานที่เพิ่งตื่นท้องของนางก็หิวเสียแล้ว
"หยานเออร์เจ้า" จางเทียนมองบุตรสาวอย่างตกตะลึง
จางเหลี่ยงที่กำลังจะร้องบอกน้องสาวก็ถูกชุยเหมยหยิกแขนไว้เสียก่อน จางเทียนก็โดนเช่นกัน ความลับของบุตรสาวตนมากมาย ยิ่งมีผู้อื่นอยู่ด้วยยิ่งไม่สมควรถามอะไรในตอนนี้
"ในเมื่อตื่นแล้วก็มานั่งกินเสีย" ชุยเหมยร้องเรียกให้บุตรสาวมานั่งข้างตน
มู่หยางที่เพิ่งได้เห็นใบหน้าของซินหยานก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ เหตุใดสาวน้อยที่งดงามราวนางจิ้งจอกเช่นนี้ถึงได้กล้าลงมือสังหารคนอย่างเลือดเย็น
ในยามนี้มู่หยางไม่รู้จะต้องตกตะลึงกับครอบครัวนี้มากน้อยเพียงใด โต๊ะอาหารที่หมุนได้ เมื่ออยากกินสิ่งใดก็ไม่ต้องเอื้อมมือ เพียงแค่หมุนให้จานอาหารมาอยู่ตรงหน้าตน สิ่งนี้แม้แต่ในวังหลวงยังไม่มีให้พบเห็น
รสชาติอาหารก็ดีเสียยิ่งกว่าเหลาอาหารในเมืองหลวงเสียอีก ซินหยานไม่ได้สนใจในตัวมู่หยางที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่นางลงมือกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และขอข้าวเพิ่มจากมารดาอีกหนึ่งถ้วย
"เจ้าไปทำอันใดมาถึงได้หิวโหยเช่นนี้" ชุยเหมยต้องมองค้อนบุตรสาวที่ไม่สำรวมเมื่อมีคนนอกอยู่ด้วย
ซินหยานปรายตาไปทางมู่หยาง ก่อนจะกอดแขนมารดาอย่างออดอ้อนเพื่อขอข้าวเพิ่ม