บทที่ 8 คนที่ต้องไสหัวออกไปคือพวกแกต่างหาก
สีหน้าที่ประณีตของเซี่ยชิวเสวี่ยแดงก่ำมาก สายตาจ้องสร้อยข้อมือหยกตัวนี้อย่างแน่น
แทบอยากจะทำมันให้แตกเลย
"ดูสิ สิ่งที่ไม่ใช่เป็นของแก แม้จะใส่ขึ้นไปก็มีแต่จะขายหน้าเท่านั้น"
เซี่ยหยูหว่านพูดเสียดสีเธอ
เห็นว่าข้อมือที่ขาวเนียนของลูกสาวแดงไปรอบหนึ่ง หวงกั๋วเยว่รู้สึกปวดใจมาก จับมือของเธอและเป่า
"ลูกสาวที่รัก มือนี้จะต้องเล่นเปียโนและวาดภาพเลยนะ ถ้าบาดเจ็บขึ้นมาต้องทำยังไงดีล่ะ?"
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเซี่ยเจี้ยนกังก็มืดทึบไปหมด
"เซี่ยหยูหว่าน ใจกว้างหน่อยเอาสร้อยข้อมือให้เสี่ยวเสวี่ยไม่ได้หรือ?ทำไมต้องคิดเล็กคิดน้อย เธอเป็นน้องสาวของแก!"
"น้องสาว?แม่ฉันคลอดแค่ฉันคนเดียว!'
"ส่วนเซี่ยชิวเสวี่ย เธอขโมยของฉันไป ไม่ได้รับอนุญาตก็ดัดแปลงห้องของฉันเป็นเช่นนี้ เธอเป็นน้องสาวของฉันได้ที่ไหน?"
น้องสาวแบบนี้ ใครจะอยากได้?
เซี่ยหยูหว่านยังคงเย่อหยิ่งเหมือนปกติ ไม่แน่ทำไมฟู่เจวี๋ยเซินถึงไม่เอาเธอแล้ว
"ถอดลงมาแล้ว สร้อยข้อมือนี้เอาคืนไป!"
เซี่ยชิวเสวี่ยหายใจเข้าลึกๆ ใช้แรงมากมายถึงถอดสร้อยข้อมือลงมาได้
ยัดเข้าไปในอ้อมกอดของเซี่ยหยูหว่าน
เธอเหล่ตาเล็กน้อย และมองแม่ลูกคู่นี้ด้วยสายตาที่เย็นชา
"เป็นแค่สร้อยข้อมือหรือ?สิ่งที่พวกแกติดค้างฉันไม่เพียงแต่พวกนี้นะ!"
"แกยังจะทำอะไรอีก!"
"ห้องของฉันอย่าลืมฟื้นสภาพด้วย ของตกแต่งข้างในคืนมาให้หมด!พวกแกจำไม่ได้ไม่เป็นไร ฉันสามารถไปหาคุณตาเพื่อเอารายการสินเดิมมา"
ถึงแม้ตระกูลไป๋ตกต่ำลง แต่อย่างสำนวนที่ว่า : เรือที่เก่าแก่ยังมีอะไหล่ที่ใช้งานได้เลย
ท่านไป๋ก็ถือว่าเป็นคนที่โด่งดัง
ไม่เพียงแต่เป็นเพราะว่าตอนหนุ่มเขาเป็นนักธุรกิจ ยังเป็นเพราะว่าเขามีความรู้ที่กว้างขึ้น โด่งดังระดับหนึ่งในโลกแห่งศิลปะ
เขาเป็นคนที่เลือกวัตถุโบราณที่นำมาเป็นสินเดิมของไป๋ซู่ซิน แน่นอนว่ามีรายงานจดอยู่แล้ว
สัปดาห์หน้า เซี่ยชิวเสวี่ยจะต้องไปเข้าร่วมการแข่งขันวางภาพชั้นนำ
คนที่ได้ที่หนึ่งจะได้รับบัตรเชิญฟรีจากราชวิทยาลัยศิลปะประเทษอังกฤษ
นั่นเป็นวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกเลย เธออยากไปมากๆ
ส่วนท่านไป๋เป็นหนึ่งในกรรมการของการแข่งขันครั้งนี้
หากให้เขารู้ว่าตัวเองเอาของของเซี่ยหยูหว่านไป ถึงเวลานั้นคงจะไม่ให้ตัวเองได้ดี
พอเซี่ยชิวเสวี่ยนึกถึงชื่อเสียงของตัวเองจะถูกทำลายไปหมด สีหน้าก็ดำไปเลย
เธอมองไปที่หวงกั๋วเยว่ด้วยความกังวลใจ
เธอเห็นเช่นนี้ใจจะขาดแล้ว จะให้เธอคืนเงินมากมายขนาดนั้นให้เซี่ยหยูหว่านหรือ?
