บทที่๑...หนุ่มผู้โชคร้าย (๑)
‘ร้านแสนดี’ เป็นชื่อของร้านขายต้นไม้และยังรวมถึงชื่อเจ้าของร้านแห่งนี้ รูปร่างสูงโปร่งราวนางแบบ ผมยาวดำขลับถูกมัดเป็นมวย สวมเสื้อลายสก็อตและกางเกงวอร์มขายาว ใบหน้าไร้ซึ่งการแต่งแต้มทว่ายังดูเหมือนสาววัยรุ่นทั้งที่อายุตอนนี้ปาไป 56 ปีแล้ว
ชายหลายคนมาด้อมมองเจ้าของร้านคนสวยที่เสียสามีไปเมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยโรคมะเร็งปอด เลี้ยงลูกสาวเพียงคนเดียวลำพังจนเปิดร้านขายต้นไม้ขนาดกลาง มีผู้คนแวะเวียนมาซื้อบ้างจนเมื่อสามปีที่แล้ว มี นักออกแบบสวนมาติดต่อขอซื้อต้นไม้และผูกขาดกับร้านของเธอ ทำให้ค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เสียงร้องของหญิงอวบดังไปทั่วสวน ก่อนที่เธอจะวิ่งไปยังด้านหลังพบบ้านไม้สองชั้นที่เพิ่งซ่อมแซมไปเมื่อหลายเดือนก่อน หน้าบ้านมีต้นไม้มงคลวางไว้ ช่วงนี้ผู้คนที่ค้าขายกำลังนิยมนำต้นส้มจี๊ดและชวนชมมาปลูกคู่กัน
เพื่อเรียกทรัพย์เข้าบ้าน มีหรือที่พวกหล่อนจะไม่ทำตาม สั่งมาตั้งแต่วันแรกและขายดีมากเนื่องจากข่าวเรื่องนี้บอกกันปากต่อปาก ใครเชื่อหรือทำเพราะสร้างความหวังต่างเดินทางมาซื้อไม่ขาดสายขายหมดในพริบตา
“ละอองค่อยพูดก็ได้ เอ็งจะเสียงดังทำไม” ชายรูปร่างแคระแกนเดินออกมาจากบ้านขณะถือตะหลิว ใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลา ทว่าเพราะขนาดตัวจึงดูเด็กกว่าอายุจริง
คนเป็นลูกสาวหายใจเข้าออก พยายามตั้งสติก่อนจะมองหาน้องสาวที่เป็นญาติกันและเห็นมาแต่อ้อนแต่ออก
พอดีกับสาวสวยออกมาจากบ้าน ใบหน้าบ่งบอกว่าสายเลือดนั้นไม่ใช่ไทยแท้ แต่เป็นลูกครึ่งที่มีสายเลือดของต่างชาติอยู่ครึ่งหนึ่ง หน้าคมสวยบาดใจ ชายหลายคนมาเมียงมองทว่าเหมือนหญิงสาวจะไม่ตกลง ปลงใจกับใครสักคน
หล่อนอยู่ในชุดพร้อมสำหรับทำงาน อลิสา นวัตกรณ์กิต สาวพนักงานธนาคารที่ทำงานมากว่าสี่ปี และเป็นพนักงานดีเด่นซะด้วย
“มีอะไรพี่ละออง” ถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเหงื่อผุดซึมตาม ไรผมของอีกฝ่าย
“มีคนมาหาอลิส” หอบหายใจแล้วกลืนน้ำลาย เธอนิ่งคิดสักครู่ไม่รู้ว่าใครมาหาเช้าขนาดนี้ พอดูนาฬิกาก็เหลือเวลาอีกไม่นานจะเข้างาน จึงรีบเดินแกมวิ่งไปหน้าบ้านที่เป็นร้านขายต้นไม้
สองพ่อลูกมองตามน้องน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้าน ก่อนที่ละอองจะทำจมูกฟุดฟิดเหมือนได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แล้วหันมามองบิดาตนที่อยู่ในชุดทำครัว
“พ่อ มีอะไรไหม้หรือเปล่า” เมื่อบอกอย่างนั้นนายเขียวก็เบิกตากว้าง คิดได้ทันทีว่าตนกำลังทำอาหาร จนได้ยินเสียงลูกจึงได้ออกมาดูด้วยความสงสัย
