บทที่ 7 เหตุการณ์เปลี่ยนห้อง
ปีกว่าไม่ได้กลับมาแล้ว เซี่ยหยูหว่านยืนอยู่หน้าประตู รู้สึกทอดถอนใจอยู่
"ปัง"
เธอหมุนลูกบิดประตู แต่ขา......กลับเหยียบเข้าไปไม่ได้เลย
ใบหน้าที่สะอาดและสดใสนั้นเต็มไปด้วยความมึนงง สิ่งที่มาทดแทนเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา
เมื่อไหร่ตระกูลเซี่ยยากจนถึงขั้นต้องใช้ห้องนอนของเธอเป็นห้องเก็บของแล้ว?
และยังเป็นห้องเก็บของของเซี่ยชิวเสวี่ยด้วย
นอกจากที่นอนนั้นยังมองออกว่าเป็นของเธอ อย่างอื่นล้วนเปลี่ยนหมดเลย!
ชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้โรสวูดที่เธอชอบที่สุดก็หายไปเลย
สิ่งที่แทนที่เป็นขาตั้งภาพและกรอบใส่ภาพทีละแถว
บนพื้นและขอบหน้าต่างเปื้อนด้วยสีน้ำมัน มองขึ้นไปแล้วเลอะเทอะมาก
ดีเลย!
ดีมากเลย!
ดูเหมือนว่าบ้านนี้ไม่มีที่ของเธอเลยนะ!!!
นัยน์ตาที่มีเสน่ห์ของเซี่ยหยูหว่านมีแสงสว่างพาดผ่าน
ลูบแขนเสื้อขึ้นมา และโยนภาพวาดเหล่านั้นของเธอไปที่ทางเดินหน้าประตู
"ปัง"
บนตึกมีเสียงดังส่งมาทีละเสียง ทำให้สามคนข้างล่างตกใจมาก
ต่างเงยหน้ามองไป
"อ๊ะ!ภาพวาดของฉัน เซี่ยหยูหว่าน แกนี่ไปตายเลย อย่ามาจับของของฉัน!"
เสียงกรี้ดของเซี่ยชิวเสวี่ยดังขึ้นในห้องโถง
รำคาญหูมาก
"ของของแกหรือ?"
เซี่ยหยูหว่านหัวเราะเย็นชาออกมา รองเท้าส้นสูงเหยียบไปที่ภาพวาด
ทันใดนั้น บนภาพวาดก็มีรอยเท้าเกิดขึ้น
นี่เป็นดอกทานตะวันที่เซี่ยชิวเสวี่ยไท่หลับไม่นอนมาสามคืนถึงวาดออกมาได้
ค่อนข้างจะมีสไตล์ของแวนโก๊ะ
เป็นผลงานที่เธอพอใจมาก!
กำลังเตรียมจะเอาไปเข้าร่วมการแข่งขันเลย
ถูกเซี่ยหยูหว่านทำลายไปแบบนี้เลย!
เธอโมโหจนสีหน้าแดงก่ำ เตรียมจะยื่นมือตบไปที่เซี่ยหยูหว่าน
"แกไม่ควรกลับมาเลย ไอ้ตัวซวยกลับมาก็หาเรื่อง"
"ห้องนอนนี้เป็นของฉัน แกไม่ได้รับอนุญาตจากฉันก็ทำการดัดแปลง ขอถามหน่อยใครเป็นคนให้สิทธิ์แกหรือ?"
จากนั้นสามีภรรยาสองคนที่ตามเซี่ยชิวเสวี่ยขึ้นมาก็ได้ยินด้วย
สีหน้าของเซี่ยเจี้ยนกังมีความไม่พอใจพาดผ่าน
"เป็นแค่ห้องนอนห้องหนึ่งเท่านั้น ถึงกับต้องทำลายภาพวาดของเสี่ยวเสวี่ยเลยหรือ?ที่บ้านก็ไม่ใช่ว่าไม่มีห้องนอนอื่น!"