"คือ......หยูหว่าน แกไม่ได้กลับมาปีกว่าแล้วนะ"
"ให้ฉันไปหาของเหล่านั้นอย่างกะทันหัน ฉันก็ต้องใช้เวลาหน่อยสิ"
"หนึ่งสัปดาห์ ฉันให้เวลาแกหนึ่งสัปดาห์ในการจัดการ!ตอนนี้ทำความสะอาดห้องนอนของฉันก่อน!"
เซี่ยหยูหว่านกอดอกยืนอยู่หน้าประตู ชื่นชมสีหน้าที่หดหู่ใจของเซี่ยชิวเสวี่ย
แม่ง สะใจมาก
เซี่ยเจี้ยนกังถอนหายใจออกมา นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย!
เขารู้สึกรังเกียจเซี่ยหยูหว่านมากขึ้นเรื่อยๆ ลูกสาวคนนี้ทำให้เขารู้สึกปวดหัวมาก ไม่ฟังคำสั่งสอนเลยนะ
"ได้ ฉันจะให้คนรีบๆไปจัดการให้แก"
หวงกั๋วเยว่ตอบด้วยเสียงเบา
คนกลุ่มหนึ่งเคาะตีกันอยู่ข้างบน เสียงรบกวนทำให้ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับถึงบ้านรู้สึกหดหู่
"แม่ พวกคุณทำอะไรอยู่?เสียงดังขนาดนี้!"
บนโซฟา พี่สาวของเขาเซี่ยชิวเสวี่ยน้องสะอึกสะอื้นอยู่
บรรยากาศในห้องตกต่ำมาก อากาศเกือบจะแข็งตัวเป็นน้ำแข็งเลย
สิ่งที่เปรียบเทียบได้คือผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงยาวสีดำชุดหนึ่ง กำลังนั่งไขว้ขาอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีที่ขี้เกียจและสง่า
ผมลอนที่ประณีตกระจายอยู่หลังศีรษะ ใช้แค่ยางมัดผมสีแดงเส้ยหนึ่งผูกเป็ยโบว? ภายใต้แสงไฟ ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเป็นเอกลักษณ์ของผ้าซาติน
เธอเหมือนเป็นปีศาจ อาจจะถูกเธอดึงวิญญาณไปได้ตลอดเวลา
นี่คือเซี่ยหยูหว่าน?
ไม่ได้เจอมานานเลย ทำไมเธอเหมือนเปลี่ยนไปใหญ่เลย?
"ตงอวี่ แกกลับแล้วหรือ?"
หวงกั๋วเยว่เห็นเขากลับมา รีบเก็บความเศร้าโศกขึ้นมา แกล้งทำเป็นอ่อนโยน
ชายหนุ่มก็คือลูกชายของหวงกั๋วเยว่และเซี่ยเจี้ยนกัง
น้อยกว่าเธอสามปี ปีนี้เพิ่งสิบแปด เรียนชั้นม.หก
คะแนน......
เชอะ แย่กว่าเธออีก
เป็นตัวร้ายที่มีชื่อเสียงไปทั่ว
หนึ่งเจ็ดปี ความสูงเมตรเจ็ดห้า สูงกว่าเซี่ยเจี้ยนกังอีกหน่อยนึง
เป็นหน้าตาที่น่ารักอย่างการ์ตูน แต่กลับทำเรื่องที่ไร้สาระต่างๆ
ทำตัวเหมือนเด็ก จมในโลกส่วนตัว เห็นแก่ตัว!
เซี่ยหยูหว่านไม่ชอบน้องชายคนนี้เลย
พอดีว่าเขาก็รังเกียจเธอมาก
ทั้งสองมองมาและรู้สึกเกลียด!
เห็นว่าคุณแม่รู้สึกเศร้าโศก พี่สาวก็ร้องสะอึกสะอื้นอยู่ตอนนั้น เซี่ยตงอวี่เข้าใจอะไรทันที
เขาเดินหน้าไปก้าวหนึ่ง และตะโกนใส่เซี่ยหยูหว่าน
"เซี่ยหยูหว่าน แกรังแกแม่ของพี่สาวฉันอีกแล้วหรือ?"
เสียงดังจนทำให้เซี่ยหยูหว่านรู้สึกรำคาญหู
เธอยื่นมือไปนวดแก้วหูที่รู้สึกปวดเล็กน้อย
และเหลือบตามองเขาทีหนึ่ง
"ฉันไม่ได้หูหนวกและฟังออกด้วย ไม่จำเป็นต้องตะโกนใส่ฉัน แม่และพี่สาวของแกคันลำคอเฉยๆ ไม่สบายก็ต้องมาโทษฉันอีก?"
ดูสิ นี่มันอะไรเนี่ย!
เสียงร้องไห้ของเซี่ยชิวเสวี่ยหยุดลงทันที
เธอจ้องตาไว้ หากตัวเองร้องไห้ต่อ ก็กลายเป็นคันลำคออย่างที่เธอพูดแล้วสิ
มือที่วางอยู่บนหัวเข่านั้นกำเป็นหมัด ปล่อยให้ฝังเข้าไปในฝ่ามือ ปวดจนเธอหายใจเข้าลึกๆ
ส่วนเซี่ยตงอวี่ยืนยันการคาดเดาในใจของตัวเอง มองไปที่ขอบภาพที่ทิ้งอยู่ตามทางเดิน โมโหจนเขาอยากจะฆ่าคนเลย
"เซี่ยหยูหว่าน ไอ้หญิงเลว!มีสิทธิ์อะไรทิ้งของของพี่สาวฉัน แกออกไปให้พ้น!ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!"
ภาพเหล่านั้น พี่สาวของเขาวาดแบบไม่หลับไม่นอน!
วาดดีขนาดนั้น ไม่ว่าใบไหนเอาออกไปล้วนเป็นผลงานทางศิลปะ
ตอนนี้เหมือนเป็นขยะกองอยู่ตรงนั้น ทำให้คนรู้สึกปวดใจ
ลักษณะที่โหดร้ายของชายหนุ่ม เหมือนเป็นลิงที่กำลังโมโหอยู่ในสวนสัตว์ซักด้วย
ตลก!
สีหน้าของเซี่ยหยูหว่านยังคงปกติ
ยื่นมือไปจับผมลอนบริเวณหน้าอกของตัวเอง และยิ้มเบาๅ"ให้ฉันไสหัวออกไปหรือ ฉันว่าพวกแกต่างหากที่ต้องไสหัวออกไป!"
"แกหมายความว่าอย่างไร"เซี่ยตงอวี่ขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยความไม่ยินยอม
มีสิทธิ์อะไร?
"นี่ก็ต้องถามคุณพ่อละ ว่าบ้านนี้ตกลงเป็นชื่อใครกันแน่!"
พอเธอพูดถึงเช่นนี้ สีหน้าของเซี่ยเจี้ยนกังก็ตกใจ แล้วปรากฏความลำบากขึ้นในนัยน์ตา
"นี่......"
"ยังไง?พ่อลืมแล้วด้วยหรือ บ้านนี้คุณตาซื้อให้พวกคุณในตอนที่คุณแต่งงานกับแม่ของฉัน"
"เจ้าของเป็นชื่อของแม่ฉัน ต่อมาเธอเสียชีวิต ศาลเห็นว่าฉันยังอายุน้อย ก็เลยให้คุณดูแลแทน"
"แต่บ้านนี้ หลังจากฉันอายุครบสิบแปดแล้ว ก็เป็นของฉัน"
"เซี่ยตงอวี่ แกว่า ใครต่างหากที่ต้องไสหัวออกไป?"
เซี่ยหยูหว่านพูดจบ แม่ลูกสามคนนั้นก็อึ้งอยู่กับที่ ตั้งนานไม่กล้าตอบ
โดยเฉพาะเซี่ยชิวเสวี่ย
เธอรู้ว่าตระกูลไป๋ร่ำรวย แต่ไม่คิดเลยว่า วิลล่าหลังนี้เป็นของตระกูลไป๋ด้วย
ต้องรู้ว่าตอนนี้ราคาบ้านในเมือง A แพงมาก วิลล่านี้ขนาดประมาณแปดร้อยกว่าตารางเมตร ถ้านำไปประมูล
อย่างน้อยก็ ห้าสิบล้าน!!!