“ฉิบหายแล้ว” ร้องเสียงหลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างในเพื่อดูความเสียหาย ทั้งยังกลัวว่าไฟจะไหม้บ้านอีก สองพ่อลูกถอนหายใจเมื่อเห็นแค่ควันที่โขมง ไม่ใช่ไฟไหม้นอกจากปลาที่เกรียมอยู่กระทะ
สงสัยวันนี้ เมนูปลาทอดคงเป็นหมันแล้ว
หญิงสาวเดินออกมาหาแม่ที่กำลังจัดเรียงต้นไม้ ช่วงเช้ามีคนนัดเพื่อมาซื้อต้นไม้ขนาดใหญ่ไปปลูกที่บ้านหลังใหม่ ท่านจึงอยู่ดูแลจน ทุกอย่างเรียบร้อย หลายคนที่ไม่รู้อายุของคุณแสนดีต่างคิดว่าท่านอายุเพียงสามสิบปลายๆ เท่านั้น
ใครเล่าจะรู้ว่าหญิงผู้นี้อายุห้าสิบกว่าเข้าไปแล้ว ทั้งที่ทำงานหนักแต่ยังดูแลผิวหน้าและผิวกายได้ดีเสมอ ทำให้ชายหลายคนอยากเสนอตัวเป็นพ่อของอลิสากันทั้งนั้น
“แม่ ใครมาหาหนูเหรอ” เข้าไปถามมารดาพลางมองซ้ายแลขวา ท่านจึงบุ้ยปากไปทางด้านซ้าย เห็นชายคนหนึ่งกำลังก้มๆ เงยๆ มองต้นไม้มงคลที่ช่วงนี้คนนิยมซื้อไปปลูกอยู่บ้าน
เรียกได้ว่าเป็นช่วงขาขึ้นของร้านต้นไม้หลายแห่ง เมื่อผู้คนเข้ามาจับจ่ายซื้อต้นไม้ไปปลูกที่บ้าน เรียกกระแสของพืชพันธุ์สีเขียวกลับฟื้นฟู อีกครั้ง
“หือ ใครน่ะ” พึมพำเสียงเบา ไม่ค่อยมีผู้ชายมาหาหล่อนที่บ้าน ส่วนมากจะเป็นเพื่อนผู้หญิง และตอนนี้เพื่อนสนิทของเธอก็ไม่อยู่เมืองไทยเนื่องจากติดงานต่างประเทศ
เหลือบมองรถยนต์ราคาแพงก่อนจะหันมามองเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มยืนเต็มความสูงทำให้เห็นชุดสูทราคาแพงที่เขาสวมใส่ ใบหน้าคมส่งยิ้มมาให้เธอก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มกลับ รู้ทันทีว่าคนตรงหน้านั้นไม่ใช่คนอื่นไกล
เป็นเจ้านายของหล่อนนั้นเอง...เกริก วรากมล
“คุณเกริก สวัสดีค่ะ” ยกมือไหว้ทันที ฝ่ายนั้นยกยิ้มเล็กน้อย หน้าตาใจดีทั้งยังหล่อเหลา ถึงจะเป็นพ่อม่ายแต่ก็เนื้อหอมมีสาวแวะเวียนมาหาตลอด ทว่าเขาก็บอกว่าเป็นเพื่อนหรือรุ่นน้องที่รู้จักเท่านั้น
เพราะมีหญิงที่หมายปองอยู่แล้ว ทั้งหล่อนยังทำงานที่เดียวกันอีก อลิสาทราบว่าชายหนุ่มรู้สึกเช่นไรกับตนเอง แต่หญิงสาวไม่ได้คิดเหมือนกันจึงพยายามเงียบและแสร้งไม่รับรู้ความรักที่แสดงออกทางแววตาของอีกฝ่าย
“พอดีผมมาซื้อต้นไม้ เลยแวะมารับคุณไปทำงานด้วยกันเลย” ข้ออ้างนั้นทำให้หล่อนได้แต่ยิ้มแหยะ ไม่กล้าพูดอะไรมากนอกจากพยักหน้า
“สนใจต้นไหนคะ ถามได้นะ” มารดาเห็นท่าไม่ค่อยดี เพราะใบหน้าบุตรสาวไม่ใคร่จะยินดีสักเท่าไหร่จึงถามเพื่อตัดบท
“ผมอยากได้ว่านงาช้างครับ เห็นเขาว่าเป็นสิริมงคลใช่ไหม ถ้าเอาไว้ห้องทำงานได้หรือเปล่า” เห็นต้นไม้ที่ชอบก็ถามเป็นการใหญ่ คุณแสนดีได้ยินอย่างนั้นก็แย้มยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูคนที่ถามไม่หยุดเพราะสงสัย