"ในเมื่อที่บ้านยังมีห้องอื่น ทำไมต้องใช้ห้องนอนของฉันเป็นห้องวาดรูปของเธอ!พวกแกไม่ได้คิดจะเหลือที่ให้ฉันเลยใช่ไหม"
คำพูดที่เฉียบแหลมของเซี่ยหยูหว่าน ทำให้สามคนล้วนรู้สึกร้อนตัว
"หยูหว่าน นี่......คุณน้าเห็นว่าห้องนี้ของแกค่อนข้างจะกว้างขวางและสว่าง เหมาะที่จะเป็นห้องวาดรูป"
"แต่ฉันได้เปลี่ยนอีกห้องหนึ่งให้แก แกไปดูห้องนั้นก่อนไหม"
หวงกั๋วเยว่รีบออกไปไกล่เกลี่ย ยิ้มและเอ่ยว่า
"ไม่ต้องการ ฉันเอาห้องนี้แหละ!เซี่ยชิวเสวี่ย แกต้องฟื้นคืนเป็นสภาพเดิม ไม่งั้นฉันไม่จบกับแกแน่ๆ"
เซี่ยหยูหว่านปฏิเสธคำพูดของเธอด้วยเสียงที่เย็นชา สายตาเหลือบมองไปที่ของในห้อง
และพูดเสริมว่า"ยังมีตู้เสื้อผ้าไม้จินสื่อหนานและชั้นวางหนังสือไม้โรสวูดของฉัน รวมไปถึงสิ่งตกแต่งและวัตถุโบราณที่วางอยู่บนนั้นอยู่ไหน?"
"ของเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ตระกูลไป๋สืบทอดลงมาทีละรุ่น
ตั้งแต่สมัยเจียชิ่ง ราชวงศ์ชิง ตระกูลไป๋ก็เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ของพื้นที่นั้น พื้นฐานของตระกูลมั่นคงมาก
ต่อมาประสบวิกฤต ย้ายไปหนานหยางทั้งตระกูล หลายๆอย่างล้วนสูญหายไป
ยุค50ได้กลับมาที่เมือง Z ใหม่ เครื่องเคลือบ วัตถุโบราณและภาพวาดต่างๆก็ได้สะสมไว้ประมาณหลักร้อยชิ้น
ในตอนที่ไป๋ซู่ซินแต่งงานออกไป คุณตาได้เอามาครึ่งหนึ่งเป็นสินเดิมของเธอ
ของเหล่านั้นอยู่ในห้องของเธอตลอด ทุกชิ้นล้วนมีราคาล้ำค่ามาก!
โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้จินสื่อหนาน สูงเมตรแปด กว้างหกสิบเซนติเมตร ตามมูลค่าของตลาดตอนนี้แล้วแพงกว่าทองเป็นสิบเท่าอีก
แน่นอนว่าตู้เสื้อผ้าถูกหวงกั๋วเยว่ย้ายไปในห้องนอนของตัวเอง
ส่วนภาพวาดก็ล้วนถูกเธอเก็บไว้ในโกดังเล็กๆของตน
มีแต่โต๊ะและเก้าอี้สมัยราชวงศ์หมิงชุดหนึ่งวางอยู่ในห้องของเซี่ยชิวเสวี่ย
หลังจากเซี่ยหยูหว่านแต่งงานแล้ว ทุกระยะหนึ่งเธอจะแอบเอาของชิ้นหนึ่งออกไปประมูล
จนตอนนี้เธอมีเงินทองมากมายแล้ว
เวลานี้ เซี่ยหยูหว่านมาขอสิ่งเหล่านี้กับเธอ เธอก็เอาออกมาไม่ได้
สีหน้าแสดงถึงความลำบาก และขอความช่วยเหลือจากสามี
"ของเหล่านั้นของแกใครจะไปรู้ล่ะว่าถูกคนใช้คนไหนทำเสียหรือทิ้งไปไหนแล้ว"
"หว่านหว่าน อย่าก่อความวุ่นวายเลย ในเมื่อน้าเว่ยของแกเตรียมห้องนอนให้แล้วก็ไปนอนตรงนั้นก่อน"
ผู้ชายตวาดเสียงดัง แต่ผู้หญิงต่อหน้านี้ไม่ได้กลัวแม้แต่นิดเลย
มองเขาด้วยสีหน้าที่เย็นชา และหัวเราะเยาะขึ้นมา
เถียงกลับเขาด้วยเสียงที่แหลมคม
"ในเมื่อคนใช้ทำหาย ก็ตรวจสอบอย่างเข้มงวด!"
"ไม่รับผิดชอบก็ได้ ขโมยก็ได้ ให้ตำรวจมาจัดการยังไงก็สามารถได้คืนส่วนหนึ่ง!"
พูดจบ เธอก็ถูกเซี่ยเจี้ยนกังตำหนิอีกครั้ง
"เพ้อเจ้อ!ตระกูลเซี่ยเราเป็นตระกูลที่มีหน้ามีตา?จะให้ตำรวจเข้ามาได้อย่างไร ไม่ขายหน้าหรือ!"
