บท
ตั้งค่า

3 จับตาดูให้ดี

ณ โกดังเก็บสินค้า

เวลา 02.45 น.

“ทางนั้นเรียบร้อยไหม”

“เรียบร้อยครับนาย”

“แล้วหนอนบ่อนไส้ที่คิดจะวางเพลิงโกดังกูล่ะ”

“จัดการตามที่นายสั่งเรียบร้อยแล้วครับ”

“อืม”

“มีอีกเรื่องที่ผมต้องรายงานนายครับ”

“ว่ามา”

“ผู้หญิงคนนั้นที่มาเห็นตอนนายฆ่าคนของฮันเตอร์ เธอชื่อมีนา หรือมีนาลินทร์ พิธาตรัยกิจสกุลครับ”

“…” เขาหันไปมอง ธารา ลูกน้องคนสนิทที่เพิ่งบอกชื่อของผู้หญิงคนนั้น ตอนแรกตั้งใจกลับไปคิดบัญชีด้วย พอได้ยินแบบนี้ มันกลับทำให้เขาเริ่มคิดไม่ตก

มีนาเป็นผู้หญิงที่ครอบครัวของเขาจะให้แต่งงานด้วย…

เขาและเธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ไม่เคยนัดเจอกัน เพราะไม่ได้สนใจเรื่องของเธอเลยไม่ได้ให้คนตามสืบประวัติ

ไม่คิดว่าโชคชะตาจะนำพาให้มาเจอกัน มิหนำซ้ำเขายังเกือบฆ่า ‘ว่าที่เจ้าสาว’ หากเรื่องนี้ถึงหูคนเป็นพ่อคงโดนตำหนิหนักอย่างแน่นอน

เดาว่ามีนาก็คงไม่รู้ว่าเขาคือคนที่ตัวเองต้องแต่งงานด้วย เพราะไม่เคยเปิดเผยอะไรให้อีกฝ่ายรับรู้เลยแม้กระทั่งชื่อ เราสองคนหมั้นกันผ่านวาจาของครอบครัว เขายอมตกลงแต่งงานกับมีนาโดยขอคนเป็นพ่อ ไม่เปิดเผยตัวตนจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน และมีนาเองก็เช่นกัน ทำให้กลายเป็นว่าไม่เคยรู้จักกันทั้งที่กำลังจะแต่งงาน

“ผมไม่ได้ตั้งใจละลาบละล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้หญิงคนนั้น พนักงานที่ไนต์คลับนำบัตรประชาชนของเธอมาให้ผมเก็บไว้ เลยได้รู้ว่าเธอเป็นคนของตระกูลพิธาตรัยกิจสกุล”

“อืม” เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร โลกมันช่างกลมดี คนที่คิดจะฆ่ากลับกลายเป็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง

ตลกสิ้นดี…

“นายจะยังฆ่าเธออยู่ไหมครับ?” ผู้หญิงคนนั้นเป็นว่าที่นายหญิงของพวกเขา อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้านายคิดจะฆ่าเธออยู่ไหม

“ก็อยากฆ่าให้ตายเหมือนกัน” หากไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาวของเขา มีนาคงได้บอกลาโลกนี้ไปแล้วจริงๆ

“เดี๋ยวกูขับรถกลับเอง”

“ได้ครับนาย”

เขารับกุญแจรถจากคนสนิทมาแล้วเดินออกไป คืนนี้คงสะสางเรื่องมีนาก่อนเป็นอันดับแรก เดาว่าตอนนี้เธอคงกำลังหาทางหนี ใครจะปล่อยให้ความตายคืบคลานเข้ามาหาตัวเองกัน

รอดจากความตายในวันนี้ ใช่ว่าจะอยู่อย่างสงบสุข ตราบใดที่ต้องแต่งงานกับเขา

เขาให้โอกาสมีนาหายใจต่อ เท่ากับว่าเธอติดค้างหนี้บุญคุณกับเขาอยู่…

หลายวันต่อมา

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดร้องปลุกให้คนที่กำลังนอนหลับตื่นจากห้วงนิทรา มีนาพยายามควานหาเสียงรบกวนน่ารำคาญทั้งที่เปลือกตายังแนบสนิท

“ฮัลโหล…” น้ำเสียงงัวเงียกรอกทักทายปลายสายโดยไม่มองเบอร์ว่าเป็นใคร

รบกวนเวลานอนคนอื่นถือเป็นบาปขั้นสุด คนกำลังนอนหลับสบายได้ที่อยู่แล้วเชียว ใครกันที่ริอ่านโทรมาในเวลานี้!