“ต้นว่านงาช้างปลูกในห้องทำงานได้ค่ะ แถมเลี้ยงง่ายไม่ต้อง รดน้ำบ่อยก็อยู่ได้ หลายคนที่มาซื้อส่วนมากก็ความเชื่อทั้งนั้น บอกว่าปลูกไว้ในบ้านจะช่วยป้องกันภัยแล้วก็เรียกทรัพย์เข้าบ้าน ยิ่งถ้าดอกไม้ออก นะคะส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง ทรัพย์จะยิ่งเข้าเยอะค่ะ” หากพูดเรื่องต้นไม้คนเป็นแม่สามารถพูดได้ทั้งวัน ทำให้เกริกรู้วิธีจะเข้าหาแล้ว
ชายหนุ่มตัดสินใจซื้อต้นไม้เพื่อไปวางไว้ในห้องทำงาน พร้อมกับรับหญิงสาวขึ้นรถด้วย สร้างความอึดอัดแก่คนที่ไม่ค่อยชอบกับวิธีจีบแบบรุกสักเท่าไหร่ หรืออาจเพราะเธอไม่ชอบเขาจึงได้ไม่ชอบทุกสิ่งที่ชายหนุ่มทำไปด้วย
แต่ไม่อยากปฏิเสธให้หมางใจ อย่างน้อยชายหนุ่มก็ยังมีข้อดีที่สามารถแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้
การทำงานแต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อ แผนงานก็เหมือนเดิม ทุกวัน มีอะไรตื่นเต้นหน่อยก็ตรงที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับลูกค้า ความเบื่อหน่ายทำให้อยากลาออกไปช่วยแม่ขายต้นไม้ ทว่าก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น หล่อนอยากมีงานที่มั่นคงเป็นรายได้หลัก
อลิสาเรียนจบมหาวิทยาลัยของรัฐด้วยเกรดเฉลี่ยสูงจนได้เกียรตินิยม หล่อนเลือกคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน แต่ไม่รู้ทำไมจบออกมาทำงานธนาคารได้ ส่วนเพื่อนของเธอแต่ละคนก็ทำงานหลายแขนง บางคนเป็นแอร์โฮสเตส บางคนทำธุรกิจส่วนตัว รับราชการ เป็นดารายังมีเลย
เพราะฉะนั้นเรื่องทำงานให้ตรงสายที่เรียนนั้นจึงใช้ไม่ได้กับพวกเธอ และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้งานตามสายที่เรียนจบ นอกจากจะเป็นกลุ่มอาชีพเฉพาะทางอย่างหมอ พยาบาล วิศวะ ฯลฯ ที่ต้องใช้ความรู้ทางสายอาชีพโดยเฉพาะ
“เสาร์นี้ไปไหนกัน ไปดูหนังไหม” ระหว่างพักกินข้าวเที่ยง เธอก็มีเพื่อนที่ทำงานซึ่งสนิทอยู่สองคนคืออภิชญา ประมวลการณ์อายุเท่ากันทำให้สามารถพูดคุยได้แทบทุกเรื่อง ทั้งอีกฝ่ายยังเป็นคนเฮฮา สร้างเสียงหัวเราะและทำให้วงสนทนาไม่เงียบเหงา
สาวสวยถามเสร็จก็หันมองเพื่อนและรุ่นน้องอย่างฝนแก้ว ดารารุ่งรุ่นน้องอายุห่างกันเพียงเล็กน้อย แต่กลับทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ค่อนข้างเงียบขรึมและคิดมากกว่าจะพูดออกมา นิสัยดีทำให้เข้ากันได้ แถมไม่ชอบนินทาคนอื่นซึ่งถูกชะตากันก็เรื่องนี้แหละ
“ขอโทษนะแก ฉันมีนัดกับแฟน” เพื่อนสนิทมีแฟนที่คบกันมายาวนาน คาดว่าอีกไม่กี่ปีก็คงแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา พอได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองรุ่นน้องอย่างรวดเร็ว
“ฝนติดงานพิเศษ” คนถามทำหน้าเสียดาย ทั้งที่อยากดูภาพยนตร์ต่างชาติที่เพิ่งเข้าโรงกับเพื่อน ทว่าเหมือนทั้งสองจะติดงานสำคัญ ดูท่าคงต้องไปคนเดียวซะแล้ว
