บทย่อ
คำสัญญาของชายชาติทหาร ทำให้คนรุ่นหลานต้องมาตกที่นั่งลำบาก เมื่อหลานสาวแท้ ๆ ไม่ยอมไป หลานนอกไส้อย่างศศิพิมพ์เลยต้องรับกรรมแทน
ตอนที่ : 1 สัญญาใจ
1
สัญญาใจ
รถสองแถวคันเก่าแล่นขึ้นเนินเขาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ศศิพิมพ์นั่งกอดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองด้วยหัวใจที่ไม่มั่นคง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตในวันข้างหน้าจะต้องเจอะเจอกับอะไรบ้าง ปฏิเสธก็ไม่ได้ด้วยบุญคุณที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโต
“คุณจะไปไร่นั่นจริง ๆ เหรอครับ” คนขับวัยกลางคนหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“ค่ะ”
“ไร่นั่นชื่อเสียงไม่สู้ดีเท่าไหร่นะครับ หลานชายเจ้าของไร่ค่อนข้างนักเลงน่ะครับ ถ้าคิดจะไปทำงานที่นั่น ผมว่าไปหาทำที่ไร่อื่นดีกว่านะครับ ไร่ผักผลไม้แถวนี้มีเยอะแยะไม่จำเป็นต้องที่นั่นที่เดียวหรอกครับ”
“ขอบคุณที่แนะนำค่ะ” ศศิพิมพ์ได้ยินแล้วก็ยิ้มแห้ง ๆ ถ้าเลือกได้เธอคงไม่คิดมาที่นี่เหมือนกัน แต่ชีวิตมันกลับเลือกไม่ได้นั่นสิ
สักพักใหญ่ ๆ รถก็แล่นเข้ามาจอดอยู่ด้านหน้าของไร่แห่งหนึ่ง ป้ายไม้สลักอักษรขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าไร่ พร้อมกับชื่อไร่ที่ติดไว้ว่า ไร่ตะวันรอน เธอมาถึงแล้วจริง ๆ ศศิพิมพ์จ่ายเงินให้คนขับ ก่อนจะเดินเข้าไปในไร่ด้วยท่าทางไม่คุ้นเคย
“หลงทางเหรอคะคุณ” มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าค่ะ ตั้งใจมาไร่ตะวันรอน จะมาหาคุณปู่ตะวันค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทั้งที่ในใจเหนื่อยล้าเหลือเกินจากการเดินทางขึ้นเขามา
“อ้อ แขกของคุณปู่หรอกรึ ไอ้เดช ๆ ขับรถไปส่งคุณเขาที่บ้านใหญ่หน่อย” พูดแล้วก็หันไปเรียกคนงานด้านหลังให้ขับรถมอเตอร์ไซค์มาหา
“ไปไหนนะป้าแม้น”
“คุณเขาจะไปหาคุณปู่ เองขับรถไปส่งหน่อย ขืนเดินไปเมื่อยตายเลยตั้งไกลจะมืดค่ำด้วยนี่”
“ได้ ๆ คุณซ้อนท้ายผมเลยครับ” เดชศักดิ์คนงานวัยรุ่นของที่นี่ตบเบาะหลังให้ศศิพิมพ์ขึ้นซ้อนท้าย
หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งคร่อมอย่างไม่อิดออด กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์คันเก่า ๆ ขับผ่านสองข้างทางเข้าไปด้านใน ผ่านสำนักงานที่มีคนเดินออกมาเหมือนได้เวลาเลิกงานกัน ก่อนจะเข้าไปในถนนซึ่งดูเป็นถนนส่วนตัวของเจ้าของ เพราะไม่มีคนงานเดินพลุกพล่านไปมา
“ถนนนี้ตรงไปบ้านใหญ่ของคุณปู่ครับ คนงานทั่วไปจะไม่มีสิทธิ์เข้ามาตรงนี้ ผมคงส่งคุณได้แค่ประตูทางเข้านะครับ เดินเข้าไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว มองไปยังเห็นตัวบ้านเลยนะครับนั่น” เดชศักดิ์ชี้นิ้วบอกหญิงสาวระหว่างจอดรถอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า
“ขอบใจมากจ้ะที่มาส่ง”
“ครับ” ชายหนุ่มยิ้มก่อนบิดมอเตอร์ไซค์จากไป