"พ่อ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นวัตถุโบราณ!เป็นสิ่งที่คุณตาของฉันเหลือไว้ให้แม่ฉัน แล้วสืบทอดมาที่ฉัน"
"ในเมื่อท่านกลัวจะขายหน้า งั้นก็ใช้ชื่อของฉันไปแจ้งความ"
"ไม่ได้!แกแจ้งความไม่ได้ ของของแกพวกเราไม่ได้เอาไป"
เซี่ยชิวเสวี่ยเอ่ยอย่างตื่นเต้น
พฤติกรรมนี้เป็นการปกปิดแต่กลับเปิดเผยให้รู้ในทางอ้อม
เซี่ยหยูหว่านเหลือบตามองไปที่เธอ
เห็นแต่ในมือของเซี่ยชิวเสวี่ย มีสร้อยข้อมือหยกตัวหนึ่งเป็นของใกล้ชิดของไป๋ซู่ซินด้วย
มีความใสและสวยงาม ภายนอกละเอียด ไร้ตำหนิใดๆ เป็นชนิดที่หายาก
ตอนเด็กเธอมำตัวหนึ่งแตก แล้วเหลือเพียงตัวนี้ตัวสุดท้ายแล้ว
ตัวเองไม่ยอมใส่ด้วยซ้ำ ใส่ในกล่องและล็อคไว้ในตู้เซฟ ไม่รู้ว่าเซี่ยชิวเสวี่ยเอาออกมาได้อย่างไร
พบว่าเซี่ยหยูหว่านมองมาที่มือของตัวเองตลอด
เซี่ยชิวเสวี่ยก้มหน้ามอง ยื่นดึงแขนเสื้อ คิดจะปิดคลุมเอาไว้
ไม่ทันแล้ว
เซี่ยหยูหว่านเดินเข้าไปก้าวหนึ่งด้วยรองเท้าส้นสูง จับข้อมือของเธอเอาไว้ สายตามองไปที่บริเวณข้อมือของเธอ
"สร้อยข้อมือหยกตัวนี้ เป็นของฉันเหมือนกัน"
น้ำเสียงแน่วแน่มาก
เซี่ยเจี้ยนกังมองทีหนึ่ง จากนั้นก็คิดขึ้นมาได้
นี่......เป็นของของซู่ซินจริงด้วย
สายตามองไปที่หวงกั๋วเยว่สองแม่ลูกด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
หวงกั๋วเยว่รีบยิ้มและอธิบาย
"ชิวเสวี่ยยืมมาใส่เล่นๆเฉยๆ สัปดาห์ก่อนเธอไปร่วมงานร่วมของพวกสตรสูงศักดิ์ ขาดสร้อยข้อมือตัวหนึ่ง ฉันก็เลย......"
"ยืม?แล้วได้บอกฉันยัง?"
ในความทรงจำของเซี่ยหยูหว่าน ไม่มีเรื่องนี้เลย
หวงกั๋วเยว่กัดริมฝีปาก ฝืนยิ้มขึ้นมา และตอบด้วยเสียงที่แหบแห้ง
"ช่วงนี้ยุ่งไปหน่อย คุณน้าความทรงจำไม่ดี เลยลืมไปละ"
"หากความทรงจำไม่ดีจะจำรหัสตู้เซฟของฉันได้อย่างไรล่ะ?"
"สร้อยข้อมือนี้ ฉันล็อคไว้ในตู้เซฟ หากเธองัดตู้เซฟออก งั้นก็คือขโมย!"
ขโมย!
นี่ไม่เหมือนกันเลย
เป็นตั้งคุณหนูของตระกูลเซี่ย เป็นโจรขโมยเลย!
ต้องเปิดเผยออกไป กลัวว่าชีวิตนี้เซี่ยชิวเสวี่ยอย่าคิดจะแต่งเข้าไปในตระกูลใหญ่อีกเลย
สีหน้าของหวงกั๋วเยว่เปลี่ยนไปเลย
เห็นสีหน้าที่ไร้ความปราณีของเซี่ยหยูหว่าน กัดฟันและกล่าวความขอโทษ"หยูหว่าน สร้อยข้อมือนี้คุณน้าเป็นคนเอาไป แค่ยืมใช้เท่านั้นเอง"
"แต่ฉันไม่รู้เลย ถ้ารู้ก็ไม่อนุญาต ไม่ถือว่ายืม เป็นการขโมย!"
"พอเถอะ!ไม่มีใครอยากได้สร้อยข้อมือของแกหรอก ฉันจะคืนเดี๋ยวนี้!"
สีหน้าของเซี่ยชิวเสวี่ยรู้สึกเร่าร้อน
อายมาก
เธอยื่นมือไปถอดสร้อยข้อมือบนข้อมือของตัวเองลงมา
แต่ไป๋ซู่ซินผอมกว่าเธอ ดังนั้นสร้อยข้อมือเลยเล็กกว่าข้อมือของเธอ
ตอนนั้นที่ใส่ขึ้นไป เธอใช้แรงเยอะมาก
ตอนนี้จะถอดลงมาก็เลยรัดมาก
ไม่นานมือก็แดงไปรอบหนึ่งเลย