“ฉันก็ต้องไปคนเดียวเหรอ” ทำหน้าย่นไม่ชอบใจ ก่อนที่เพื่อนสนิทจะเย้าเล่น
“แกก็ชวนคุณเกริกไปสิ รายนั้นน่าจะเต็มใจนะ” หัวเราะคิกคักด้วยความสุขที่ได้แกล้งแหย่สาวสวยของธนาคาร เล่นเอาอลิสาต้องถลึงตาใส่อย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างรู้ดีว่าผู้จัดการหนุ่มชอบสาวพนักงานของตน มักซื้อของมาให้หรือพูดจาหวานกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้เลี่ยนจนรับไม่ได้ เพียงแค่น้ำเสียงที่พูดกับเธอต่างจากพูดกับคนอื่นเท่านั้นเอง
“ไม่เอาหรอก คุณหญิงแม่เขาได้มาแหกอกฉันพอดี” อีกสิ่งที่ทำให้หล่อนไม่อยากสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มก็เพราะครอบครัวแสนร่ำรวยของเขานั่นเอง คุณแม่เป็นถึงตระกูลผู้ดีเก่า เลือกลูกสะใภ้ที่ฐานะใกล้เคียงให้ลูกชายทั้งนั้น
แถมหน้าตาท่านยังโหดจนไม่กล้าสบตาหรือพูดคุยด้วย แววตาเรียวราวกับจะเย้ยหยันหญิงสาวทุกคนที่เข้ามาคุยกับลูกชายหัวแก้ว หัวแหวน ทำให้อลิสาเลือกจะอยู่ห่างดีกว่า อย่างไรเสียหล่อนก็ไม่ได้ชอบชายหนุ่มซักหน่อย
พูดคุยกันสักพักจึงได้กลับไปทำงาน พอธนาคารปิดเธอก็อยู่นับเงินจนเรียบร้อย ตรวจตราทุกอย่างเสร็จจึงได้กลับบ้านโดยอาศัยรถเมล์ประจำทาง นั่งไม่นานก็ถึงซอยที่อาศัย เดินเข้าไปประมาณสองร้อยเมตรก็เจอร้านต้นไม้ของมารดา
เธอเห็นน้าเขียวกำลังส่องพระก็อมยิ้ม ท่านชื่นชอบในการสะสมพระเป็นชีวิตจิตใจ หิ้งพระบนบ้านมีแต่พระของน้าทั้งนั้น สะสมจนเต็มไปหมด แต่ก็มีนำออกมาเช่าบ้างและราคาหลักหมื่นขึ้นไปทั้งนั้นจนหล่อนแทบไม่อยากเชื่อ
เห็นเป็นดินอัดกรอบใครจะคิดว่าบางองค์ราคาหลักแสน หลักล้านยังมีเลย วงการนี้คงต้องเป็นคนที่มีใจรักจริงนั่นแหละถึงสามารถส่องพระได้ทั้งวันทั้งคืน
“น้าเขียวสวัสดีค่ะ” ยกมือไหว้ก่อนที่ชายร่างเล็กจะวางแว่นขยายและกรอบพระลง
“วันนี้กลับเร็วนะ หิวหรือเปล่าน้าเตรียมของหวานไว้ให้แล้ว อยากกินก็ไปตักมากินได้นะ” ทั้งบ้านมีเพียงผู้ชายคนเดียว และท่านก็ทำอาหารเก่งราวเชฟมือทอง รังสรรค์เมนูอะไรก็อร่อยไปเสียหมด เธอกับแม่แทบไม่เคยได้เข้าครัว
น้าเขียวเป็นญาติของแม่ที่โดนไล่ออกจากงาน ไม่มีที่ไปคุณแสนดีจึงให้อาศัยด้วยกันตั้งแต่หลายสิบปีก่อน พี่ละอองที่อายุมากกว่าเธอสามปีเป็นลูกของน้าเขียวก็อยู่ด้วยกันมานานจนสนิทสนมนับถือเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา
ครอบครัวขนาดเล็กที่อบอุ่นจนหญิงสาวไม่ต้องการความรักจากคนภายนอก เธอขออยู่แบบนี้ก็พอแล้ว
“อลิส กินปลากริมไข่เต่าด้วยกันไหม พ่อทำอร่อยนะ” เข้ามาในบ้านก็เห็นพี่สาวและมารดาของหล่อนกำลังนั่งดูทีวีพร้อมรับประทานของหวาน