ศศิพิมพ์สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะดึงสายกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ แล้วเดินตรงเข้าไปยังเรือนไทยหลังใหญ่ ซึ่งปลูกสร้างแบบผสมผสานตามยุคสมัย
“มาหาใครครับ” ชายสูงวัยวิ่งออกมาจากด้านข้าง ทำเอาศศิพิมพ์ตกใจอยู่ไม่น้อย
“มาหาคุณปู่ตะวันค่ะ”
“แขกของคุณปู่เหรอครับ เชิญด้านในเลยครับ” ชายสูงวัยเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ และให้หญิงสาวรออยู่ตรงห้องรับแขก ก่อนจะหันไปเรียกแม่บ้านอีกคน
“เปี่ยมแกไปตามคุณปู่หน่อยสิ บอกว่ามีแขกมาหา เอ่อ ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะครับ” ชายสูงวัยหันมาถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ศศิพิมพ์ค่ะ บอกว่าเป็นหลานสาวของคุณปู่ศัลย์มาหาก็ได้ค่ะ”
“งั้นรอสักคู่นะคะ” นางสมเปี่ยมแม่บ้านสูงวัยของที่นี่บอกแล้ว ก็รีบเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อรายงานให้เจ้าของบ้านได้รับรู้
ไม่ช้าชายชราที่เป็นเจ้าของไร่ตะวันรอนแห่งนี้ ก็เดินลงบันไดมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับแขก
“สวัสดีค่ะคุณปู่ตะวัน หนูชื่อศศิพิมพ์ค่ะเป็นหลานของคุณปู่ศัลย์” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ชายชราผมสีดอกเลาตรงหน้า รู้สึกว่าสายตาของท่าน ฉายแววออกมาไม่ค่อยพอใจที่เห็นหน้าของเธอเลย
“ฉันว่าหลานสาวของไอ้ศัลย์มันชื่อศิรภัสสรไม่ใช่รึ” นายตะวันจ้องหน้าคนที่บอกว่าเป็นหลานสาวของเพื่อนตนเองตรง ๆ แม่สาวน้อยคนนี้หน้าตาสะสวยอยู่ไม่น้อย ดวงตาใสเป็นประกาย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวพรรณก็ดูดี ทว่าชื่อนั้นกลับไม่ใช่คนที่ตนเองรอคอยอยู่
“พิม เอ่อ เป็นหลานบุญธรรมค่ะ” ศศิพิมพ์อ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนไขข้อข้องใจของชายชรา
“แปลว่าไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของไอ้ศัลย์มันรึ” คราวนี้นายตะวันขึ้นเสียงดังใส่แบบโกรธ ๆ
“ใช่ค่ะ”
“งั้นมันก็จงใจผิดสัญญากับฉันน่ะสิ”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะคุณปู่ ถึงพิมจะไม่ใช่หลานแท้ ๆ แต่พิมก็เป็นหลานที่ถูกต้องตามกฎหมายนะคะ” หญิงสาวรีบแย้งเกรงว่าท่านจะเข้าใจผิดไปใหญ่โต
“เหลี่ยมเยอะทั้งปู่ทั้งหลานเลยนะ แล้วแม่หลานแท้ ๆ นั่นไปไหนแล้วล่ะ ทำไมไม่มาหาฉัน”
“เอ่อ คือ” ศศิพิมพ์หลบตาไปด้านข้าง เหมือนเธอกำลังถูกจ้องจับผิดอยู่ก็ไม่ปาน จะตอบยังไงดีล่ะคราวนี้
“ตอบยากหรือไม่อยากตอบกันแน่ แต่ก็ช่างเถอะนะ แค่นี้ก็รู้ว่ามันไม่จริงใจในการรักษาคำพูดเลย ไอ้แก่ปลิ้นปล้อนนั่น” คำพูดประชดประชันแกมด่าทอ ทำให้คนได้ยินทนฟังต่อไปไม่ได้ รีบแย้งไปตรง ๆ
“คุณปู่ศัลย์ไม่ใช่คนปลิ้นปล้อนสักหน่อยนะคะ”
“นี่เธอกล้าเสียงดังใส่ฉันรึศศิพิมพ์”
“พิมขอโทษค่ะคุณปู่ พิมแค่อยากบอกว่าคุณปู่ศัลย์ต้องการจะรักษาสัญญาเหมือนกันค่ะ เพียงแต่ว่าสรเขา เอ่อ เขามีคนรักแล้ว คุณปู่ศัลย์เลยส่งพิมมาแทนค่ะ” ศศิพิมพ์เป็นคนโกหกไม่เก่ง ซ่อนสีหน้าก็ไม่เก่ง ทำให้ชายชราถึงกับหัวเราะออกมาในลำคอเบา ๆ