(ตื่นรึยังจ้ะ แต่ฟังจากเสียงก็น่าจะรู้แล้วว่าเพิ่งตื่นตอนฉันโทรไป)

“ใครเนี่ย” เพราะความง่วงนอนบังตา เลยทำให้ไม่รู้เลยว่าใครคือเจ้าของน้ำเสียงนี้ ไม่ได้ตั้งใจฟังเพราะมัวแต่ห่วงนอน

เมื่อคืนเธอนอนเกือบตีห้าเพราะว่านอนไม่หลับ บวกกับมีเรื่องราวมากมายให้ต้องคิดจนเกิดเป็นความเครียด

(โอ้ยย นี่เมานอนจนจำเสียงเพื่อนไม่ได้แล้วเหรอ)

“น้ำขิงเหรอ?”

(เยส)

“อ๋อ… มีอะไรอะ”

(บ่ายโมงครึ่งเรามีนัดถ่ายแบบ แกคงไม่ได้ลืมไปแล้วใช่ไหม?)

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว”

(จะเที่ยงแล้วค่าแม่นาง)

พรึ่บ!

เปลือกตาที่แนบสนิทเปิดกว้าง อาการง่วงนอนหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อ น้ำขิง เพื่อนสนิทของเธอบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว

จากง่วงนอนอยู่กลายเป็นตื่นเต็มสองตา…

“ทำไมเพิ่งโทรมาเนี่ย!”

(เอ้า! ก็คิดว่าแกตื่นแล้ว ปกติแกนอนตื่นเช้าจะตาย)

“แล้วคิดยังไงถึงโทรมา”

(ปกติแกจะไลน์มาถามว่าฉันตื่นยัง วันนี้เห็นเงียบผิดปกติเลยโทรมาหาแกเนี่ย)

“ขอบใจแกมากนะน้ำขิงงง ถ้าไม่ได้แกฉันสายแน่ๆ”

(เออๆ อย่ามัวแต่ขอบคุณ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว)

“โอเค เจอกันนะ” เธอวางสายจากน้ำขิง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไปชาร์ตแบตแล้วผลุนผลันเดินเข้าห้องน้ำด้วยความเร่งรีบ

เพราะมัวแต่เครียดเรื่องแต่งงานจนทำให้นอนไม่หลับ เธอเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดปีแต่กลับต้องมาแต่งงานกับมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ที่ไม่เคยหน้าค่าตา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยังอายุน้อยแถมยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย อยากรู้ว่าครอบครัวเธอและเขาคิดอะไรกันอยู่

ถ้าขอเลื่อนงานแต่งออกไปตอนเรียนจบมหาวิทยาลัย พวกเขาจะยอมไหมนะ

เธอยังไม่พร้อมแต่งงานตอนนี้…

แต่งงานตอนอายุยังน้อยมีหวังตกเป็นขี้ปากชาวบ้านพอดี ที่แน่ๆ พวกเขาอาจจะคิดว่าเธอ ‘ท้องก่อนแต่ง’

“เห้อ~” เธอถอนหายใจออกมาระหว่างกำลังยืนอาบน้ำ

จู่ๆ สมองก็พาย้อนกลับไปในอดีตตอนที่เธอเกือบตายด้วยเงื้อมมือมัจจุราชหน้าหล่อคนนั้น แค่คิดยังขนลุกและหวาดกลัวไม่หาย ภาพตอนถูกเอาปืนจ่อหัวยังติดตา

วินาทีนั้นคือถ้าตายก็ดี ถ้ารอดก็ถือว่าโชคดี…

“ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงรู้จักชื่อเรา…” ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทว่าเขากลับรู้จักชื่อและนามสกุลของเธออย่างแม่นยำ แบบนี้ก็แอบเป็นเรื่องความปลอดภัยคนรอบข้างของตัวเองเหมือนกันว่าจะเป็นอันตรายไหม

“ช่างมันเถอะ ขอแค่อย่ายุ่งกับคนรอบตัวก็พอ” เธอรีบอาบน้ำให้เสร็จเพื่อออกไปถ่ายแบบ

หลังจากทำอะไรเสร็จแล้วมีนาก็รีบลงยังรถของตัวเองทันที เธอสตาร์ตรถแล้วขับออกไป หารู้ไม่ว่ามีคนในรถกำลังเฝ้ามอง

“เธอออกไปแล้วครับนาย” คนในรถต่อสายหาเจ้านายเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของมีนา

วิคเตอร์ไม่ไว้วางใจว่ามีนาจะทำตามที่รับปากได้

(ที่สั่งทำแล้วใช่ไหม)

“เรียบร้อยครับ ผมติดเครื่องติดตามไว้ที่รถของเธอแล้ว”

(จับตาดูให้ดี ถ้ามีนาเล่นตุกติก บอกกู)

“ครับนาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel