4 มัจจุราชหน้าหล่อ
“ฉันอุตส่าห์รีบขับรถมาจากสีลมเพราะกลัวสาย แต่ดันโดนเลื่อนวันถ่าย แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?” เธอโวยวายกับน้ำขิงอย่างไม่พอใจกับการทำงานของเจ้าของแบรนด์ดัง
นึกจะเลื่อนก็เลื่อนกะทันหันโดยไม่บอกก่อนล่วงหน้าสักหนึ่งวัน คนอุตส่าห์รีบแหกขี้ตาตื่นเพื่อมาให้ทันเพราะกลัวสาย พอมาถึงดันเจอเรื่องให้เซอร์ไพรส์เสียนี่…
“เลื่อนเพราะคนๆ เดียวจ้าาา”
“ใคร?”
“นางแบบที่จะมาถ่ายกับเราไง ผู้จัดการของนางโทรมาบอกว่าวันนี้ไม่สบาย ขอเลื่อนไปเป็นวันอื่นแทนได้ไหม แถมยังเกทับมาอีกว่า ถ้าไม่ได้ก็จะถอนตัวแล้วคืนเงินที่ทางแบรนด์โอนมัดจำกลับคืนไปให้”
“สรุปแล้วทางแบรนด์ยอม?”
“ต้องยอมสิ แบรนด์ไม่มีทางปล่อยให้นางหลุดไปได้ง่ายๆ หรอก ยิ่งช่วงนี้นางบูมอยู่ด้วย คงยาก”
“รู้เลยว่าใคร” เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้มาว่าจะมีนางแบบคนหนึ่งมาร่วมถ่ายด้วย ตอนแรกไม่รู้ว่าใคร พอได้ฟังน้ำขิงเล่าถึงรู้ว่าเป็นใคร
‘ซีเนียร์’
นางแบบที่กำลังฮอตอยู่ตอนนี้ ช่วงนี้ถือเป็นขาขึ้นของนางเลยก็ว่าได้ แอบได้ยินช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และทีมงานในกองพูดถึงซีเนียร์อยู่บ่อยๆ ตอนแรกที่เข้ามาในวงการอะไรก็ได้ พอหลังๆ เริ่มดังกลายเป็นคนเรื่องมากขึ้นมาเสียอย่างนั้น
นี่เธอกับน้ำขิงต้องร่วมงานกับซีเนียร์จริงๆ หรือเนี่ย…
“นั่นแหละ แกเดาถูก ทำเอาฉันอยากถอนตัวเลย ไม่อยากเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับคนอย่างนาง”
“ทำไงได้ล่ะ ถ้าถอนตัวตอนนี้ พวกเราก็กลายเป็นซีเนียร์สองไปทันที”
“นั่นสิ ฝืนถ่ายไปให้มันจบๆ ไปเลยดีกว่า” แม้ไม่อยากร่วมงานด้วย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะมันคืองานและหน้าที่
“แล้ววันนี้เราจะไปไหนดี ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว ไปหาอะไรกินดีไหม?” น้ำขิงชวน
“เอาสิ หิวอยู่พอดีเลย” โดนเทงานกะทันหัน คงต้องหันไปซบของกินอร่อยๆ หวังให้มันช่วยเยียวยาอารมณ์หงุดหงิด
•••
มีนาและน้ำขิงเดินชอปปิงต่อหลังจากทานอะไรเสร็จ ในมือมีถุงจากแบรนด์ดังคนละอันสองอัน เวลาสองสาวเพื่อนซี้มาชอปปิงด้วยกันทีไรไม่เคยมีใครห้ามปราม มีแต่ยุยงให้เสียเงินอย่างเดียว
นี่แหละเพื่อนแท้…
เรื่องเสียเงินไม่เคยห้าม ซัปพอร์ตกันดีเหลือเกินเรื่องแบบนี้
“แกว่าอันนี้สวยไหมมีน”
“สวยนะ เหมาะกับแกเลย” เธอบอกน้ำขิง ก่อนที่สายตาจะพลันไปเห็นชายชุดดำสองคนซึ่งกำลังยืนทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างนอกร้านแบรนด์เนมชื่อดัง
สังเกตเห็นสองคนนั้นตั้งแต่ร้านแบรนด์เนมล่าสุดที่เข้าแล้วแต่ไม่ได้อะไร มาตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมถึงตาม
คงไม่ใช่พวกของผู้ชายคนนั้นหรอกนะ…
เริ่มระแวงว่าเขาจะให้คนสะกดรอยตามหรือเปล่า เพราะดูจากการแต่งตัวและบุคลิกแล้ว เหมือนลูกน้องของผู้ชายคนนั้นไม่มีผิด
“มีอะไรเหรอมีน?”
“เปล่า ดูสร้อยต่อเถอะ” ไม่อยากพูดให้น้ำขิงพลอยกังวลและกลัวตามไปด้วย
หลังจากได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วสองสาวจึงเดินมายังลานจอดรถ โดยมีนาและน้ำขิงได้แยกกันตรงนี้
“ขับรถกลับดีๆ นะน้ำขิง”
“แกด้วยนะมีน บายๆ”
เธอโบกมือให้เพื่อนสนิทก่อนจะเดินตรงไปยังรถของตัวเองซึ่งไม่ได้จอดอยู่โซนเดียวกับน้ำขิง วันนี้วันหยุด คนค่อนข้างเยอะและหาที่จอดยาก หยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋า ทว่ากลับมือไม้อ่อนแรงเผลอทำหล่น
พรึ่บ!
กุญแจรถถูกมือของใครบางคนแย่งไปอย่างเสียมารยาท วินาทีแรกแอบไม่พอใจ แต่พอเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของการกระทำดังกล่าวเท่านั้น ความรู้สึกทุกอย่างพลันหายวับไปกับตา
มัจจุราชหน้าหล่อ…
“ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ”
คำทักทายฟังดูปกติทั่วไป หากแต่พอเป็นผู้ชายคนนี้พูดกลับกลายเป็นทำให้ขนลุกซู่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ตะ…ต้องการอะไร”
“เข้าไปคุยกันในรถสิ”
“คุยตรงนี้…” ขณะโต้ตอบน้ำเสียงก็พานสั่นเครือตามไปด้วย จะว่ากลัวก็ได้ยอมรับ
“บีเอ็มดับบิวสีขาวที่เพิ่งขับออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อนเธอเหรอ?”
“ยะ…อย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ!” เธอสวนขึ้นทันควัน
มุมปากหยักได้รูปเหยียดยิ้ม แววตาที่ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้พานทำให้เธอรู้สึก…หวาดกลัว
“รถจอดอยู่ตรงนั้น” สายตาคมเข้มปรายไปมองรถหรูคันสีดำขลับติดฟิล์มกระจกมืดทึบ
สายตาที่ดึงกลับมามองมีนาไม่ใช่การบอกแต่เป็นการบังคับ สุดท้ายแล้วหญิงสาวต้องยอมเดินไปขึ้นรถตามที่มัจจุราชบัญชา…